“หมอสุรพงษ์” หวั่นถูกด่า เลื่อนแจกเงินเอสเอ็มแอล ชง “สมัคร” กดปุ่มหว่านเงิน 1 พันล้านบาทให้ชาวบ้าน 29 เมษายนนี้ เผย 12 เงื่อนไขเข้มที่ไม่สามารถจัดสรรให้ได้ หวั่นชาวบ้านใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ แต่ยังเปิดช่องพิจารณาเป็นกรณีพิเศษได้
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า สำนักงานคณะกรรมการโครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน (เอสเอ็มแอล) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้กำหนดเงื่อนไขและตัวอย่างโครงการเอสเอ็มแอลที่ไม่อยู่ในวัตถุประสงค์และไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ โดยมี 12 เงื่อนไขคือต้องไม่ใช่การสร้าง ซ่อมแซม ปรับปรุงต่อเติม ศาลาเอนกประสงค์ ศาลากลางบ้าน ศาลาประจำหมู่บ้าน ศาลาที่พักริมทาง ที่ทำการหมู่บ้านและชุมชนที่อ่านหนังสือพิมพ์ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ห้องสมุด ห้องน้ำ ห้องเก็บของโรงครัว ป้อมยามและจุดตรวจ
นอกจากนี้ต้องไม่ใช่การสร้าง ซ่อมแซม ปรับปรุงหรือต่อเติมศาสนสถาน ทุกศาสนา, สถานศึกษาและสถานีอนามัย และต้องไม่ใช่โครงการที่เป็นการจัดซื้อเต้นท์ โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องครัว โรงเย็น เครื่องใช้ในพิธีการต่างๆ หรือการจัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์ เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องทำน้ำเย็น โทรทัศน์ วีดีทัศน์ กล้องบันทึกภาพ อุปกรณ์การศึกษา เครื่องมือแพทย์ให้แก่สถาบันการศึกษาและสถานพยาบาล
ขณะเดียวกันหากมีโครงการการจัดซื้อโอ่งน้ำ แท็งค์น้ำ เครื่องกรองน้ำ สำหรับแจกจ่ายครัวเรือน, การจัดสร้าง จัดซ้อหอกระจายข่าวเสียงตามสาย,การปรับปรุงภูมิทัศน์ ตกแต่งสถานที่ ทำรั้ว กำแพง สถานที่สาธารณะต่างๆ, การจัดทำซุ้มประตูป้ายชื่อ ป้ายชื่อเจ้าบ้านหรือบ้านเลขที่ ของหมู่บ้านหรือชุมชน จะไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณเช่นเดียวกับ โครงการจัดซื้อเครื่องแต่งกายของ กลุ่มกิจกรรม ทุนการศึกษา เบี้ยเลี้ยงคนชรา,การสมทบงบประมาณกับกองทุน สหกรณ์ หมู่บ้านหรือชุมชน เพื่อการกู้ยืม รวมถึงการจัดอบรม ศึกษาดูงาน และการทัศนศึกษานอกสถานที่
อย่างไรก็ตามตัวอย่างโครงการต้องห้ามทั้ง 12 โครงการนี้ สำนักงาน เอสเอ็มแอล จะพิจารณาให้เป็นรายกรณีที่มีเหตุผลสมควรและตามความจำเป็นเท่านั้น และในกรณีที่มีรายได้จากโครงการเอสเอ็มแอลแล้วจะอนุมัติให้ดำเนินการได้
รายงานข่าวแจ้งว่า นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้เข้าชี้แจงต่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อเป็นประธานในการกดปุ่มโอนเงินให้กับหมู่บ้านและชุมชนประมาณ 5,000 หมู่บ้าน วงเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ โดยจะไม่มีการเลื่อนการมอบเงินแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้น รัฐบาลมีแนวคิดที่จะขยายเวลาให้แต่ละหมู่บ้านทั่วประเทศสามารถจัดทำประชาคมเพื่อกำหนดโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านให้มากขึ้น เพราะสมาชิกหมู่บ้านแต่ละแห่งไม่สามารถจัดทำประชาคมในช่วงวันเทศกาลสงกรานต์ได้ทันก็เสนอให้มีการเลื่อนการมอบเงิน
