xs
xsm
sm
md
lg

"จิ๋ว" ชี้จะฆ่ากันตายเพราะ รธน.ปูดมีแก๊งจ้องล้ม "ปืน-ทุน-เจ้า"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"บิ๊กจิ๋ว" ปูดมีขบวนการจ้องล้ม"ปืน-ทุน-เจ้า" ยอมรับบ้านเมืองมีปัญหาน่าห่วง เตือน รธน.ไม่ใช่แก้วสารพัดนึก ระวังจะฆ่ากันตายเพราะรธน. เชื่อหากม็อบหนุน-ต้านทักษิณปะทะกัน ตายหมดแน่ รับเคยคุย "ทักษิณ" แล้ว และถูกทาบให้นั่งหัวหน้าพรรค ชี้ประเทศชาติจะเจริญจะต้องดีทั้งระบอบ และ ผู้นำ แต่ปัดเรื่องจะเป็นนายกฯ คนต่อไป ด้าน "หมัก" ปฏิเสธเรื่องยุบสภาหลังแก้รธน. ว้ากสื่ออีก ให้หยุดเสนอข่าวแก้รธน. แล้วทุกอย่างจเงียบไปเอง

เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (25 เม.ย.) ที่อาคารศิโรจน์ ผลพันธิ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ได้มีการจัดสัมมนาทางวิชาการ โดยเชิญ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี มากล่าวปาฐกถา และบรรยายพิเศษเรื่อง "ยุทธศาสตร์กู้ชาติ และเข็มทิศใหม่เพื่อผ่าทางตันทางการเมืองไทย"

พล.อ.ชวลิต กล่าวตอนหนึ่งว่า การพูดจาในวันนี้ถือว่า ค่อนข้างอันตราย เพราะเป็นการพูดในสถานการณ์ที่มีโอกาสเผชิญหน้ากัน ระหว่างฝ่ายชอบทักษิณ และต่อต้านทักษิณ

"ที่จะพูดวันนี้ เป็นที่ชัดเจนว่า บ้านเมืองกำลังมีปัญหามาก อกสั่นขวัญแขวนว่า จะฝ่าอุปสรรคบ้านเมืองขณะนี้ไปได้อย่างไร ทุกท่านในที่นี้ ผมเขียนเอกสารบรรยายไว้ให้ด้วยว่า ขณะนี้บ้านเมืองมีสิ่งที่อาเพศ 10 ประการ เป็นเรื่องการแหย่ เป็นเรื่องการคิดกระตุ้นความรู้สึก ผมไม่ต้องการให้อ่านแล้วเชื่อ"

ขณะนี้กำลังเป็นห่วงบ้านเมือง ว่าจะมีความขัดแย้ง ห่วงว่าจะมีการขว้างปากัน เจ้าหน้าที่ดูแลกันดีหรือไม่ ทหารจะออกมาอีกหรือไม่ วงจรบ้านเมืองจะเป็นแบบนี้อีกหรือไม่ เพราะวงจรเช่นนี้มีมา ตั้งแต่ย่ำรุ่ง วันที่ 24 มิถุนายน 2475 เป็นต้นมา คณะราษฎร์ ได้สร้างประเทศให้ไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ตนอยากจะตั้งคำถามว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่

การสร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขึ้นที่สี่แยกคอกวัว โดยมีสัญลักษณ์ของรัฐธรรมนูญ เป็นเครื่องหมายของประชาธิปไตย ตนอยากถามว่า คนไทยเชื่ออย่างนั้นจริงๆ หรือไม่ อีกทั้ง สถานการณ์ 76 ปี ของบ้านเมืองจนถึงวันนี้ มีการร่างรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้ง มีรัฐบาลมาบริหารบ้านเมือง ต่อมาก็มีการฉีกรัฐธรรมนุญ ฉีกเองบ้าง คนอื่น ฉีกบ้าง วันนี้มีรัฐธธรรมนูญ 18 ฉบับ ตนเลยบอกว่าไม่เป็นไร จะมี 19 ฉบับก็ได้ แต่ปัญหาสำคัญที่บ้านเมืองไม่ถึงจุดที่ต้องการจริง หรือยัง

ขณะนี้ คำถามที่ว่า เหตุใดบ้านเมืองจึงมีปัญหา ทำไมนายกรัฐมนตรี จึงยังมีปัญหา คนดีๆ มาเป็นนายกฯ ก็มีมาเยอะแยะ ทำไมยิ่งบริหารบ้านเมืองยิ่งมีปัญหา หลายคนเป็นคนดี แต่ก็อยู่ไม่ได้

เตือนจะฆ่ากันตายเพราะ รธน.

