ผู้สื่อข่ารายงานว่าเมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (20 พ.ค.) มีการประชุม คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)กระทั่งเวลา 19.00 น. นายสัก กอแสงเรือง โฆษก ได้แถลงภายหลังการประชุมใหญ่ คตส.ว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการสรุปโครงการบ้านเอื้ออาทร ในส่วนโครงการเคหะบางพลี ร่มเกล้า ที่มีนายแก้วสรร อติโพธิ เลขาธิการ คตส.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน โดยที่ประชุมยังมีการตั้งข้อสังเกตให้คณะอนุกรรมการไต่สวนกลับไปศึกษาทบทวน ผลการสอบ โดยขอทราบผลการสอบในภาพรวมของโครงการทั้งหมด เพื่อจะได้ร่วมพิจารณาให้เห็นภาพในโครงการอื่นๆ ด้วย โดยที่ประชุมไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าควรจะเสนอให้คตส.พิจารณาอีกครั้งเมื่อใด แต่ควรเสนอก่อนที่คตส.จะหมดวาระ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมานายแก้วสรร ได้แยกตรวจสอบโครงการบ้านเอื้ออาทร เป็นส่วน ๆ มานานแล้ว เหตุใดคตส.จึงเพิ่งจะรู้สึกและสั่งให้กลับไปเสนอเป็นภาพรวม นายสัก กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการฯ ยังไม่มีการสรุปสำนวนเข้าที่ประชุม เพียงแต่เป็นการหารือและรายงานความคืบหน้าเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเสนอเป็นรายงาน สรุปแล้ว ทางคตส.จึงขอให้คณะอนุกรรมการสรุปภาพรวมเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน ส่วนที่ผ่านมานายแก้วสรร เคยเสนอการตรวจสอบออกเป็นการทุจริตโควตา และทุจริตรับสินบน แต่คตส.บอกให้เสนอเป็นภาพรวม แต่เมื่อเสนอมาเป็นภาพรวม คตส.ก็สั่งให้แยกโครงการ และเมื่อเสนอมาครั้งนี้แบบแยกส่วนแล้วเหตุใดจึงสั่งให้เสนอเป็นภาพรวม อีก นายสัก กล่าวว่า ที่ประชุมอยากให้มีการเสนอเข้ามาทั้งสองส่วนเป็นภาพรวมพร้อมกันทั้งหมด เพื่อดูความเชื่อมโยงของสำนวนและความถูกต้องให้ได้ความสมบูรณ์ที่สุด
ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ กล่าวว่า สำนวนการสอบโครงการบ้านเอื้ออาทร คณะอนุกรรมการฯได้ทำสำนวนเป็นรายโควต้า 4 โครงการ และทุจริตโควตาอีก 1 โครงการ รวมเป็น 5 สำนวน ซึ่งเมื่อ คตส.ตัดสินใจอย่างไรก็ต้องดำเนินการตาม แต่คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน อย่างไรก็ตามยังยืนยันที่จะเสนอแยกสำนวน หากคตส.จะพิจารณารวมได้ก็รวมกันไป หากรวมไม่ได้ก็แยก แต่หากเกิดอะไรขึ้น คตส.ก็ต้องรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุสำคัญที่ คตส.มีความเห็นให้อนุกรรมการการ ไต่สวนบ้านเอื้ออาทร กลับไปพิจารณาสำนวนอีกครั้ง เนื่องจากกรรมการ คตส.ส่วนใหญ่ เห็นว่าโครงการนี้ถือเป็นนโยบายของรัฐบาล ดังนั้นการเสนอให้เอาผิดเฉพาะผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ เพียงคนเดียวไม่น่าจะสมเหตุผลเพราะเป็นไปได้ยากที่ ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติจะดำเนินการเพียงลำพัง หากเห็นว่าเป็นความผิดก็น่าจะมีบุคคลอื่นร่วมด้วยโดยเฉพาะ นายวัฒนา เมืองสุข รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จนทำให้บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยนายแก้วสรร ถึงขนาดพูดกลางที่ประชุมว่าหากจะยกคดีนี้ ก็ให้ยกไปเลยแล้วกันแต่ปรากฏว่าบรรดากรรมการ คตส.ได้กล่าวอย่างประณีประนอมว่าสาเหตุที่ท้วงติง ไม่ต้องการที่จะยกคดี แต่อยากให้อนุกรรมการกลับไปรวมหลายโครงการเข้ามา พร้อมกันและเสนอเข้ามาอีกครั้ง
นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.กล่าวว่า ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ คตส.นัดประชุมนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาสรุปสำนวนการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ในสนามบนสุวรรณภูมิอีกครั้งเพื่อตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของสำนวนทั้งหมดก่อนที่จะส่งให้อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมานายแก้วสรร ได้แยกตรวจสอบโครงการบ้านเอื้ออาทร เป็นส่วน ๆ มานานแล้ว เหตุใดคตส.จึงเพิ่งจะรู้สึกและสั่งให้กลับไปเสนอเป็นภาพรวม นายสัก กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการฯ ยังไม่มีการสรุปสำนวนเข้าที่ประชุม เพียงแต่เป็นการหารือและรายงานความคืบหน้าเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเสนอเป็นรายงาน สรุปแล้ว ทางคตส.จึงขอให้คณะอนุกรรมการสรุปภาพรวมเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน ส่วนที่ผ่านมานายแก้วสรร เคยเสนอการตรวจสอบออกเป็นการทุจริตโควตา และทุจริตรับสินบน แต่คตส.บอกให้เสนอเป็นภาพรวม แต่เมื่อเสนอมาเป็นภาพรวม คตส.ก็สั่งให้แยกโครงการ และเมื่อเสนอมาครั้งนี้แบบแยกส่วนแล้วเหตุใดจึงสั่งให้เสนอเป็นภาพรวม อีก นายสัก กล่าวว่า ที่ประชุมอยากให้มีการเสนอเข้ามาทั้งสองส่วนเป็นภาพรวมพร้อมกันทั้งหมด เพื่อดูความเชื่อมโยงของสำนวนและความถูกต้องให้ได้ความสมบูรณ์ที่สุด
ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ กล่าวว่า สำนวนการสอบโครงการบ้านเอื้ออาทร คณะอนุกรรมการฯได้ทำสำนวนเป็นรายโควต้า 4 โครงการ และทุจริตโควตาอีก 1 โครงการ รวมเป็น 5 สำนวน ซึ่งเมื่อ คตส.ตัดสินใจอย่างไรก็ต้องดำเนินการตาม แต่คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน อย่างไรก็ตามยังยืนยันที่จะเสนอแยกสำนวน หากคตส.จะพิจารณารวมได้ก็รวมกันไป หากรวมไม่ได้ก็แยก แต่หากเกิดอะไรขึ้น คตส.ก็ต้องรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุสำคัญที่ คตส.มีความเห็นให้อนุกรรมการการ ไต่สวนบ้านเอื้ออาทร กลับไปพิจารณาสำนวนอีกครั้ง เนื่องจากกรรมการ คตส.ส่วนใหญ่ เห็นว่าโครงการนี้ถือเป็นนโยบายของรัฐบาล ดังนั้นการเสนอให้เอาผิดเฉพาะผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ เพียงคนเดียวไม่น่าจะสมเหตุผลเพราะเป็นไปได้ยากที่ ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติจะดำเนินการเพียงลำพัง หากเห็นว่าเป็นความผิดก็น่าจะมีบุคคลอื่นร่วมด้วยโดยเฉพาะ นายวัฒนา เมืองสุข รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จนทำให้บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยนายแก้วสรร ถึงขนาดพูดกลางที่ประชุมว่าหากจะยกคดีนี้ ก็ให้ยกไปเลยแล้วกันแต่ปรากฏว่าบรรดากรรมการ คตส.ได้กล่าวอย่างประณีประนอมว่าสาเหตุที่ท้วงติง ไม่ต้องการที่จะยกคดี แต่อยากให้อนุกรรมการกลับไปรวมหลายโครงการเข้ามา พร้อมกันและเสนอเข้ามาอีกครั้ง
นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.กล่าวว่า ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ คตส.นัดประชุมนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาสรุปสำนวนการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ในสนามบนสุวรรณภูมิอีกครั้งเพื่อตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของสำนวนทั้งหมดก่อนที่จะส่งให้อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง