ผู้จัดการรายวัน – ระบุภารวมตลาดอสังหาฯ ยังไม่ฟื้น ด้านผู้ประกอบการหวั่นปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง ต้นทุนน้ำมันผันผวนกระทบตลาดหนัก หลังจัดสรรขาดสภาพคล่องแบงก์เข้มปล่อยกู้ พร้อมตั้งเป้าขยายตัว ด้าน “มวกเหล็กฯ” ประกาศรีแบรนด์ใหม่เป็น”มวกเหล็ก พาราไดส์” พร้อมทุ่ม200ล้านบาทขยายเพิ่มโครงการใหม่3 โครงการจับลูกค้าต่างชาติ ดันยอดขายแตะ1,000 ล้านบาท
นาย พิชัย เลาห์เรณู กรรมการผู้จัดการ บริษัท มวกเหล็ก พาราไดส์ กรุ๊ป กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯว่า ภาพโดยรวมของตลาดอสังหาฯในปีนี้ยังไม่ดีมากเท่าที่ควร เนื่องจากลูกค้ายังชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปในขณะเดียวกันผู้ประกอบการส่วนใหญ่เองก็มีปัญหาด้านเงินทุน หรือสภาพคล่องของบริษัท เนื่องจากสถาบันการเงินยังเข้มงวดในการปล่อยกู้โครงการจัดสรร
นอกจากนี้ ปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจที่ยังไม่สามารถขยายตัวตามประมาณการ แม้ว่ารัฐบาลจะมีการออกมาตรการด้านภาษี เพื่อกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯแล้วก็ตาม โดยเฉพาะปัจจัยบลด้านการเมืองที่มีความผันผวน ประกอบกับต้นทุนการพัฒนาโครงการที่ได้รับผลจากราคาน้ำมันส่งผลต่อต้นทุนวัสดุก่อสร้างให้ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ ในขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวลดลงตามภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ลูกค้ามีการชะลอการก่อสร้างและตัดสินใจซื้อออกไปส่งผลกระทบต่อตลาดโดยรวม
ด้านนางสาว พชรพรรณ เลาห์เรณู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทมวกเหล็ก พาราไดส์ กรุ๊ป กล่าวว่า ทิศทางการทำตลาดอสังหาฯของมวกเหล็กพาราไดส์ฯ ในปีนี้ จะเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ที่เจาะกลุ่มลูกค้า VIP เป็นหลักโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ซึ่งคาดว่าอนาคตจะได้กลุ่มลูกค้าต่างชาติเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทคาดว่ากลุ่มลูกค้าต่างชาติเข้ามาซื้อบ้านในโครงการของบริษัทเพิ่มขึ้นจากปี50ที่ผ่านมากว่า 90 % หลังจากที่มีการขยายการลงทุนในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณในการลงทุนกว่า 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ มวกเหล็ก พาราไดส์ กรุ๊ป ตั้งเป้าว่าปีนี้จะมียอดขายเติบโตเพิ่มจากปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายของทั้งกลุ่มประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งยอดขายดังกล่าวจะมาจากโครงการใหม่3 โครงการประกอบด้วย โครงการ บ้านรติมาหาดใหญ่ จ.สงขลา, โครงการมวกเหล็ก พาราไดส์ ฮิลส์ และโครงการบ้านพาราไดส์ ซึ่งกำลังจะเปิดเฟสใหม่ ภายใต้ชื่อบ้านริมธาร ซึ่งจะก่อสร้างเป็นบ้านเดี่ยวจำนวนวน 8 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 3.5 ล้านบาทขึ้นไป
“หลังจากได้เข้ามาสานต่องานแทน “นายพิชัย ผู้เป็นพ่อ" มีการปรับระบบการบริหารจัดการให้มีระบบมากขึ้นเนื่องจาก ที่ผ่านมาการรบริหารงานจะใช้ความชำนาญของคณะกรรมการแต่ละท่านเป็นหลัก ซึ่งทำให้ขาดระบบในการบริหารจัดการ ดังนั้นจึงต้องมีการจัดระบบและวางแผนการตลาดใหม่ให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้” นายพชรพรรณกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้ลักษณ์ของบริษัทเป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้า และมีความชัดเจนในกลุ่มสินค้าที่พัฒนา บริษัทจึงมีการปรับภาพลักษณ์ของตราสินค้าหรือ (Renovate Brand) จากเดิมที่บริษัทที่ใช้แบรนด์ “พาราไดส์ กรุ๊ป” ที่ดูยังไม่มีความชัดเจนและเอกลักษณ์ เปลี่ยนเป็นมาเป็น “มวกเหล็ก พาราไดส์ กรุ๊ป ” และทำการเปลี่ยนโลโก้ของแต่ละธุรกิจให้เป็นสัญลักษณ์เดียวกัน ยกเว้น บริษัท ออสเตรเลี่ยน-ไทย คอนสตรั๊คชั่น ยังคงใช้โลโก้เดิม
