xs
xsm
sm
md
lg

เปิด”อะควาเรียม”สวนสัตว์เชียงใหม่ต.ค. ชูจุดขายอุโมงค์ใต้น้ำยาวที่สุดในโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – สวนสัตว์เชียงใหม่เปิด “อะควาเรียม”มูลค่า 600 ล้านบาทตุลาคมนี้ ชูจุดขายอุโมงค์ใต้น้ำยาวที่สุดในโลก จำลองบรรยากาศใต้บาดาล แสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืด-น้ำเค็มหายากและน่าสนใจจากทั่วโลก 250 ชนิด รวมกว่า 8,000 ตัว ให้สิทธิเอกชนบริหารจัดการ 20 ปี แล้วแบ่งผลประโยชน์จากสัดส่วนรายได้ การันตีขั้นต่ำ 15 ล้านบาทต่อปี ตั้งเป้าหมาย 7 ปีคืนทุน

นายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยความพร้อมในการเปิดอาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหรืออะควาเรียมของสวนสัตว์เชียงใหม่ว่า การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วราว 90% เหลือเพียงการเก็บรายละเอียดและตกแต่งจำลองบรรยากาศภายในให้เสมือนกับอยู่ใต้น้ำจริงๆ รวมทั้งติดตั้งอุโมงค์ใต้น้ำ ตามเป้าหมายกำหนดจะเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวได้ประมาณเดือนตุลาคม 2551
 
โครงการนี้ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 600 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนกันระหว่างองค์การสวนสัตว์ฯ กับบริษัทมารีนสเคป(ประเทศไทย) จำกัด ที่ลงทุนฝ่ายละ 300 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการบริษัทฯ จะได้รับสิทธิเป็นผู้บริหารจัดการอะควาเรียมเป็นเวลา 20 ปี โดยแบ่งผลตอบแทนให้แก่องค์การสวนสัตว์ฯ จากสัดส่วนรายได้ ซึ่งมีการกำหนดขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท

นายโรจน์ ธุวนลิน กรรมการผู้จัดการบริษัทมารีนสเคป(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าอะควาเรียมแห่งนี้ที่กำลังจะก่อสร้างเสร็จและจะเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวได้ในเร็วๆ นี้ มีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งสิ้น 13,895 ตารางเมตร ตัวอาคารแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ โถงต้อนรับ และส่วนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่เชื่อมต่อกัน

ในส่วนของส่วนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ จะแบ่งเป็นส่วนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืดและสัตว์น้ำเค็ม ซึ่งแต่ละส่วนทำเป็นอุโมงค์ลอดผ่านใต้น้ำความยาวรวมทั้งสิ้น 133 เมตร หรือส่วนละ 66.5 เมตร ทั้งนี้เส้นทางเดินชมพันธุ์สัตว์น้ำภายในอะควาเรียมจะมีความยาวรวมทั้งสิ้น 800 เมตร ใช้เวลาในการเดินชมรอบละประมาณ 50 นาที และสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้พร้อมกันถึง 1,000 คน ในแต่ละรอบ

“โครงการนี้เป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างบริษัทฯ กับองค์การสวนสัตว์ฯ ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 600 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะแบ่งผลประโยชน์ให้แก่องค์การสวนสัตว์ฯ ในสัดส่วน 35 % ของรายได้ทั้งหมด ตลอดช่วงเวลาที่บริหารจัดการอะควาเรียมแห่งนี้ ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายว่าเมื่อเปิดให้บริการแล้วจะสามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 7 ปี หรือไม่เกิน 10 ปี อย่างแน่นอน” นายโรจน์ กล่าว

ด้านนายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัทมารีนสเคป(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทฯ ได้เดินหน้าประชาสัมพันธ์และทำการตลาดท่องเที่ยวแล้ว โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรปและเอเชีย โดยจะชูจุดขายที่อุโมงค์ชมพันธุ์สัตว์น้ำจืดที่ยาวที่สุดในโลก และอุโมงค์ชมพันธุ์สัตว์น้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังชูจุดเด่นไปที่การจำลองบรรยากาศและแสดงพันธุ์สัตว์น้ำในแม่น้ำโขง ที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เบื้องต้นกำหนดเป้าหมายว่าจะมีสัดส่วน 40% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด

สำหรับอัตราค่าเข้าชมอะควาเรียม ผู้ใหญ่คนละ 180 บาท เด็ก 120 บาท ส่วนชาวต่างชาติคนละ 380 บาท ซึ่งถือว่าเป็นอัตราค่าเข้าชมที่ต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับอะควาเรียมในต่างประเทศ นอกจากนี้กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะให้คนชราที่มีอายุเกิน 69 ปี และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าชมฟรีด้วย

ในส่วนของพันธุ์สัตว์น้ำที่จะนำมาจัดแสดงในอะควาเรียม ผู้ช่วยศาสตราจารย์อภินันท์ สุวรรณรักษ์ อาจารย์คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และที่ปรึกษาบริษัทมารีนสเคป(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า อะควาเรียมแห่งนี้จะมีการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำรวมทั้งสิ้น 250 สายพันธุ์ จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 8,000 ตัว แบ่งเป็นสัตว์น้ำจืดและสัตว์น้ำเค็มอย่างละครึ่ง

พันธุ์สัตว์น้ำที่นำมาจัดแสดง จะมีสัดส่วนที่จัดหามาจากแหล่งภายในประเทศ 80% ซึ่งพันธุ์สัตว์น้ำที่นำมาจัดแสดงทั้งพันธุ์สัตว์น้ำจืดและน้ำเค็ม จะมีจุดเด่นทั้งความหลากหลาย รวมทั้งมีความน่าสนใจและหายากด้วย
ความคืบหน้าในการก่อสร้างอะควาเรียมกว่า 90%แล้ว
ตัวอย่างบางส่วนของพันธุ์ไม้และสัตว์น้ำ ที่จะจัดไว้ในอะควาเรียม
กำลังโหลดความคิดเห็น