พล.อ.ชวลิต กล่าวด้วยว่า การแก้รัฐธรรมนูญนั้นมีการปรับเปลี่ยนมาหมดแล้ว ทั้งระบบกึ่งประธานาธิบดี ให้ฝ่ายนิติบัญญัติ ตั้งกรรมาธิการสอบฝ่ายบริหารได้ หรือ ต่อมาให้บริหารมีอำนาจแข็งแกร่ง ก็มีการเปลี่ยนอีก

"นี่คือสิ่งที่เป็นปัญหา ผมพูดอาจจะผิดก็ได้ แต่การที่พ่อแม่เรา ผู้ที่เราเคารพ สมัยคณะราษฎร์ กำหนดแต่แรกว่า รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่สร้างระบบประชาธิปไตย ตรงนี้มั้ง ที่อาจจะเป็นปัญหา ไม่มีรัฐธรรมนูญบ้านเมืองไหน ที่จะทำได้ขนาดนั้น เราคิดกันตรงนี้หรือไม่ รัฐธรรมนูญ เป็นตัวนำ ผู้คนมาร่วมกันอยู่ การเมืองต้องมาส่งเสริมเศรษฐกิจ คนไทยเราฝังใจ และคิดกันว่า ให้เชื่อกันว่า พวกถือลัทธิรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญ เป็นแก้วสารพัดนึก ผิดแล้วมั๊ง ตรงนี้ ผมพูดมาแล้ว 10 -20 ปี หน้าหนังสือพิมพ์ มีแต่เรื่องรัฐธรรมนูญ จะฆ่ากันตายก็ด้วยเรื่องรัฐธรรมนูญนี่ล่ะ"

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ช่วยกันคิดให้ดีว่าแก้รัฐธรรมนูญนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการปกครองระบอบประชาธิปไตย คือ ต้องเป็นของประชาชน โดยประชาชนเพื่อประชาชน ต้องดูว่าเพื่อใคร ก็เพื่อคนนั้น ตนพูดว่าถ้าไม่สามารถโดยประชาชนได้ เพื่อประชาชนก่อน ก็จะมีปัญหา ดังนั้นในวันนี้ถ้าไม่ทะเลาะกันเสีย ไม่ว่าประชาชน นปก. ต่อต้านทหาร ต่อต้านเผด็จการรัฐสภา เขาว่าดีกันทั้งคู่ มาร่วมมือกัน แล้วสร้างประชาธิปไตยให้มันเป็นจริงๆ เสนอแนะไปก่อน แต่ถ้าจะชนกัน ไม่เอา ก็ว่ากันไปก่อน

"ทั้งหมดที่จะชี้ให้เห็น ไม่ใช่ว่ารัฐธรรมนูญไม่สำคัญ แต่ไม่ใช่ว่าให้ความสำคัญจนลืมสิ่งอื่นๆ เช่น การช่วยเหลือประชาชน หรือเปลี่ยนแนวทางจับมือการสร้างประชาธิปไตย ไม่ใช่ทะเลาะกันทุกวัน ถามว่าปัญหาการเมืองคือ อะไร คือมี 2 ฝ่ายตีกันอยู่ ฝ่ายหนึ่งคือโปรทักษิณ ซึ่งทักษิณ อาจเป็นเหยื่อ ความขัดแย้งระหว่างทุนสามานย์ กับ ศักดินาล้าหลัง มีการดึงอะไรกันขึ้นมา กรุณาเถอะครับ พระมหากษัตริย์ ในจักรีวงศ์ เป็นพระมหากษัตริย์ 10 กว่าปี เท่ากับที่กษัตริย์ญี่ปุ่น กว่าจะทรงดึงอำนาจมา เรื่องการเลิกทาส เปลี่ยนเป็นเทศาภิบาล เป็นขั้นเป็นตอน ขั้นที่ 3 สร้างรัฐชาติ ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย ให้สำเร็จ 2453 ร.7 ก็มีการร่างมาแล้ว นักศึกษาวิชาการไทยไม่สนใจในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงในยุคนั้น จึงอยากจะเรียนว่า เราต้องทำให้พี่น้องประชาชน แสดงว่าการมีความปรารถนาสร้างชนชั้นกลาง ขึ้นมา ให้เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ แก้ปัญหาความยากจน พลิกแผ่นดินใหม่ เลย