นาย พิชัย เลาห์เรณู กรรมการผู้จัดการ บริษัท มวกเหล็ก พาราไดส์ กรุ๊ป กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯว่า ภาพโดยรวมของตลาดอสังหาฯในปีนี้ยังไม่ดีมากเท่าที่ควร เนื่องจากลูกค้ายังชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปในขณะเดียวกันผู้ประกอบการส่วนใหญ่เองก็มีปัญหาด้านเงินทุน หรือสภาพคล่องของบริษัท เนื่องจากสถาบันการเงินยังเข้มงวดในการปล่อยกู้โครงการจัดสรร
นอกจากนี้ ปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจที่ยังไม่สามารถขยายตัวตามประมาณการ แม้ว่ารัฐบาลจะมีการออกมาตรการด้านภาษี เพื่อกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯแล้วก็ตาม โดยเฉพาะปัจจัยบลด้านการเมืองที่มีความผันผวน ประกอบกับต้นทุนการพัฒนาโครงการที่ได้รับผลจากราคาน้ำมันส่งผลต่อต้นทุนวัสดุก่อสร้างให้ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ ในขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวลดลงตามภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ลูกค้ามีการชะลอการก่อสร้างและตัดสินใจซื้อออกไปส่งผลกระทบต่อตลาดโดยรวม
ด้านนางสาว พชรพรรณ เลาห์เรณู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทมวกเหล็ก พาราไดส์ กรุ๊ป กล่าวว่า ทิศทางการทำตลาดอสังหาฯของมวกเหล็กพาราไดส์ฯ ในปีนี้ จะเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ที่เจาะกลุ่มลูกค้า VIP เป็นหลักโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ซึ่งคาดว่าอนาคตจะได้กลุ่มลูกค้าต่างชาติเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทคาดว่ากลุ่มลูกค้าต่างชาติเข้ามาซื้อบ้านในโครงการของบริษัทเพิ่มขึ้นจากปี50ที่ผ่านมากว่า 90 % หลังจากที่มีการขยายการลงทุนในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณในการลงทุนกว่า 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ มวกเหล็ก พาราไดส์ กรุ๊ป ตั้งเป้าว่าปีนี้จะมียอดขายเติบโตเพิ่มจากปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายของทั้งกลุ่มประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งยอดขายดังกล่าวจะมาจากโครงการใหม่3 โครงการประกอบด้วย โครงการ บ้านรติมาหาดใหญ่ จ.สงขลา, โครงการมวกเหล็ก พาราไดส์ ฮิลส์ และโครงการบ้านพาราไดส์ ซึ่งกำลังจะเปิดเฟสใหม่ ภายใต้ชื่อบ้านริมธาร ซึ่งจะก่อสร้างเป็นบ้านเดี่ยวจำนวนวน 8 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 3.5 ล้านบาทขึ้นไป
“หลังจากได้เข้ามาสานต่องานแทน “นายพิชัย ผู้เป็นพ่อ" มีการปรับระบบการบริหารจัดการให้มีระบบมากขึ้นเนื่องจาก ที่ผ่านมาการรบริหารงานจะใช้ความชำนาญของคณะกรรมการแต่ละท่านเป็นหลัก ซึ่งทำให้ขาดระบบในการบริหารจัดการ ดังนั้นจึงต้องมีการจัดระบบและวางแผนการตลาดใหม่ให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้” นายพชรพรรณกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้ลักษณ์ของบริษัทเป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้า และมีความชัดเจนในกลุ่มสินค้าที่พัฒนา บริษัทจึงมีการปรับภาพลักษณ์ของตราสินค้าหรือ (Renovate Brand) จากเดิมที่บริษัทที่ใช้แบรนด์ “พาราไดส์ กรุ๊ป” ที่ดูยังไม่มีความชัดเจนและเอกลักษณ์ เปลี่ยนเป็นมาเป็น “มวกเหล็ก พาราไดส์ กรุ๊ป ” และทำการเปลี่ยนโลโก้ของแต่ละธุรกิจให้เป็นสัญลักษณ์เดียวกัน ยกเว้น บริษัท ออสเตรเลี่ยน-ไทย คอนสตรั๊คชั่น ยังคงใช้โลโก้เดิม
