ผู้จัดการรายวัน – รักลูกกรุ๊ป จ่อคิวเตรียมผุดหัวหนังสือเล่มใหม่ ยังลังเลจะเป็นกลุ่มแม่และเด็ก หรือผู้หญิง ดี แต่ทุ่มไม่อั้น เตรียมอัดเม็ดเงิน 30 ล้าน กลางปีนี้คลอดแน่ เชื่อมองการณ์ไกล เทอีก 20 ล้าน กลยุทธ์ธุรกิจด้านออนไลน์ หวังต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ ล่าสุดปรับรอบบัญชีใหม่ปีนี้ เริ่มนับ ก.ค.-มิ.ย. แทน ม.ค.-ธ.ค. ส่งผลรายได้ปี 51 จาก 1ม.ค. 51-30 มิ.ย.51 นี้ คาดมีรายได้อยู่ที่ 150 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนทำได้ 260 ล้านบาท โตขึ้นเล็กน้อย
นายธีรพงษ์ เขมฤกษ์อำพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท รักลูก แฟมิลี่ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของปีนี้ที่มองว่าน่าจะดีขึ้นบวกกับแนวโน้มธุรกิจนิตยสารที่ยังเชื่อว่ามีช่องว่างอีกมากในการทำตลาด ปีนี้ทางบริษัทฯจึงได้เตรียมการลงทุนไว้หลายอย่างเพื่อเป็นการขยายงาน โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจนิตยสาร
ปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะออกนิตยสารรายเดือนขึ้นมาอีก 1 หัว โดยจะยังคงเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับแม่และเด็ก ตามที่บริษัทฯมีความเชี่ยวชาญ เบื้องต้นกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะออกเป็นหนังสือเกี่ยวกับกลุ่มแม่และเด็ก หรือผู้หญิงที่มีเรื่องของไลฟ์สไตล์เข้ามาเกี่ยวข้องดี ทั้งนี้มองว่าไม่เกินกลางปีนี้ จะเริ่มวางแผงได้แน่นอน ภายใต้งบลงประมาณที่คาดว่าจะต้องใช้ทั้งในด้านการลงทุนและการทำตลาดเปิดตัวหนังสือเพื่อให้ติดตลาดไว้ 30 ล้านบาท
นอกจากนี้จากการที่ทางบริษัทฯพบว่าสื่อออนไลน์กำลังเริ่มเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น โดยมีผู้บริโภคคนไทยหลายกลุ่ม โดยเฉพาะวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ที่เริ่มทำงานไม่นาน จะมีการใช้อินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันกระแสหนังสือออนไลน์ก็เริ่มได้รับความสนใจจากผู้อ่านในปัจจุบันสูงขึ้นด้วย
ดังนั้นปีนี้ทางบริษัทฯได้มีการพัฒนาเว็บไซต์ของบริษัทฯให้สามารถรองรับความต้องการของผู้อ่านในกลุ่มดังกล่าวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน โดยปีนี้ทางบริษัทฯได้จัดงบประมาณอีก 20 ล้านบาท สำหรับพัฒนาเว็บไซต์ของรักลูก เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้อ่านให้มากขึ้น รวมทั้งยังเป็นการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจในการที่จะใช้เว็บไซต์ดังกล่าวในการต่อยอดสร้างรายได้ต่อไปในอนาคต
นายธีรพงษ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามปีนี้ทางบริษัทฯได้มีการปรับรอบบัญชีประจำปีใหม่ จากเดิมที่เริ่มจากเดือนม.ค.-ธ.ค.ในปีก่อน มาเป็นเริ่มนับรอบบัญชีใหม่ตั้งแต่เดือน ก.ค.2551-มิ.ย.2552 นี้เป็นต้นไปแทน ซึ่งเหตุผลที่มีการปรับรอบบัญชีใหม่นี้ เนื่องจากที่ผ่านมาช่วงปลายปี บริษัทฯจะต้องการวางแผนการดำเนินธุรกิจของปีต่อไป และยังต้องมาตรวจสอบ และพยายามสร้างรายได้อีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งทำให้การทำงานช่วงปลายปีค่อนข้างหนัก
ดังนั้นเมื่อเปลี่ยนรอบบัญชีใหม่นี้ จะทำให้พนักงานทำงานเบาขึ้น และไม่เครียดในการทำงานด้วยและจากการปรับรอบบัญชีใหม่นี้ ส่งผลให้ปีนี้จึงมีการรวบรวมรายได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น คือ ตั้งแต่ ม.ค.51-มิ.ย.51 ทางบริษัทฯมองว่าน่าจะมีผลประกอบการใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกของปีก่อน คือประมาณ 150 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนมีอัตราการเติบโตขึ้นเล็กน้อย โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 260 ล้านบาท
