เวลา 09.35 น. วานนี้ (20 เม.ย.) ร.ต.ท.ไชยยศ พฤติพงษ์พาณิชย์ ร้อยเวร สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดที่ทำการนายตรวจนายช่างการรถไฟแห่งประเทศไทย จ.ยะลา ถนนรถไฟติดกับซอยสามหมอ 2 ริมทางรถรถไฟสายยะลา-หาดใหญ่ ติดกับสะพานเหล็ก ข้ามแม่น้ำปัตตานี ในเขตเทศบาลนครยะลา หลังได้รับแจ้ง เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผช.ผบ.ตร.และ ผบ.ศปก.ตร.สน.ยะลา นายกฤษฏา บุญราช รอง ผวจ.ฝ่ายความมั่นคง พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิต รอง ผบก.พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผกก.ตำรวจ วท.45 ยะลา ชุดเก็บกู้ระเบิด และชุดตัดสัญญาณมือถือและ รีโมตคอนโทรล ภ.จว.ยะลา และกำลัง ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง จำนวนหนึ่ง
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้พยายามกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ในรัศมีปลอดภัยจากจุดระเบิดซ้ำสอง ตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า บริเวณหน้ารั้วทางเข้ามีเศษกระเบื้องหลังบ้าน เศษเหล็กและเศษกล่องเหล็กที่บรรจุระเบิด แตกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ มีรถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กค 5084 ยะลา และรถยนต์มีร่า สีเทาควันบุหรี่ ทะเบียน กค 2497 เบตง ถูกสะเก็ดระเบิดที่ตัวถังเป็นรูพรุนและกระจกแตกละเอียด ส่วนคนเจ็บถูกนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา ทั้งหมด 13 ราย
จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อเวลา 05.00 น.มีคนร้าย 2 คน ขับขี่รถ จยย.เป็นพาหนะ คนขับสวมหมวกกันน็อค คนซ้อนท้ายสวมแว่นตาดำ ใช้อาวุธปืนพกสั้น ไม่ทราบขนาด ยิงเข้าใส่ ที่ทำการ 2 นัด แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามหาตัวคนร้ายไปทั่วพื้นที่ย่านตลาดเก่า แต่ไม่พบคนร้ายแต่อย่างใด พร้อมกับได้กำชับสายตรวจรถ จยย.ให้กันพื้นที่ที่เกิดเหตุและให้ดูแลความปลอดภัย เกรงว่าคนร้ายก่อเหตุเพื่อลองของเจ้าหน้าที่ที่รักษาความปลอดภัยบริเวณดังกล่าว พร้อมกับสั่งให้สายตรวจผู้บาดเจ็บเข้าไปดูแลพื้นที่
ต่อมาเวลา 09.35 น.จึงได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งสองที่เข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุได้รับบาดเจ็บดังกล่าว นอกจากนี้ แรงระเบิดทำไปถูกชาวบ้านที่เดินทางซื้อจับจ่ายสินค้าในตลาดสดที่กำลังจะกลับบ้านและชาวบ้านส่วนหนึ่งที่นั่งอยู่ในร้านขายของชำใกล้ที่เกิดเหตุถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บไปด้วยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องกำหนดทิศทาง จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ
วันเดียวกัน เวลา 14.40 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรบาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกคนร้ายลอบยิงบริเวณหน่วยเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่บริเวณมัสยิดบ้านแคแระ ม.7 ต.บาแระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้จัดชุดกำลังออกตรวจสอบ ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย คือ ด.ต.อุสมาน สาและ และ ส.ต.ต.ซำรี ดาโวะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรบาเจาะ จ.นราธิวาส
นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมีมากกว่า 2 คน โดยเข้ามาด้านหลังมัสยิดและใช้อาวุธปืนกราดยิงจากมัสยิดออกมาทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตทันที ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกค้นหาคนร้ายอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตามหน่วยเลือกตั้งอื่นๆ ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ที่ห้องประชุมโรงแรมยะลาแกรนด์พาเลซ อ.เมือง จ.ยะลาวันเดียวกัน นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชจังหวัดยะลา เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาผู้บริหารศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) และโต๊ะครูสถาบันศึกษาปอเนาะ ในเขตพื้นที่การศึกษายะลาเขต 1 เพื่อให้ผู้เข้ารับการสัมมนาได้เข้าใจบทบาทหน้าที่ แนวทางการพัฒนาศูนย์ตาดีกาและสถาบันปอเนาะ และได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
อีกทั้งเพื่อสร้างความตระหนักในบทบาทของผู้บริหารศูนย์ตาดีกาและโต๊ะครู ในฐานะภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีอิหม่ามประธานศูนย์ตาดีกาและโต๊ะครูสถาบันปอเนาะในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอรามัน และอำเภอกรงปินัง เข้าร่วมสัมมนา จำนวน 310 คน
ผู้ว่าราชจังหวัดยะลา กล่าวว่า การขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จของศูนย์ตาดีกาและสถาบันปอเนาะ จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักในบทบาทหน้าที่ และการวางแนวทางการพัฒนาร่วมกันของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จังหวัดยะลาจึงเห็นความสำคัญ จึงจัดการประชุมสัมมนาผู้บริหารศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด(ตาดีกา) และโต๊ะครูสถาบันศึกษาปอเนาะขึ้น
"ประเด็นหลักคือ ทำอย่างไรให้ผู้ที่สอนตาดีกาใช้หลักคำสอนที่ถูกต้องตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลามเผยแพร่แก่เยาวชน เพื่อที่จะนำแนวคิดที่ถูกต้องไปใช้ แต่ทั้งนี้หลักสูตรการเรียนการสอน จะต้องมีรูปแบบที่ชัดเจน ครูผู้สอนต้องมีความรู้ความเข้าใจ วิธีการสอนด้วย จึงฝากให้รัฐบาลสนับสนุนสถาบันปอเนาะ หรือปอเนาะต้นแบบให้ชัดเจนเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ หรือเยาวชนเกิดความเข้าใจ และร่วมกันที่จะพัฒนาบ้านเมืองและเกิดสันติสุขในพื้นที่อีกด้วย" นายธีระ กล่าว
ด้านนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ว่า อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ประชุมได้เสนอว่า จะยกเลิกกฎอัยการศึก 179 อำเภอ ทั้งหมด 31 จังหวัด กำลังเสร็จสิ้นหมดแล้ว ที่จะมีอยู่ตรงไหนฉุกเฉิน ทางฝ่ายกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เขาจะขอมา โดยจะใช้กฎหมายความมั่นคง เขาไม่ได้ใช้ทั้งประเทศ เขาใช้บางจุดบางส่วนที่จำเป็นจะต้องใช้ ก็ใช้กฎหมายความมั่นคง
นอกนั้น ที่ประชุมได้ขอต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งต้องนำเข้าที่ประชุมครม. ตนจึงเรียกประชุมครม.นัดพิเศษ ในวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีก 3 เดือน ถือเป็นครั้งที่ 11 ทั้งหมดใช้มาแล้ว 30 เดือน ต่อใหม่อีก 3 เดือน ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่มาชี้แจง ได้ถามถึงความแตกต่าง ซึ่งแตกต่างกันเยอะ รอไว้ให้ตนได้รายงานสภาเสียก่อน และคงจะได้แลเห็นว่า แตกต่างกันอย่างไร สมัยก่อนไม่นานมานี้ มีความหนาแน่นอย่างไร ถี่มากอย่างไร และหลังจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการหมดแล้ว ห่างลงไปอย่างไร และสามารถควบคุมได้อย่างไร เวลานี้เรียนได้ว่ามีความคืบหน้า ทางฝ่ายทหาร ก็จัดการ คือ ทหารไม่ได้ผลัดนี้ ไปผลัดนี้กลับ แต่อยู่เหลื่อมกัน 1 เดือน อยู่สั่งเสียกันเสร็จเรียบร้อย ถึงจะถอยกลับมาอยู่ 1 ปีมีความคุ้นเคย สถานการณ์ต้องพูดได้ว่า ดีขึ้น
"ผมจะพูดให้ชัดเจนเลยว่า ทำไมผมไม่ลงไป วันหนึ่งหากจำเป็น ผมจะต้องลงไปดู แต่ว่ากำลังนี้ไม่ลงไป ไม่ก่อความยุ่งยาก รัฐมนตรีลงไปก็มารับ นายกฯไปยิ่งยุ่งยาก และเป็นจุดเหมือนกับยั่วกิเลสให้เขามาก่อกวนให้รุนแรงขึ้น อะไรทำนองนั้น ตอนนี้เขาเรียกว่าสถานการณ์พอเอาอยู่" นายสมัคร กล่าว
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้พยายามกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ในรัศมีปลอดภัยจากจุดระเบิดซ้ำสอง ตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า บริเวณหน้ารั้วทางเข้ามีเศษกระเบื้องหลังบ้าน เศษเหล็กและเศษกล่องเหล็กที่บรรจุระเบิด แตกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ มีรถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กค 5084 ยะลา และรถยนต์มีร่า สีเทาควันบุหรี่ ทะเบียน กค 2497 เบตง ถูกสะเก็ดระเบิดที่ตัวถังเป็นรูพรุนและกระจกแตกละเอียด ส่วนคนเจ็บถูกนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา ทั้งหมด 13 ราย
จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อเวลา 05.00 น.มีคนร้าย 2 คน ขับขี่รถ จยย.เป็นพาหนะ คนขับสวมหมวกกันน็อค คนซ้อนท้ายสวมแว่นตาดำ ใช้อาวุธปืนพกสั้น ไม่ทราบขนาด ยิงเข้าใส่ ที่ทำการ 2 นัด แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามหาตัวคนร้ายไปทั่วพื้นที่ย่านตลาดเก่า แต่ไม่พบคนร้ายแต่อย่างใด พร้อมกับได้กำชับสายตรวจรถ จยย.ให้กันพื้นที่ที่เกิดเหตุและให้ดูแลความปลอดภัย เกรงว่าคนร้ายก่อเหตุเพื่อลองของเจ้าหน้าที่ที่รักษาความปลอดภัยบริเวณดังกล่าว พร้อมกับสั่งให้สายตรวจผู้บาดเจ็บเข้าไปดูแลพื้นที่
ต่อมาเวลา 09.35 น.จึงได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งสองที่เข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุได้รับบาดเจ็บดังกล่าว นอกจากนี้ แรงระเบิดทำไปถูกชาวบ้านที่เดินทางซื้อจับจ่ายสินค้าในตลาดสดที่กำลังจะกลับบ้านและชาวบ้านส่วนหนึ่งที่นั่งอยู่ในร้านขายของชำใกล้ที่เกิดเหตุถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บไปด้วยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องกำหนดทิศทาง จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ
วันเดียวกัน เวลา 14.40 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรบาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกคนร้ายลอบยิงบริเวณหน่วยเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่บริเวณมัสยิดบ้านแคแระ ม.7 ต.บาแระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้จัดชุดกำลังออกตรวจสอบ ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย คือ ด.ต.อุสมาน สาและ และ ส.ต.ต.ซำรี ดาโวะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรบาเจาะ จ.นราธิวาส
นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมีมากกว่า 2 คน โดยเข้ามาด้านหลังมัสยิดและใช้อาวุธปืนกราดยิงจากมัสยิดออกมาทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตทันที ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกค้นหาคนร้ายอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตามหน่วยเลือกตั้งอื่นๆ ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ที่ห้องประชุมโรงแรมยะลาแกรนด์พาเลซ อ.เมือง จ.ยะลาวันเดียวกัน นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชจังหวัดยะลา เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาผู้บริหารศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) และโต๊ะครูสถาบันศึกษาปอเนาะ ในเขตพื้นที่การศึกษายะลาเขต 1 เพื่อให้ผู้เข้ารับการสัมมนาได้เข้าใจบทบาทหน้าที่ แนวทางการพัฒนาศูนย์ตาดีกาและสถาบันปอเนาะ และได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
อีกทั้งเพื่อสร้างความตระหนักในบทบาทของผู้บริหารศูนย์ตาดีกาและโต๊ะครู ในฐานะภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีอิหม่ามประธานศูนย์ตาดีกาและโต๊ะครูสถาบันปอเนาะในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอรามัน และอำเภอกรงปินัง เข้าร่วมสัมมนา จำนวน 310 คน
ผู้ว่าราชจังหวัดยะลา กล่าวว่า การขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จของศูนย์ตาดีกาและสถาบันปอเนาะ จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักในบทบาทหน้าที่ และการวางแนวทางการพัฒนาร่วมกันของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จังหวัดยะลาจึงเห็นความสำคัญ จึงจัดการประชุมสัมมนาผู้บริหารศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด(ตาดีกา) และโต๊ะครูสถาบันศึกษาปอเนาะขึ้น
"ประเด็นหลักคือ ทำอย่างไรให้ผู้ที่สอนตาดีกาใช้หลักคำสอนที่ถูกต้องตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลามเผยแพร่แก่เยาวชน เพื่อที่จะนำแนวคิดที่ถูกต้องไปใช้ แต่ทั้งนี้หลักสูตรการเรียนการสอน จะต้องมีรูปแบบที่ชัดเจน ครูผู้สอนต้องมีความรู้ความเข้าใจ วิธีการสอนด้วย จึงฝากให้รัฐบาลสนับสนุนสถาบันปอเนาะ หรือปอเนาะต้นแบบให้ชัดเจนเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ หรือเยาวชนเกิดความเข้าใจ และร่วมกันที่จะพัฒนาบ้านเมืองและเกิดสันติสุขในพื้นที่อีกด้วย" นายธีระ กล่าว
ด้านนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ว่า อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ประชุมได้เสนอว่า จะยกเลิกกฎอัยการศึก 179 อำเภอ ทั้งหมด 31 จังหวัด กำลังเสร็จสิ้นหมดแล้ว ที่จะมีอยู่ตรงไหนฉุกเฉิน ทางฝ่ายกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เขาจะขอมา โดยจะใช้กฎหมายความมั่นคง เขาไม่ได้ใช้ทั้งประเทศ เขาใช้บางจุดบางส่วนที่จำเป็นจะต้องใช้ ก็ใช้กฎหมายความมั่นคง
นอกนั้น ที่ประชุมได้ขอต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งต้องนำเข้าที่ประชุมครม. ตนจึงเรียกประชุมครม.นัดพิเศษ ในวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีก 3 เดือน ถือเป็นครั้งที่ 11 ทั้งหมดใช้มาแล้ว 30 เดือน ต่อใหม่อีก 3 เดือน ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่มาชี้แจง ได้ถามถึงความแตกต่าง ซึ่งแตกต่างกันเยอะ รอไว้ให้ตนได้รายงานสภาเสียก่อน และคงจะได้แลเห็นว่า แตกต่างกันอย่างไร สมัยก่อนไม่นานมานี้ มีความหนาแน่นอย่างไร ถี่มากอย่างไร และหลังจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการหมดแล้ว ห่างลงไปอย่างไร และสามารถควบคุมได้อย่างไร เวลานี้เรียนได้ว่ามีความคืบหน้า ทางฝ่ายทหาร ก็จัดการ คือ ทหารไม่ได้ผลัดนี้ ไปผลัดนี้กลับ แต่อยู่เหลื่อมกัน 1 เดือน อยู่สั่งเสียกันเสร็จเรียบร้อย ถึงจะถอยกลับมาอยู่ 1 ปีมีความคุ้นเคย สถานการณ์ต้องพูดได้ว่า ดีขึ้น
"ผมจะพูดให้ชัดเจนเลยว่า ทำไมผมไม่ลงไป วันหนึ่งหากจำเป็น ผมจะต้องลงไปดู แต่ว่ากำลังนี้ไม่ลงไป ไม่ก่อความยุ่งยาก รัฐมนตรีลงไปก็มารับ นายกฯไปยิ่งยุ่งยาก และเป็นจุดเหมือนกับยั่วกิเลสให้เขามาก่อกวนให้รุนแรงขึ้น อะไรทำนองนั้น ตอนนี้เขาเรียกว่าสถานการณ์พอเอาอยู่" นายสมัคร กล่าว