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า สำนักงานคณะกรรมการโครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน (เอสเอ็มแอล) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้กำหนดเงื่อนไขและตัวอย่างโครงการเอสเอ็มแอลที่ไม่อยู่ในวัตถุประสงค์และไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ โดยมี 12 เงื่อนไขคือต้องไม่ใช่การสร้าง ซ่อมแซม ปรับปรุงต่อเติม ศาลาเอนกประสงค์ ศาลากลางบ้าน ศาลาประจำหมู่บ้าน ศาลาที่พักริมทาง ที่ทำการหมู่บ้านและชุมชนที่อ่านหนังสือพิมพ์ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ห้องสมุด ห้องน้ำ ห้องเก็บของโรงครัว ป้อมยามและจุดตรวจ
นอกจากนี้ต้องไม่ใช่การสร้าง ซ่อมแซม ปรับปรุงหรือต่อเติมศาสนสถาน ทุกศาสนา, สถานศึกษาและสถานีอนามัย และต้องไม่ใช่โครงการที่เป็นการจัดซื้อเต้นท์ โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องครัว โรงเย็น เครื่องใช้ในพิธีการต่างๆ หรือการจัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์ เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องทำน้ำเย็น โทรทัศน์ วีดีทัศน์ กล้องบันทึกภาพ อุปกรณ์การศึกษา เครื่องมือแพทย์ให้แก่สถาบันการศึกษาและสถานพยาบาล
ขณะเดียวกันหากมีโครงการการจัดซื้อโอ่งน้ำ แท็งค์น้ำ เครื่องกรองน้ำ สำหรับแจกจ่ายครัวเรือน, การจัดสร้าง จัดซ้อหอกระจายข่าวเสียงตามสาย,การปรับปรุงภูมิทัศน์ ตกแต่งสถานที่ ทำรั้ว กำแพง สถานที่สาธารณะต่างๆ, การจัดทำซุ้มประตูป้ายชื่อ ป้ายชื่อเจ้าบ้านหรือบ้านเลขที่ ของหมู่บ้านหรือชุมชน จะไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณเช่นเดียวกับ โครงการจัดซื้อเครื่องแต่งกายของ กลุ่มกิจกรรม ทุนการศึกษา เบี้ยเลี้ยงคนชรา,การสมทบงบประมาณกับกองทุน สหกรณ์ หมู่บ้านหรือชุมชน เพื่อการกู้ยืม รวมถึงการจัดอบรม ศึกษาดูงาน และการทัศนศึกษานอกสถานที่
อย่างไรก็ตามตัวอย่างโครงการต้องห้ามทั้ง 12 โครงการนี้ สำนักงาน เอสเอ็มแอล จะพิจารณาให้เป็นรายกรณีที่มีเหตุผลสมควรและตามความจำเป็นเท่านั้น และในกรณีที่มีรายได้จากโครงการเอสเอ็มแอลแล้วจะอนุมัติให้ดำเนินการได้
รายงานข่าวแจ้งว่า นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้เข้าชี้แจงต่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อเป็นประธานในการกดปุ่มโอนเงินให้กับหมู่บ้านและชุมชนประมาณ 5,000 หมู่บ้าน วงเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ โดยจะไม่มีการเลื่อนการมอบเงินแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้น รัฐบาลมีแนวคิดที่จะขยายเวลาให้แต่ละหมู่บ้านทั่วประเทศสามารถจัดทำประชาคมเพื่อกำหนดโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านให้มากขึ้น เพราะสมาชิกหมู่บ้านแต่ละแห่งไม่สามารถจัดทำประชาคมในช่วงวันเทศกาลสงกรานต์ได้ทันก็เสนอให้มีการเลื่อนการมอบเงิน