รอยเตอร์ – ฮิลลารี คลินตันเขียนจดหมายเปิดใจเตรียมปิดฉากการแข่งขันกับบารัค โอบามาอย่างเป็นทางการวันเสาร์(7)นี้ โดยจะประกาศสนับสนุนอดีตคู่แข่งอย่างเต็มที่ในการชิงเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาว และให้คำมั่นจะช่วยสร้างเอกภาพภายในพรรคเพื่อรับมือกับแมคเคนแห่งรีพับลิกัน ด้านโอบามาตั้งทีมงานเฟ้นหาตัวผู้สมัครชิงรองประธานาธิบดี โดยมีแคโรไลน์ เคนเนดี เป็นหัวหน้า
“วันเสาร์นี้ ดิฉันจะแสดงความยินดีกับวุฒิสมาชิกโอบามา และจะประกาศสนับสนุนเขาเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งเก้าอี้ประธานาธิบดี” คลินตันระบุในจดหมายที่เผยแพร่ต่อผู้สนับสนุนของเธอเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี (5)
“ดิฉันพูดมาตลอดการหาเสียงว่าจะสนับสนุนวุฒิสมาชิกโอบามาอย่างแข็งขัน หากเขาได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และดิฉันตั้งใจที่จะรักษาสัญญานั้น”
คลินตันกล่าวย้ำด้วยว่าเธอจะร่วมงานฉลองที่วอชิงตันในคืนวันเสาร์เพื่อขอบคุณทุกๆ คนที่สนับสนุนเธอมาตลอด โดยในตอนแรกนั้นงานดังกล่าวมีแผนจะจัดขึ้นในคืนวันศุกร์ ทว่าได้เลื่อนกำหนดการออกไปเพื่อรอให้ผู้สนับสนุนมาร่วมงานกันมากขึ้น
“ครั้งนี้นับเป็นการหาเสียงที่ยาวนานและต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง แต่ดิฉันก็ได้บอกเสมอมาว่า ข้อแตกต่างระหว่างดิฉันกับวุฒิสมาชิกโอบามานั้นมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหากเทียบกับข้อแตกต่างระหว่างดิฉันกับวุฒิสมาชิกแมคเคนและพรรครีพับลิกัน” เธอระบุเพิ่มเติมในจดหมายดังกล่าว
“ดิฉันจะแถลงในวันเสาร์ว่าเราจะสามารถช่วยเหลือพรรคโดยอยู่ข้างหลังวุฒิสมาชิกโอบามาได้อย่างไร เดิมพันครั้งนี้สูงมากเหลือเกิน และภารกิจเบื้องหน้าของเราก็มีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด”
คลินตันใช้เวลาส่วนใหญ่ตลอดวันพุธ (4) พูดคุยกับผู้สนับสนุนเธอ โดยหลายต่อหลายคนได้ขอให้เธอถอนตัวจากการแข่งขันเพราะโอบามานั้นเป็นผู้กุมชัยชนะได้แล้ว ส่วนโอบามาได้เข้าร่วมงานหาทุนสนับสนุนการเลือกตั้งถึงสองงานที่นิวยอร์กเมื่อคืนวันพุธ และกล่าวว่า “ตอนนี้เรื่องระหองระแหงในครอบครัวก็จบไปแล้ว พวกเราทุกคนจะได้โฟกัสไปยังสิ่งที่จะต้องทำในเดือนพฤศจิกายน”
ทั้งนี้โอบามาได้ประกาศตั้งทีมงานจำนวนสามคนเพื่อดูแลเรื่องการหาตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในขณะที่เขาเองก็ได้เริ่มดำเนินสร้างเอกภาพภายในพรรคทันทีที่มีชัยชนะในการเป็นตัวแทนพรรคแล้ว
แคโรไลน์ เคนเนดี บุตรสาวของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดีผู้ล่วงลับ จะเป็นหัวหน้าทีมในการเฟ้นหาตัวผู้สมัครคู่กับโอบามา โดยเธอจะร่วมมือกับเอริก โฮลเดอร์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการยุติธรรม และจิม จอห์นสัน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธุรกิจสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ แฟนนี แม ซึ่งเคยรับผิดชอบงานเดียวกันนี้ให้กับเดโมแครตในสมัยที่จอห์น เคอร์รี ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2004 และเมื่อวลเตอร์ มอนเดล ลงสมัครในปี 1984
วาระเร่งด่วนของทีมงานนี้ก็คือการพิจารณาถึงปัญหาความเป็นไปได้ในการรวมทีมกับคลินตันซึ่งแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมงานกับโอบามา หลังหมดโอกาสเป็นตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว
“เราจะเจรจากันในช่วงสัปดาห์หน้านี้” โอบามาตอบเมื่อถูกถามเกี่ยวกับคลินตัน และเขายังแสดงความมั่นใจว่าพรรคจะร่วมมือกันอย่างเป็นเอกภาพเพื่อเอาชนะการเลือกตั้งใหญ่ได้
หลังจากที่มีข่าวการตัดสินใจของคลินตันเปิดออกมา ลินดา ดักลาส ที่ปรึกษาของโอบามาก็ได้กล่าวชมคลินตันว่าเป็นผู้ที่แข่งขันอย่างดีเยี่ยม และกล่าวว่า
“ผู้สนับสนุนเธอมีเหตุผลทุกประการที่จะเข้าร่วมและฉลองให้กับเธอ และเราก็มั่นใจว่าพรรคจะมีเอกภาพได้ด้วยความช่วยเหลือของเธอ”
ทว่าทีมหาเสียงของโอบามานั้นบอกว่าการเฟ้นหาตัวรองประธานาธิบดีเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
