ผู้จัดการรายวัน – ไซโกประเทศไทย แต่งตั้งโทรคาเดโรไทม์ ขยายฐานตลาดนาฬิกาพรีเมี่ยม พร้อมดัน 4 ขุนพลหลัก รุกตลาด ขยายช่องทางโมเดิร์นเทรด
นายภูริช มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ ไซโก และ อัลบา กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดนาฬิกาในขณะนี้มีกาแข่งขันที่เข้มข้นมาก จากผู้ประกอบการที่เข้าสู่ธุรกิจนี้มากขึ้นในทุกตลาดไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาแฟชั่น นาฬิกาสปอร์ต หรือนากาที่ใช้งานทั่วไปและการแข่งขันยังครอบคลุมทุกตลาดด้วยและแนวโน้มของผู้ประกอบการจะเริ่มทำตลาดแบบนิชมาร์เก็ตมากขึ้นเช่น นาฬิกาดำน้ำ นาฬิกาวิ่ง นาฬิกาแข่งรถ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ไซโกมีแผนที่จะรุกตลาดเต็มที่ในทุกระดับตลาดให้มากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดระดับบนหรือ พรีมี่ยม ขณะเดียวกันในตลาดระดับแมสและกลางนั้นไซโกก็ยังให้ความสำคัญเพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ทั้งในแง่ปริมาณและมูลค่าด้วย
ทั้งนี้ไซโกอาศัยจุดแข็งของความเป็นนาฬิกาเพียง 1 ใน 2 แบรนด์ของโลกที่มีการผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาเองทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นข้อได้เปรียบในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆตลอดเวลา รวมทั้งจะยังคงเน้นการนำเสนอภายใต้กลยุทธ์ “4ขุนพล” ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันเองในบริษัท โดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับระบบกลไกนาฬิกาของไซโก คือ นาฬิกาจักรกล นาฬิกาควอตซ์ นาฬิกาคีเนติก และนาฬิกาสปริงเรย์ โดยในแต่ละคอลเลคชั่นจะทำทั้ง 4 ระบบ เพื่อคลุมตลาด และไซโกยังมีระดับราคากว้างมาก ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวาง
สำหรับแผนตลาดในปีนี้ ในส่วนของนาฬิการะดับพรีเมียม ได้แต่งตั้งให้บริษัท โทรคาเดโรไทม์ จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบจัดจำหน่าย เนื่องจากมีความชำนาญและมีช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายระดับบนได้ดี โดยตั้งแต่ต้นปีนี้นาฬิกาพรีเมี่ยมระดับราคาแสนกว่าบาทขึ้นไปเติบโตถึง 300% ขณะที่บริษัทมีดีลเลอร์กว่า 600 รายทั่วประเทศ และช่องทาด้านห้างสรรพสินค้า โดยมีแผนที่จะขยายช่องทางจำหน่ายด้านโมเดิร์นเทรดมากขึ้น และจะออกรุ่นใหม่ในปีนี้มากกว่า 300 แบบ
ในปีนี้จะมีบริการใหม่ๆเช่น ในเดือนหน้าจะเปิดบริการหากลูกค้าที่มาซ่อมที่ไวโกแล้วต้องกลับมาซ่อมใหม่ภายในช่วงเวลา 6-12 เดือน บริษัทฯจะไม่คิดค่าบริการ รวมทั้งยังได้ขยายเวลารับประกันหลังซ่อมจากเดิม 6 เดือน เป็น 12 เดือน
สำหรับผลประกอบการปีที่แล้วมีอัตราเติบโตเป็นเลขสองหลัก และคาดว่าปีนี้จะเติบโตเช่นกัน (ปีงบประมาณเริ่มวันที่ 1 เมษายน) ซึ่งนาฬิการะดับราคาปานกลางจำหน่ายได้มากและเติบโตมากที่สุด ทั้งนี้จากความสำเร็จของไซโกประเทศไทย ทำให้บริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นยอมรับผลงานจึงเลือกให้ไซโกประเทศไทยเป็น 1 ใน 6 ประเทศที่ให้ผู้บริหารของไซโก มาอธิบายถึงแผนการตลาดให้กับบริษัทแม่ฟัง โดยประกอบด้วยไซโกประเทศ ไทย อเมริกา เยอรมัน ฝรั่งเศส ฮอลแลนด์ และอังกฤษ ซึ่งไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชีย
นายภูริช มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ ไซโก และ อัลบา กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดนาฬิกาในขณะนี้มีกาแข่งขันที่เข้มข้นมาก จากผู้ประกอบการที่เข้าสู่ธุรกิจนี้มากขึ้นในทุกตลาดไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาแฟชั่น นาฬิกาสปอร์ต หรือนากาที่ใช้งานทั่วไปและการแข่งขันยังครอบคลุมทุกตลาดด้วยและแนวโน้มของผู้ประกอบการจะเริ่มทำตลาดแบบนิชมาร์เก็ตมากขึ้นเช่น นาฬิกาดำน้ำ นาฬิกาวิ่ง นาฬิกาแข่งรถ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ไซโกมีแผนที่จะรุกตลาดเต็มที่ในทุกระดับตลาดให้มากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดระดับบนหรือ พรีมี่ยม ขณะเดียวกันในตลาดระดับแมสและกลางนั้นไซโกก็ยังให้ความสำคัญเพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ทั้งในแง่ปริมาณและมูลค่าด้วย
ทั้งนี้ไซโกอาศัยจุดแข็งของความเป็นนาฬิกาเพียง 1 ใน 2 แบรนด์ของโลกที่มีการผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาเองทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นข้อได้เปรียบในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆตลอดเวลา รวมทั้งจะยังคงเน้นการนำเสนอภายใต้กลยุทธ์ “4ขุนพล” ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันเองในบริษัท โดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับระบบกลไกนาฬิกาของไซโก คือ นาฬิกาจักรกล นาฬิกาควอตซ์ นาฬิกาคีเนติก และนาฬิกาสปริงเรย์ โดยในแต่ละคอลเลคชั่นจะทำทั้ง 4 ระบบ เพื่อคลุมตลาด และไซโกยังมีระดับราคากว้างมาก ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวาง
สำหรับแผนตลาดในปีนี้ ในส่วนของนาฬิการะดับพรีเมียม ได้แต่งตั้งให้บริษัท โทรคาเดโรไทม์ จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบจัดจำหน่าย เนื่องจากมีความชำนาญและมีช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายระดับบนได้ดี โดยตั้งแต่ต้นปีนี้นาฬิกาพรีเมี่ยมระดับราคาแสนกว่าบาทขึ้นไปเติบโตถึง 300% ขณะที่บริษัทมีดีลเลอร์กว่า 600 รายทั่วประเทศ และช่องทาด้านห้างสรรพสินค้า โดยมีแผนที่จะขยายช่องทางจำหน่ายด้านโมเดิร์นเทรดมากขึ้น และจะออกรุ่นใหม่ในปีนี้มากกว่า 300 แบบ
ในปีนี้จะมีบริการใหม่ๆเช่น ในเดือนหน้าจะเปิดบริการหากลูกค้าที่มาซ่อมที่ไวโกแล้วต้องกลับมาซ่อมใหม่ภายในช่วงเวลา 6-12 เดือน บริษัทฯจะไม่คิดค่าบริการ รวมทั้งยังได้ขยายเวลารับประกันหลังซ่อมจากเดิม 6 เดือน เป็น 12 เดือน
สำหรับผลประกอบการปีที่แล้วมีอัตราเติบโตเป็นเลขสองหลัก และคาดว่าปีนี้จะเติบโตเช่นกัน (ปีงบประมาณเริ่มวันที่ 1 เมษายน) ซึ่งนาฬิการะดับราคาปานกลางจำหน่ายได้มากและเติบโตมากที่สุด ทั้งนี้จากความสำเร็จของไซโกประเทศไทย ทำให้บริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นยอมรับผลงานจึงเลือกให้ไซโกประเทศไทยเป็น 1 ใน 6 ประเทศที่ให้ผู้บริหารของไซโก มาอธิบายถึงแผนการตลาดให้กับบริษัทแม่ฟัง โดยประกอบด้วยไซโกประเทศ ไทย อเมริกา เยอรมัน ฝรั่งเศส ฮอลแลนด์ และอังกฤษ ซึ่งไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชีย