นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการเสนอ ครม.ปรับย้ายข้าราชการระดับ 10 หลายตำแหน่งในกระทรวงยุติธรรมว่า ครม.อนุมัติตามที่ตนเสนอโดยย้ายสลับตำแหน่งให้นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ จากเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ไปเป็นผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรี และย้าย พล.ต.ท.กฤษณะ ผลอนันต์ จากผู้ตรวจสำนักนายกฯ มาเป็นเลขาธิการ ป.ป.ส. เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายกิตติ เคยถูกย้ายจากผู้ตรวจสำนักนายกฯสลับกับ พล.ต.ท.กฤษณะ จึงให้ย้ายสลับกลับมาที่เดิม เนื่องจาก พล.ต.ท.กฤษณะ มีผลงานด้านการปราบปรามยาเสพติดมาก่อน
ส่วนที่นายนายนัทธี จิตสว่าง จากอธิบดีกรมกรมคุมประพฤติ ไปเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ สลับกับนายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปเป็นอธิบดีกรมคุมประพฤติ เนื่องจากนายนัทธีเชี่ยวชาญงานราชทัณฑ์ มีวิสัยทัศน์พัฒนาและแก้ปัญหาภายในกรมราชทัณฑ์ได้ดี แต่ไม่ใข้ว่านายวันชัย จะทำงานไม่ดี แต่อยากให้กลับไปทำงานที่กรมคุมประพฤติที่เคยทำมาก่อน
“การโยกย้ายครั้งนี้ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง แต่เป็นการคืนความเป็นธรรม ให้คน เก่า ส่วนตำแหน่งของนายกิตติ ซึ่งถูกโยกย้ายหลายครั้ง ผมไม่ได้มองจุดนั้น แต่มอง ที่ว่านายกิตติเคยถูกย้ายสลับ กับพล.ต.ท.กฤษณะ จึงต้องคืนความเป็นธรรมให้”
นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ ไม่รู้สึกอะไร เพราะได้เตรียมตัวเตรียมใจมานานแล้ว การย้ายไปสลับ กับ พล.ต.ท.กฤษณะ ก็เหมือนการย้ายกลับไปดำรงตำแหน่งเดิม เมื่อครั้งปี 2549
“สำหรับผมไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ จึงไม่มีความคิดจะเออรี่รีไทร์ หรือลาออกจากราชการ เพราะร่างกายยังแข็งแรง ไม่มีเหตุเจ็บป่วยอะไร”
ด้านนายวันชัย ซึ่งถูกย้ายสลับกับนายนัทธี กล่าวว่า ตนได้รับการทาบทาม จากนายสมพงษ์ ว่าจะย้ายตนกลับกรมคุมประพฤติ ก็ไม่ขัดข้อง แต่อยากทำงาน ที่กรมราชทัณฑ์ให้ครบ 1 ปี เพราะเพิ่งย้ายมารับตำแหน่ง เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายครั้งนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการสั่งซื้อขายยาเสพติดจากในเรือนจำ เพราะกรณีดังกล่าวจบไปแล้ว ล่าสุด ตนได้ดำเนินการทางวินัยและทางอาญากับเจ้าหน้าที่เรือนจำในจังหวัดแห่งหนึ่ง ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การย้ายครั้งนี้ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องทางการเมือง
ทั้งนี้นายนัทธี มีความสนิทสนมกับรัฐบาลยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนจ.เชียงใหม่ และมีภรรยาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาย พ.ต.ท.ทักษิณ เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์มา 4 ปี จนครบเกณฑ์ที่ต้องย้าย จึงถูกโยกสลับกับนายวันชัยเมื่อเดือนต.ค.2550 แต่ถูกย้ายไปไม่ถึงปี ก็ย้ายกลับมาเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์เช่นเดิม
ส่วนที่นายนายนัทธี จิตสว่าง จากอธิบดีกรมกรมคุมประพฤติ ไปเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ สลับกับนายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปเป็นอธิบดีกรมคุมประพฤติ เนื่องจากนายนัทธีเชี่ยวชาญงานราชทัณฑ์ มีวิสัยทัศน์พัฒนาและแก้ปัญหาภายในกรมราชทัณฑ์ได้ดี แต่ไม่ใข้ว่านายวันชัย จะทำงานไม่ดี แต่อยากให้กลับไปทำงานที่กรมคุมประพฤติที่เคยทำมาก่อน
“การโยกย้ายครั้งนี้ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง แต่เป็นการคืนความเป็นธรรม ให้คน เก่า ส่วนตำแหน่งของนายกิตติ ซึ่งถูกโยกย้ายหลายครั้ง ผมไม่ได้มองจุดนั้น แต่มอง ที่ว่านายกิตติเคยถูกย้ายสลับ กับพล.ต.ท.กฤษณะ จึงต้องคืนความเป็นธรรมให้”
นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ ไม่รู้สึกอะไร เพราะได้เตรียมตัวเตรียมใจมานานแล้ว การย้ายไปสลับ กับ พล.ต.ท.กฤษณะ ก็เหมือนการย้ายกลับไปดำรงตำแหน่งเดิม เมื่อครั้งปี 2549
“สำหรับผมไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ จึงไม่มีความคิดจะเออรี่รีไทร์ หรือลาออกจากราชการ เพราะร่างกายยังแข็งแรง ไม่มีเหตุเจ็บป่วยอะไร”
ด้านนายวันชัย ซึ่งถูกย้ายสลับกับนายนัทธี กล่าวว่า ตนได้รับการทาบทาม จากนายสมพงษ์ ว่าจะย้ายตนกลับกรมคุมประพฤติ ก็ไม่ขัดข้อง แต่อยากทำงาน ที่กรมราชทัณฑ์ให้ครบ 1 ปี เพราะเพิ่งย้ายมารับตำแหน่ง เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายครั้งนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการสั่งซื้อขายยาเสพติดจากในเรือนจำ เพราะกรณีดังกล่าวจบไปแล้ว ล่าสุด ตนได้ดำเนินการทางวินัยและทางอาญากับเจ้าหน้าที่เรือนจำในจังหวัดแห่งหนึ่ง ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การย้ายครั้งนี้ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องทางการเมือง
ทั้งนี้นายนัทธี มีความสนิทสนมกับรัฐบาลยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนจ.เชียงใหม่ และมีภรรยาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาย พ.ต.ท.ทักษิณ เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์มา 4 ปี จนครบเกณฑ์ที่ต้องย้าย จึงถูกโยกสลับกับนายวันชัยเมื่อเดือนต.ค.2550 แต่ถูกย้ายไปไม่ถึงปี ก็ย้ายกลับมาเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์เช่นเดิม