มีขบวนการจ้องล้มปืน-ทุน-เจ้า

"การเผชิญหน้าเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ สามารถแก้ได้ ต้องแก้ ปัญหาเผชิญหน้าอยู่ที่รัฐธรรมนูญ เอาสิ่งนี้ให้พี่น้องส่วนใหญ่ ให้ประชาชนได้รู้ เมืองไทยจริงๆ มันมีกระบวนการไม่หวังดี กระบวนการล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า มีมากน้อยเท่าไร ไม่รู้ ไม่พูดกันดีกว่า แก้ปัญหาของชาติ ให้ได้ เพื่อให้ประชาธิปไตยตอบสนองประชาชนได้อย่างแท้จริง" พล.อ.ชวลิต กล่าว

เมื่อผู้ร่วมฟังการบรรยาย ถามว่า อยากให้พล.อ.ชวลิต ขยายความเกี่ยวกับกระบวนการ "ล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า" พล.อ.ชวลิต กล่าว่า ขบวนการสาธารณรัฐ ยังมีอยู่ และยังมีกระบวนการอื่นๆ ที่เราห้ามไม่ได้ การเอาชนะคน คือการเอาชนะความคิดดีที่สุด หากทุกคนทำเพื่อแผ่นดิน ก็จะไม่มีปัญหา สรุปคือ ขบวนการนี้มีอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ต้องระงับเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นเท่านั้น

รับ "แม้ว" เคยทาบเป็น หน.พรรค

เมื่อถามว่า ใครจะทำให้สองฝ่ายหยุดปัญหาความขัดแย้งได้ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า พวก พ.ต.ท. ทักษิณ มีพรรครัฐบาล นปก. มวลชนชั้นล่าง ขณะที่พวกต่อต้านมีพรรคอื่นที่เหลือ พันธมิตรฯ และชนชั้นกลาง ถ้าปล่อยให้สู้กัน ก็จะตายกันหมด ไม่รู้จบ เพราะกำลังทั้งสองฝ่ายมีอยู่เท่าเทียมกัน ดังนั้นเราจึงต้องแก้ไขปัญหาระหว่างทั้งสองฝ่ายให้ได้

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ที่ตนเสนอโซ่ข้อกลาง เพราะเห็นว่าไม่สามารถเสนอหนทางอื่นแล้ว เพราะหากจะแก้ไขข้อขัดแย้งที่ดีที่สุด คือ การเข้าไปเป็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเลย และทำให้ฝ่ายนั้นปฏิเสธความขัดแย้ง จะง่ายที่สุด ซึ่งตนได้กระทำตรงนี้แล้ว และประสบความสำเร็จแล้ว และได้รับการทาบทามให้มาเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายหนึ่ง แต่ตนบอกว่า ถ้าตนเป็น ทหารจะแฮปปี้ ทุกคนแฮปปี้ และทุกฝ่ายจะสันติแน่นอน ตนขอร้องว่า เมื่อตนอยู่ตรงนี้แล้วจะต้องใช้นโยบายของตน คือดึงเอากระบวนการจากข้างบนที่มันชนกัน ให้มันออกมาเสีย และลงไปสู่ประชาชน ในอดีตที่เราต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพราะเราไม่อยากเห็นการเมืองการปกครองชอบอำนาจที่ได้มาไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ จะเห็นว่าการต่อสู้นี้ ไม่ประสบความสำเร็จ มีแต่สร้างความเสียหาย

"โซ่ข้อกลางต้องแข็งแรง และดึงสองฝ่ายให้มาเป็นเส้นเดียวกันให้ได้ เราต้องวิเคราะห์ว่า ในสังคมของความขัดแย้งใครเป็นตัวหลัก ซึ่งความจริงผมได้เข้าไปคุยแล้ว ทุกคนเข้าใจผิด คิดว่า ทีท่าของสองตัวหลักที่แสดง อาจจะไปอีกแนวหนึ่ง เวลาไปเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่มองเป็นอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งความจริงไม่ใช่ เพราะเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ สรุปคือ ต้องแก้ปัญหาด้วยหัวใจ และความปรารถดี และทุกคนต้องช้วยกันแก้ แก้ไขคนเดียวคงไม่ได้"

