พะเยา - ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา ชี้ป่าถูกรุกหนัก พบทั้งชาวเขาย้ายถิ่น นายทุนในพื้นที่และปักษ์ใต้ แห่กว้านซื้อต่อเนื่อง คาดมีนายทุนต่างชาติเข้ามาหนุนหลังการซื้อขายด้วย ทำให้พื้นที่ป่าพะเยา เหลือเพียง 50%ของพื้นที่ทั้งจังหวัดเท่านั้น เผย 4 อำเภอถูกรุกหนักสุด
นายอนุสิทธิ์ เมธาวรารักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา เปิดเผยถึงสถานการณ์การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในจังหวัดพะเยา ว่า จังหวัดพะเยาติด 1 ใน 20 ของจังหวัดที่มีปัญหาการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าไม้รุนแรงของประเทศไทย ที่มีสาเหตุหลักจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการอพยพย้ายถิ่นฐานมาจากต่างถิ่นโดยเฉพาะชาวไทยภูเขา
นอกจากนี้ ทราบว่าขณะนี้มีนายทุนมาซื้อที่ดินจากชาวบ้าน เข้ามาในลักษณะการทำสัญญาร่วมทุน เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย ส่งผลให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะนำมาขายให้แก่นายทุน โดยบางรายกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านนับพันไร่ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการต่อชาวบ้าน ก็จะมีปัญหาขัดแย้งอยู่เป็นประจำ
ชาวบ้านไม่ทราบถึงความซับซ้อนของวิธีการของกลุ่มนายทุน ทำให้ชาวบ้านมองเพียงแค่ การทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นไปในลักษณะการรังแกประชาชน ตามข้อเท็จจริงแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องการปกป้องพื้นที่ป่าไม้ของชาติไม่ให้ถูกบุกรุกโดยนายทุน และต้องการรักษาสิทธิการถือครองที่ดินให้แก่ชาวบ้าน
จากการที่มีการบุกรุกทำลายป่าจำนวนมาก ทำให้ขณะนี้ พื้นที่ป่าในพะเยา เหลือเพียง 50 %ของพื้นที่จังหวัดเท่านั้น
โดยพื้นที่พบปัญหาการบุกรุกค่อนข้างรุนแรง ได้แก่ อ.เมือง อ.ดอกคำใต้ อ.ปง และ อ.เชียงม่วน ตามลำดับ
ส่วนที่มีกระแสข่าวการกว้านซื้อที่ดินของกลุ่มนายทุนต่างชาติ ขณะนี้ยังไม่พบในพื้นที่จังหวัดพะเยา แต่เชื่อว่าน่าจะมีการสนับสนุนเงิน เนื่องจากต้องใช้เงินจำนวนมากในการกว้านซื้อที่ดิน
นายอนุสิทธิ์ เปิดเผยอีกว่า ในขณะนี้ได้รื้อคดีบุกรุกที่เกิดขึ้นย้อนหลังไป 4 ปี พร้อมขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการฟื้นฟูพื้นที่ถูกบุกรุก และขอให้ชาวบ้านไม่บุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อนำมาขายให้แก่นายทุน เพราะจะทำให้เสียสิทธิ์ในการถือครองที่ดิน ขณะที่การแก้ไขปัญหาหลายหน่วยงานต้องให้ความร่วมมือ เช่น ประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร จึงจะสำเร็จ เนื่องจากกลุ่มนายทุนมีการดำเนินการกันเป็นขบวนการที่ซับซ้อน
นายอนุสิทธิ์ เมธาวรารักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา เปิดเผยถึงสถานการณ์การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในจังหวัดพะเยา ว่า จังหวัดพะเยาติด 1 ใน 20 ของจังหวัดที่มีปัญหาการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าไม้รุนแรงของประเทศไทย ที่มีสาเหตุหลักจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการอพยพย้ายถิ่นฐานมาจากต่างถิ่นโดยเฉพาะชาวไทยภูเขา
นอกจากนี้ ทราบว่าขณะนี้มีนายทุนมาซื้อที่ดินจากชาวบ้าน เข้ามาในลักษณะการทำสัญญาร่วมทุน เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย ส่งผลให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะนำมาขายให้แก่นายทุน โดยบางรายกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านนับพันไร่ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการต่อชาวบ้าน ก็จะมีปัญหาขัดแย้งอยู่เป็นประจำ
ชาวบ้านไม่ทราบถึงความซับซ้อนของวิธีการของกลุ่มนายทุน ทำให้ชาวบ้านมองเพียงแค่ การทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นไปในลักษณะการรังแกประชาชน ตามข้อเท็จจริงแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องการปกป้องพื้นที่ป่าไม้ของชาติไม่ให้ถูกบุกรุกโดยนายทุน และต้องการรักษาสิทธิการถือครองที่ดินให้แก่ชาวบ้าน
จากการที่มีการบุกรุกทำลายป่าจำนวนมาก ทำให้ขณะนี้ พื้นที่ป่าในพะเยา เหลือเพียง 50 %ของพื้นที่จังหวัดเท่านั้น
โดยพื้นที่พบปัญหาการบุกรุกค่อนข้างรุนแรง ได้แก่ อ.เมือง อ.ดอกคำใต้ อ.ปง และ อ.เชียงม่วน ตามลำดับ
ส่วนที่มีกระแสข่าวการกว้านซื้อที่ดินของกลุ่มนายทุนต่างชาติ ขณะนี้ยังไม่พบในพื้นที่จังหวัดพะเยา แต่เชื่อว่าน่าจะมีการสนับสนุนเงิน เนื่องจากต้องใช้เงินจำนวนมากในการกว้านซื้อที่ดิน
นายอนุสิทธิ์ เปิดเผยอีกว่า ในขณะนี้ได้รื้อคดีบุกรุกที่เกิดขึ้นย้อนหลังไป 4 ปี พร้อมขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการฟื้นฟูพื้นที่ถูกบุกรุก และขอให้ชาวบ้านไม่บุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อนำมาขายให้แก่นายทุน เพราะจะทำให้เสียสิทธิ์ในการถือครองที่ดิน ขณะที่การแก้ไขปัญหาหลายหน่วยงานต้องให้ความร่วมมือ เช่น ประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร จึงจะสำเร็จ เนื่องจากกลุ่มนายทุนมีการดำเนินการกันเป็นขบวนการที่ซับซ้อน