“วุฒิสมาชิกโอบามาต้องการให้มีคนสามคนซึ่งมีความสามารถและเสียสละเข้ามาดูแลกระบวนการที่หนักมากนี้” บิล เบอร์ตัน โฆษกทีมหาเสียงของโอบามาบอก “เขาจะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับคนทั้งสามนี้ในช่วงสองสามสัปดาห์ข้างหน้า แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาจะเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องนี้แต่โดยลำพัง”
“วันเสาร์นี้ ดิฉันจะแสดงความยินดีกับวุฒิสมาชิกโอบามา และจะประกาศสนับสนุนเขาเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งเก้าอี้ประธานาธิบดี” คลินตันระบุในจดหมายที่เผยแพร่ต่อผู้สนับสนุนของเธอเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี (5)
“ดิฉันพูดมาตลอดการหาเสียงว่าจะสนับสนุนวุฒิสมาชิกโอบามาอย่างแข็งขัน หากเขาได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และดิฉันตั้งใจที่จะรักษาสัญญานั้น”
คลินตันกล่าวย้ำด้วยว่าเธอจะร่วมงานฉลองที่วอชิงตันในคืนวันเสาร์เพื่อขอบคุณทุกๆ คนที่สนับสนุนเธอมาตลอด โดยในตอนแรกนั้นงานดังกล่าวมีแผนจะจัดขึ้นในคืนวันศุกร์ ทว่าได้เลื่อนกำหนดการออกไปเพื่อรอให้ผู้สนับสนุนมาร่วมงานกันมากขึ้น
“ครั้งนี้นับเป็นการหาเสียงที่ยาวนานและต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง แต่ดิฉันก็ได้บอกเสมอมาว่า ข้อแตกต่างระหว่างดิฉันกับวุฒิสมาชิกโอบามานั้นมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหากเทียบกับข้อแตกต่างระหว่างดิฉันกับวุฒิสมาชิกแมคเคนและพรรครีพับลิกัน” เธอระบุเพิ่มเติมในจดหมายดังกล่าว
“ดิฉันจะแถลงในวันเสาร์ว่าเราจะสามารถช่วยเหลือพรรคโดยอยู่ข้างหลังวุฒิสมาชิกโอบามาได้อย่างไร เดิมพันครั้งนี้สูงมากเหลือเกิน และภารกิจเบื้องหน้าของเราก็มีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด”
คลินตันใช้เวลาส่วนใหญ่ตลอดวันพุธ (4) พูดคุยกับผู้สนับสนุนเธอ โดยหลายต่อหลายคนได้ขอให้เธอถอนตัวจากการแข่งขันเพราะโอบามานั้นเป็นผู้กุมชัยชนะได้แล้ว ส่วนโอบามาได้เข้าร่วมงานหาทุนสนับสนุนการเลือกตั้งถึงสองงานที่นิวยอร์กเมื่อคืนวันพุธ และกล่าวว่า “ตอนนี้เรื่องระหองระแหงในครอบครัวก็จบไปแล้ว พวกเราทุกคนจะได้โฟกัสไปยังสิ่งที่จะต้องทำในเดือนพฤศจิกายน”
ทั้งนี้โอบามาได้ประกาศตั้งทีมงานจำนวนสามคนเพื่อดูแลเรื่องการหาตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในขณะที่เขาเองก็ได้เริ่มดำเนินสร้างเอกภาพภายในพรรคทันทีที่มีชัยชนะในการเป็นตัวแทนพรรคแล้ว
แคโรไลน์ เคนเนดี บุตรสาวของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดีผู้ล่วงลับ จะเป็นหัวหน้าทีมในการเฟ้นหาตัวผู้สมัครคู่กับโอบามา โดยเธอจะร่วมมือกับเอริก โฮลเดอร์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการยุติธรรม และจิม จอห์นสัน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธุรกิจสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ แฟนนี แม ซึ่งเคยรับผิดชอบงานเดียวกันนี้ให้กับเดโมแครตในสมัยที่จอห์น เคอร์รี ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2004 และเมื่อวลเตอร์ มอนเดล ลงสมัครในปี 1984
วาระเร่งด่วนของทีมงานนี้ก็คือการพิจารณาถึงปัญหาความเป็นไปได้ในการรวมทีมกับคลินตันซึ่งแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมงานกับโอบามา หลังหมดโอกาสเป็นตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว
“เราจะเจรจากันในช่วงสัปดาห์หน้านี้” โอบามาตอบเมื่อถูกถามเกี่ยวกับคลินตัน และเขายังแสดงความมั่นใจว่าพรรคจะร่วมมือกันอย่างเป็นเอกภาพเพื่อเอาชนะการเลือกตั้งใหญ่ได้
หลังจากที่มีข่าวการตัดสินใจของคลินตันเปิดออกมา ลินดา ดักลาส ที่ปรึกษาของโอบามาก็ได้กล่าวชมคลินตันว่าเป็นผู้ที่แข่งขันอย่างดีเยี่ยม และกล่าวว่า
“ผู้สนับสนุนเธอมีเหตุผลทุกประการที่จะเข้าร่วมและฉลองให้กับเธอ และเราก็มั่นใจว่าพรรคจะมีเอกภาพได้ด้วยความช่วยเหลือของเธอ”
ทว่าทีมหาเสียงของโอบามานั้นบอกว่าการเฟ้นหาตัวรองประธานาธิบดีเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
“วุฒิสมาชิกโอบามาต้องการให้มีคนสามคนซึ่งมีความสามารถและเสียสละเข้ามาดูแลกระบวนการที่หนักมากนี้” บิล เบอร์ตัน โฆษกทีมหาเสียงของโอบามาบอก “เขาจะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับคนทั้งสามนี้ในช่วงสองสามสัปดาห์ข้างหน้า แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาจะเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องนี้แต่โดยลำพัง”