เมื่อถามว่า ผู้นำอันพึงประสงค์ควรมีลักษณะอย่างไร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ต้องมีความเสียสละ ความจริงใจ ต้องมีความคิดได้ มีความคิดดี แต่มันก็ลำบาก ไป ๆ มา ๆ มันอยู่ที่ดวง ตนขอบอกว่า ปัญหาของชาติไทยไม่ได้อยู่ที่คน ที่ผ่านมาเราพยายามหาคนดีมาเป็นนายกฯ ซึ่งเรามีคนดีเป็นนายกฯ เยอะแล้ว แต่ยังมีปัญหา ดังนั้นถ้าคนดี ก็จะต้องแก้ที่ระบอบ แต่ถ้าระบอบดี ก็จะต้องแก้ที่คน หากเราสร้างการเมืองให้เป็นระบอบประชาธิปไตยไม่ได้ เราหาคนดีๆ มาได้ แต่คนดีๆ นั้นก็จะเดินไปสู่ความหายนะ เพราะกลไก กติกาเราไม่ดี

เมื่อถามว่า ความเห็นของท่าน เราจะผ่าทางตันทางการเมืองได้อย่างไร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ความจริงเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง ที่ต้องดูว่า บ้านเมืองของเราอยุ่ในสถานการณ์อะไร มีปัญหาอะไร ต้องมองย้อนหลัง มองอนาคต มองว่าจะมีปัญหาอะไรบ้าง ทุกฝ่ายต้องช่วยกันสร้าง การเมือง ต้องนำระบอบประชาธิปไตย ขณะนี้ยุทธศาสตร์ชาติยังไม่มี มีเพียงเศรษฐกิจพอเพียง แต่เราต้องใช้สิ่งนี้เป็นพื้นฐานในการพัฒนาต่อไป

แจงอาเพศ 10 ประการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเนื้อหา อาเพศ 10 ประการ ที่ พล.อ.ชวลิต กล่าวในการบรรยานั้น ในเอกสารการบรรยายของ พล.อ.ชวลิต ได้อธบายเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิ.ย. 2475 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เหตุเพราะขาดผู้นำทางความคิดที่ถูกต้อง จึงเกิดปรากฎการณ์ทางการเมืองที่วิปริตผิดเพศ ที่เรียกว่า "อาเพศประเทศไทย 10 ประการ" คือ

1. การเมืองปัจจุบัน เป็นการเมืองเรื่องตัณหา ไม่ใช่การเมืองเรื่องคุณธรรม 2. พรรคการเมือง ทำเป็นการแต่การหาเสียงเลือกตั้ง แต่ทำการจัดตั้งประชาธิปไตยไม่เป็น 3. ส.ส. เป็นได้แต่ผู้แทนผลประโยชน์ของปัจเจกชน แต่เป็นผู้แทนประโยชน์ของปวงชนไม่ได้

4. ทหาร ทำเป็นแต่รัฐประหาร แต่ทำการปฏิวัติไม่เป็น 5. นักเคลื่อนไหว ทำเป็นแต่ม็อบ (Mob) แต่ทำแม้ส (Mass) ไม่เป็น 6. นักวิชาการ คิดเป็นแต่รัฐธรรมนูญ แต่คิดเป็นลัทธิประชาธิปไตยไม่เป็น

7. ผู้นำ ซึ่งนำเป็นแต่ม็อบ และองค์กร แต่ทำทางการเมือง ความคิดจิตวิญญาณไม่เป็น 8. รัฐบาล สร้างเป็นแต่รัฐธรรมนูญ แต่สร้างประชาธิปไตยไม่เป็น 9. สื่อสวลชน สะท้อนได้แต่ปรากฎการณ์ แต่สะท้อนธาตุแท้ไม่เป็น 10. รัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่เป็นนโยบาย แต่ไม่ทำหน้าที่เป็นกฎหมาย

นอกจากนี้ยังมีการสรุปว่า การเมืองในปัจจุบัน คือ มีหลักการปกครองเป็นเผด็จการ แต่มีรูปการปกครองเป็นประชาธิปไตย นั่นคือ ระบอบเผด็จการ เพราะอำนาจอธิปไตยในตอนนี้ เป็นของคนส่วนน้อย แต่มีระบบประชาธิปไตย ซึ่งในรูปของการปกครองแบบรัฐสภา ซึ่งพรรคการเมืองของไทย ก็ยังไม่มีความเป็นพรรคการเมืองจริง เพราะเป็นพรรคของปัจเจกชนคนใดคนหนึ่ง ไม่สามารถสร้างสถาบันที่ดีได้ ตรงกันข้ามกลับมีการกระชับอำนาจเผด็จการมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ ส.ส. บ้านเราเป็นเพียงผู้แทนของปัจเจกชนคนส่วนน้อย