ส่วนรอบบัญชีใหม่ที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนก.ค.ที่จะถึงนี้ เชื่อว่าน่าจะมีผลประกอบที่สูงกว่าของปี 2550 เนื่องจากมองว่าจากการเปิดตัวนิตยสารเล่มใหม่ และการเริ่มรับรู้รายได้จากสื่ออนไลน์ และจากแหล่งรายได้อื่นๆที่บริษัทฯจะทำขึ้นอีกหลังจากนี้
นายธีรพงษ์ เขมฤกษ์อำพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท รักลูก แฟมิลี่ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของปีนี้ที่มองว่าน่าจะดีขึ้นบวกกับแนวโน้มธุรกิจนิตยสารที่ยังเชื่อว่ามีช่องว่างอีกมากในการทำตลาด ปีนี้ทางบริษัทฯจึงได้เตรียมการลงทุนไว้หลายอย่างเพื่อเป็นการขยายงาน โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจนิตยสาร
ปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะออกนิตยสารรายเดือนขึ้นมาอีก 1 หัว โดยจะยังคงเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับแม่และเด็ก ตามที่บริษัทฯมีความเชี่ยวชาญ เบื้องต้นกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะออกเป็นหนังสือเกี่ยวกับกลุ่มแม่และเด็ก หรือผู้หญิงที่มีเรื่องของไลฟ์สไตล์เข้ามาเกี่ยวข้องดี ทั้งนี้มองว่าไม่เกินกลางปีนี้ จะเริ่มวางแผงได้แน่นอน ภายใต้งบลงประมาณที่คาดว่าจะต้องใช้ทั้งในด้านการลงทุนและการทำตลาดเปิดตัวหนังสือเพื่อให้ติดตลาดไว้ 30 ล้านบาท
นอกจากนี้จากการที่ทางบริษัทฯพบว่าสื่อออนไลน์กำลังเริ่มเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น โดยมีผู้บริโภคคนไทยหลายกลุ่ม โดยเฉพาะวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ที่เริ่มทำงานไม่นาน จะมีการใช้อินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันกระแสหนังสือออนไลน์ก็เริ่มได้รับความสนใจจากผู้อ่านในปัจจุบันสูงขึ้นด้วย
ดังนั้นปีนี้ทางบริษัทฯได้มีการพัฒนาเว็บไซต์ของบริษัทฯให้สามารถรองรับความต้องการของผู้อ่านในกลุ่มดังกล่าวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน โดยปีนี้ทางบริษัทฯได้จัดงบประมาณอีก 20 ล้านบาท สำหรับพัฒนาเว็บไซต์ของรักลูก เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้อ่านให้มากขึ้น รวมทั้งยังเป็นการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจในการที่จะใช้เว็บไซต์ดังกล่าวในการต่อยอดสร้างรายได้ต่อไปในอนาคต
นายธีรพงษ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามปีนี้ทางบริษัทฯได้มีการปรับรอบบัญชีประจำปีใหม่ จากเดิมที่เริ่มจากเดือนม.ค.-ธ.ค.ในปีก่อน มาเป็นเริ่มนับรอบบัญชีใหม่ตั้งแต่เดือน ก.ค.2551-มิ.ย.2552 นี้เป็นต้นไปแทน ซึ่งเหตุผลที่มีการปรับรอบบัญชีใหม่นี้ เนื่องจากที่ผ่านมาช่วงปลายปี บริษัทฯจะต้องการวางแผนการดำเนินธุรกิจของปีต่อไป และยังต้องมาตรวจสอบ และพยายามสร้างรายได้อีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งทำให้การทำงานช่วงปลายปีค่อนข้างหนัก
ดังนั้นเมื่อเปลี่ยนรอบบัญชีใหม่นี้ จะทำให้พนักงานทำงานเบาขึ้น และไม่เครียดในการทำงานด้วยและจากการปรับรอบบัญชีใหม่นี้ ส่งผลให้ปีนี้จึงมีการรวบรวมรายได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น คือ ตั้งแต่ ม.ค.51-มิ.ย.51 ทางบริษัทฯมองว่าน่าจะมีผลประกอบการใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกของปีก่อน คือประมาณ 150 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนมีอัตราการเติบโตขึ้นเล็กน้อย โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 260 ล้านบาท
ส่วนรอบบัญชีใหม่ที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนก.ค.ที่จะถึงนี้ เชื่อว่าน่าจะมีผลประกอบที่สูงกว่าของปี 2550 เนื่องจากมองว่าจากการเปิดตัวนิตยสารเล่มใหม่ และการเริ่มรับรู้รายได้จากสื่ออนไลน์ และจากแหล่งรายได้อื่นๆที่บริษัทฯจะทำขึ้นอีกหลังจากนี้