ผู้จัดการรายวัน - “คุมอง” เผยไตรมาสแรกปี 51 จำนวนนักเรียนทั่วประเทศเพิ่ม 32% พร้อมเปิด 2 สำนักงานภูมิภาคที่เชียงใหม่และขอนแก่นรองรับการขยายตัว ย้ำเป้าหมายสิ้นปีนี้เพิ่มจำนวนนักเรียนในประเทศไทยถึง 90,000 คน พร้อมขยายแฟรนไชส์เพิ่มอีก 36 แห่ง และมุ่งสู่ที่ 1 ของคุมองในเอเชียและโอเชียเนีย
นายพัธนะชัย กมลเนตร ผู้บริหาร ฝ่ายบริหารและการวางแผน สถาบันการศึกษาคณิตศาสตร์และภาษา “คุมอง” เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวจากภาวะค่าน้ำมันแพง แต่ตลาดการศึกษาในประเทศไทยปี 2008 ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท ยังคงเติบโตต่อเนื่องเพราะผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการปูพื้นฐานความรู้แก่บุตรหลานมากกว่าแต่ก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ ปัจจุบันผู้ปกครองจำนวนมากมีความเข้าใจและหันมาให้ความสนใจต่อการมีส่วนร่วมพัฒนาบุตรหลานของตน โดยการส่งเสริมความรู้แก่บุตรหลานตั้งแต่วัยเด็กมากขึ้น
ทั้งนี้ผลประกอบการในไตรมาสแรกปี 2551 (ม.ค.-มี.ค. 2551) นี้นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดย มีศูนย์แฟรนไชส์คุมองรวมทั่วประเทศจำนวน 396 แห่ง เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 321 ศูนย์ มีจำนวนนักเรียน 73,855 คน คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2550 นอกจากนั้นแล้วคุมองยังมีเด็กที่สามารถเรียนเกินชั้นเรียนถึง 30.1% ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด
ความสำเร็จของคุมองในประเทศไทยที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพของศูนย์คุมองทั้งวิชาคณิตศาสตร์ซึ่งมี 23 ระดับ และภาษาอังกฤษซึ่งมี 21 ระดับ ผลจากแคมเปญทดลองเรียนฟรี (Free Trial program) ในเดือนมีนาคม 2551 ที่เปิดโอกาสให้เด็กไทยทดลองเรียนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 8,398 คน
ในช่วงไตรมาสแรกคุมองยังได้เปิดสำนักงานประจำภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ และ สำนักงานประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือในจังหวัดขอนแก่น เพื่อรองรับการพัฒนาการศึกษาและการเจริญเติบโตในภูมิภาคของศูนย์คุมอง
“คุมองไม่ใช่โรงเรียนกวดวิชา แต่คุมองเป็นสถาบันพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์และภาษาที่มุ่งเน้นในการสร้างกำลังในการเรียนรู้โดยพัฒนาศักยภาพของเด็กแต่ละคน โดยค่าเล่าเรียนเตรียมอนุบาล ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 1,284 บาท/เดือน/วิชา ส่วนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง ผู้ใหญ่ 1,391 บาท/เดือน/วิชา”
สำหรับแผนการตลาดและเป้าหมายในปี 2551 นั้น คือ ตั้งเป้าหมายจำนวนนักเรียนในประเทศไทย 90,000 คน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตจากปีที่แล้ว 23% เป้าหมายจำนวนศูนย์คุมองในรูปแบบแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นอีก 36 แห่ง หรือ ประมาณ 10% ซึ่งการขยายสาขาจะเน้นที่คุณภาพเป็นสำคัญ และตั้งเป้าหมายปีนี้ว่า ประเทศไทยจะมีนักเรียนมากเป็นอันดับที่ 1 ของคุมองในเอเชียและโอเชียเนีย โดยมีแผนการสื่อสารการตลาดปี 2551 คือการทำสื่อสารโฆษณา ประชาสัมพันธ์ รวมถึงกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อส่งเสริมแบรนด์คุมองให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น อีกทั้งยังวางแผนเพิ่มจำนวนศูนย์ที่เปิดสอนวิชาภาษาไทยจำนวน 40 ศูนย์ ภายในสิ้นปีนี้
“ในอนาคตของคุมอง ยังพัฒนาระบบไอทีคอมพิวเตอร์ ERPที่สามารถเชื่อมโยงคุมองทุกศูนย์รวมถึงสำนักงานใหญ่เพื่อประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสารและการดำเนินงานด้วย”
นายพัธนะชัยกล่าวด้วยว่า คุมองให้ความสำคัญกับกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ Corporate Social Responsibility (CSR) เช่น โครงการ Kumon for All เริ่มขึ้นในปี 2548 เพื่อมอบโอกาสให้เด็กที่ด้อยโอกาสในสังคมได้เรียนรู้ด้วยระบบการเรียนแบบคุมอง มีเป้าหมายอยู่ที่การสร้างกำลังในการเรียนรู้ให้แก่เด็ก เป็นต้น
นายพัธนะชัย กมลเนตร ผู้บริหาร ฝ่ายบริหารและการวางแผน สถาบันการศึกษาคณิตศาสตร์และภาษา “คุมอง” เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวจากภาวะค่าน้ำมันแพง แต่ตลาดการศึกษาในประเทศไทยปี 2008 ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท ยังคงเติบโตต่อเนื่องเพราะผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการปูพื้นฐานความรู้แก่บุตรหลานมากกว่าแต่ก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ ปัจจุบันผู้ปกครองจำนวนมากมีความเข้าใจและหันมาให้ความสนใจต่อการมีส่วนร่วมพัฒนาบุตรหลานของตน โดยการส่งเสริมความรู้แก่บุตรหลานตั้งแต่วัยเด็กมากขึ้น
ทั้งนี้ผลประกอบการในไตรมาสแรกปี 2551 (ม.ค.-มี.ค. 2551) นี้นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดย มีศูนย์แฟรนไชส์คุมองรวมทั่วประเทศจำนวน 396 แห่ง เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 321 ศูนย์ มีจำนวนนักเรียน 73,855 คน คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2550 นอกจากนั้นแล้วคุมองยังมีเด็กที่สามารถเรียนเกินชั้นเรียนถึง 30.1% ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด
ความสำเร็จของคุมองในประเทศไทยที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพของศูนย์คุมองทั้งวิชาคณิตศาสตร์ซึ่งมี 23 ระดับ และภาษาอังกฤษซึ่งมี 21 ระดับ ผลจากแคมเปญทดลองเรียนฟรี (Free Trial program) ในเดือนมีนาคม 2551 ที่เปิดโอกาสให้เด็กไทยทดลองเรียนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 8,398 คน
ในช่วงไตรมาสแรกคุมองยังได้เปิดสำนักงานประจำภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ และ สำนักงานประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือในจังหวัดขอนแก่น เพื่อรองรับการพัฒนาการศึกษาและการเจริญเติบโตในภูมิภาคของศูนย์คุมอง
“คุมองไม่ใช่โรงเรียนกวดวิชา แต่คุมองเป็นสถาบันพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์และภาษาที่มุ่งเน้นในการสร้างกำลังในการเรียนรู้โดยพัฒนาศักยภาพของเด็กแต่ละคน โดยค่าเล่าเรียนเตรียมอนุบาล ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 1,284 บาท/เดือน/วิชา ส่วนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง ผู้ใหญ่ 1,391 บาท/เดือน/วิชา”
สำหรับแผนการตลาดและเป้าหมายในปี 2551 นั้น คือ ตั้งเป้าหมายจำนวนนักเรียนในประเทศไทย 90,000 คน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตจากปีที่แล้ว 23% เป้าหมายจำนวนศูนย์คุมองในรูปแบบแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นอีก 36 แห่ง หรือ ประมาณ 10% ซึ่งการขยายสาขาจะเน้นที่คุณภาพเป็นสำคัญ และตั้งเป้าหมายปีนี้ว่า ประเทศไทยจะมีนักเรียนมากเป็นอันดับที่ 1 ของคุมองในเอเชียและโอเชียเนีย โดยมีแผนการสื่อสารการตลาดปี 2551 คือการทำสื่อสารโฆษณา ประชาสัมพันธ์ รวมถึงกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อส่งเสริมแบรนด์คุมองให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น อีกทั้งยังวางแผนเพิ่มจำนวนศูนย์ที่เปิดสอนวิชาภาษาไทยจำนวน 40 ศูนย์ ภายในสิ้นปีนี้
“ในอนาคตของคุมอง ยังพัฒนาระบบไอทีคอมพิวเตอร์ ERPที่สามารถเชื่อมโยงคุมองทุกศูนย์รวมถึงสำนักงานใหญ่เพื่อประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสารและการดำเนินงานด้วย”
นายพัธนะชัยกล่าวด้วยว่า คุมองให้ความสำคัญกับกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ Corporate Social Responsibility (CSR) เช่น โครงการ Kumon for All เริ่มขึ้นในปี 2548 เพื่อมอบโอกาสให้เด็กที่ด้อยโอกาสในสังคมได้เรียนรู้ด้วยระบบการเรียนแบบคุมอง มีเป้าหมายอยู่ที่การสร้างกำลังในการเรียนรู้ให้แก่เด็ก เป็นต้น