ทั้งหมดนี้ทำให้การเมืองยังตกอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการ และไม่สามารถเปลี่ยนเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยได้

ชี้รัฐบาลจะอยู๋อีก 8-9 เดือน

ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิต ได้ให้สัมภาษ์ก่อนการปาฐกถา ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กำลังเป็นปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองขณะนี้ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการแก้ไขมาแล้ว 18 ฉบับ จะแก้อีกครั้งคงไม่น่ารังเกียจอะไร เพียงแต่ผู้คนส่วนใหญ่อยากจะให้แก้เพื่อผลประโยช์ของบ้านเมือง และคนส่วนใหญ่ ใครที่จะคิดแก้ ก็คงคิดในกรอบนี้ ถ้ากรอบอื่นคงเสียหาย ทั้งนี้ พรรคพลังประชาชนจะแก้เองไม่ได้ ต้องเป็นรัฐสภา และต้องฟังความเห็นประชาชน

เมื่อให้วิเคราะห์อายุรัฐบาลนี้ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เท่าที่เห็นอย่างน้อยก็อยู่ 8-9 เดือน เพราะท่านบอกว่าต้องการเวลาจะแก้รัฐธรรมนูญอีก 8-9 เดือน ส่วนเรื่องการทำงาน ต้องช่วยกันเรียนให้รัฐมนตรีในรัฐบาลได้ลงไปช่วยแก้ปัญหาประชาชนด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลว่าความวุ่นวายจะทำให้เกิดวิกฤตเหมือน 19 กันยาฯหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ทุกฝ่ายมีบทเรียนแล้ว บอกแล้วว่า ถ้าแก้เพื่อสร้างสิ่งดีงาม เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น มันก็เป็นสิ่งที่ดี ใครคิดจะก็ต้องเป็นแนวนี้ทั้งนั้น จะแก้เพื่อให้เป็นเทวดาคงไม่มี ตนไม่กังวลเรื่องนี้เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ และนปก.ทั้ง 2 หน่วย ก็กลุ่มเดียวกัน เข้าใจการเมืองดี หากแต่ละกลุ่มเข้าใจว่า แก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์สร้างประชาธิปไตย 2 กลุ่ม ควรจะจับมือกัน เอาเป้าหมายรวมประเทศชาติเป็นหลัก อย่าคิดทำลายซึ่งกันและกัน ซึ่งไม่ใช่แนวทางของประเทศไทยเรา ตนไม่ค่อยห่วง ประสบการณ์ที่ผ่านมาเพียงให้ทุกคนสำนึก

เมื่อถามว่า การจับมือกันต้องมีคนกลางหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เราจะเป็นโซ่ข้อกลางให้ มันก็บอกว่าเป็นสนิมไปแล้ว ก็ให้เขาจับกันเอง

เมื่อถามว่า ถ้ามีคนมาขอร้องจะกลับไปเป็นให้หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ความจริงไม่อยากเป็นอะไรหนักหนา และตอนนี้ไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรงในความขัดแย้งเขาได้ พยายามแสวงหาหนทาง จึงพยายามเสนอเรื่องโซ่ข้อกลางเพื่อให้สังคมเราเป็นหนึ่งเดียวกัน นั่นคือเจตนารมรณ์

เชื่อไม่มีการปฏิวัติในช่วงนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มอีสานเรียกร้องให้มาเล่นการเมือง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า การเมืองก็ทำทุกวันอยู่แล้ว มานี่ก็การเมือง คงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนกระแสเรื่องการชูตัวให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น มันจะชูอะไรกันง่ายๆ เชื่อ น้าหมัก เถอะ ชั้น 1 สามารถนำรัฐนาวานี้ผ่านไปได้ ตนเคยทำงานร่วมกันมาแล้ว อาจจะดุหน่อย จ๊ะจ๋า น่ารักจะตาย

เมื่อถามว่า จะมีชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ใช่หมอดู เชื่อว่าบ้านเมืองจะไม่เกิดวิกฤตอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เราผ่านมาเยอะแล้ว อยู่รอดมาทุกครั้ง

เมื่อถามว่า อายุรัฐบาล 8-9 เดือน เชื่อว่ามีการยุบสภา พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดอย่างนั้น ท่านพูดอย่างไร เราก็ฟังอย่างนั้น ท่านบอกจะอยู่แก้รัฐธรรมนูญ.8-9 เดือน อย่างน้อยจึงต้องอยู่ เมื่อถามถึงเรื่องการปฏิวัติ ส่วนใหญ่มีแต่การยึดอำนาจโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ต้องไปถาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เชื่อว่าไม่มีการยึดอำนาจในยุคของ พล.อ.อนุพงษ์ เพราะยังขวัญเสียอยู่

"หมัก" อ้างไม่เคยพูดเรื่องยุบสภา

หลังจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ไปพูดที่มาเลเซีย เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ถ้าแก้ไขเสร็จแล้วก็จะมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งการพูดดังกล่าว ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการส่งสัญญาณว่า อาจมีการยุบสภาในไม่ช้านี้นั้น นายสมัคร ได้ออกมาปฏิเสธว่า ไม่เคยพูดเรื่องยุบสภา เพียงแต่อยากจะบอกว่า จะกำหนดในบทเฉพาะกาลว่า จะใช้รัฐธรรมนูญภายหลังมีรัฐบาลใหม่ โดยไม่เคยพูดสักคำว่า จะยุบสภา

เมื่อถามว่า ยืนยันว่าไม่มีการยุบสภาหลังแก้รัฐธรรมนูญเสร็จ ใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ก็อธิบายความไปแล้วว่า แก้ก็แก้ไป แล้วก็จะมีบทเฉพาะกาลว่าจะใช้เมื่อไร ส่วนใหญ่เขาจะบอกว่าใช้เมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไป

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะทำให้สถานการณ์การเมืองร้อนแรง นายสมัคร กล่าวว่า "ผมเห็นว่ามันจะไม่เป็น ผมถึงได้ขอแก้ไข"

เมื่อถามว่า ช่วงหลังๆ นายสุวิทย์ มีน้ำเสียงแปลกๆไป โดยเฉพาะเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ได้มีการพูดคุยกันหรือยัง นายสมัคร กล่าวว่ายังไม่ได้คุย

"มันทำไมล่ะ ก็สัญญาว่าจะกลับมาแก้ มีโอกาสแก้ก็จะแก้ ก็เท่านั้นเอง แล้วทำไมจะแก้รัฐธรรมนูญมันจะเกิดอะไร ทำไมคนถึงจะออกมาต่อต้าน เพราะอะไร ก็เมื่อตอนหาเสียงบอกว่าจะแก้ไข พอเลือกตั้งเสร็จแล้วก็จะแก้ไขกลับมาต่อต้าน ต้องการอะไร "

เมื่อถามว่า สนใจฟังเสียงคัดค้านบ้างหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ก็ฟัง ได้ยิน แล้วไง อย่างกลุ่มพันมิตรฯ จะมาร่วมตัวกันนั้น ถามว่ากี่คน แล้วประเทศไทยมีคนเท่าไร 63 ล้าน เอากี่หมื่นคนมา ก็เอามาดูสิ

ว้ากสื่ออีกให้หยุดทำข่าวแก้ รธน.

เมื่อถามว่า แสดงว่าท่านเชื่อว่า เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวคิดของท่านนายสมัคร กล่าวว่า แน่นอน ก็ประชาชนเลือกมา รัฐธรรมนูญก็บอกว่า ให้คนที่ได้รับเลือกมาแก้ไข ก็ทำถูกต้องตามวิธีการทุกอย่าง แล้วทำไม พูดกันเองทั้งนั้น พูดเองเออเอง ทั้งนั้น ทำข่าวประโคมข่าวทำกันเอง ทั้งนั้น

"ถ้าหยุดไม่เสนอข่าว มันก็จบเรื่อง ก็ลองไม่เสนอข่าวรัฐธรรมนูญสัก 1 เดือน ดูสิจะเป็นอย่างไร ทำกันเอง เขียนกันเอง ขุดกันเอง กระเหี้ยนกระหือรือ อยากจะให้มันเป็นข่าว อะไรกันนักกันหนา คุณลองไม่เสนอข่าว เรื่องรัฐธรรมนูญ 3 วัน ดูสิจะเป็นอย่างไร เรื่องมันก็เงียบ" นายสมัคร กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น