ผู้จัดการรายวัน - ในหลวง-พระราชินีเสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุประทาน 100 วัน ถวาย สมเด็จพระพี่นางฯ พร้อมโปรดเกล้าฯ จัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกพระราชทานแก่ผู้เข้าร่วมงาน 10,000 ชุด ส่วน สำนักพระราชวังแจกภาพพระฉายาลักษณ์ และหนังสือประมวลภาพประวัติ พระพี่นาง แก่ประชาชนที่มาสักการะพระศพ
วานนี้ (10 เม.ย.) เวลา 17.05 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพร้อม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณ นารีรัตน์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอาทิตยาทรกิติคุณ ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร (ทักษิณานุประทาน 100 วัน) พระราชาทานพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ครั้นเมื่อเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงวางพวงมาลา แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องสักการะพระศพ จากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์จบ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนที่เตียงพระสวดพระอภิธรรม แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกพระราชทานแก่ผู้เข้าร่วมงาน 10,000 ชุด ชุดละ 3 เล่ม ประกอบด้วย หนังสือพระธรรมเทศนา เป็นการรวบรวมบทเทศนาในโอกาสที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัปดาห์พระราชทานพระศพ ต่อจากการพระราชกุศลปัณรสมวาร จนถึงปัญญาสมวาร รวมถึงหนังสือเรื่อง "สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล และงานศิลปะ" และหนังสือเรื่อง "เวลาเป็นของมีค่า" บทพระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ก่อนหน้านั้นเวลา 07.09 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้า แด่พระพิธีธรรมที่สวดพระอภิธรรมพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
สำหรับการถวายสักการะพระศพ ประชาชนที่มานอกจากจะได้รับภาพพระโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว สำนักพระราชวังได้นำภาพพระราชทาน พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ซึ่งจัดพิมพ์โดย สำนักส่งเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ขนาด 8x6 นิ้ว และขนาด 15x20 นิ้ว รวมทั้งหนังสือวารสารไทย ฉบับเดือน ก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นฉบับที่ตีพิมพ์ ประมวลภาพพระประวัติของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาสักการะพระศพด้วย
สำหรับคณะบุคคลสำคัญที่มาสักการะพระศพ อาทิ นายซิงเก ดอร์จี เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏาน นำพวงมาลาของเจ้าหญิงแพมแพม วังชุก มาถวายสักการะ นางรุฮ์ยา ลุกมานียอน วัย 45 ปี นักเดินเพื่อสันติภาพและเด็กยากไร้ ชาวอิหร่าน ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินรณรงค์รอบโลกและผ่านประเทศไทย มาถวายสักการะพระศพ นอกจากนี้ ยังมี นายสุรเดช ทับทิม หรือ โจอี้ บาซู ที่บวชถวายในโครงการประชาร่วมใจบรรพชาอุปสมบท ถวายองค์กรมหลวง รวมใจไทยทั่วหล้า เป็นต้น
อย่าไรก็ตาม หลังเสร็จพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร (ทักษิณานุปทาน 100 วัน) ทางสำนักพระราชวังยังคงเปิดให้ประชาชนขึ้นถวายสักการะพระศพได้ตามปกติ และตั้งแต่วันเสาร์ที่ 12 เมษายน 2551 เป็นต้นไป จะเปิดให้ประชาชนขึ้นถวายสักการะและเข้าร่วมในพิธีสวดพระอภิธรรมพระศพได้ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. (งดในวันที่มีพระราชพิธีฯ วันฉัตรมงคล วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา)
วานนี้ (10 เม.ย.) เวลา 17.05 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพร้อม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณ นารีรัตน์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอาทิตยาทรกิติคุณ ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร (ทักษิณานุประทาน 100 วัน) พระราชาทานพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ครั้นเมื่อเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงวางพวงมาลา แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องสักการะพระศพ จากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์จบ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนที่เตียงพระสวดพระอภิธรรม แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกพระราชทานแก่ผู้เข้าร่วมงาน 10,000 ชุด ชุดละ 3 เล่ม ประกอบด้วย หนังสือพระธรรมเทศนา เป็นการรวบรวมบทเทศนาในโอกาสที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัปดาห์พระราชทานพระศพ ต่อจากการพระราชกุศลปัณรสมวาร จนถึงปัญญาสมวาร รวมถึงหนังสือเรื่อง "สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล และงานศิลปะ" และหนังสือเรื่อง "เวลาเป็นของมีค่า" บทพระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ก่อนหน้านั้นเวลา 07.09 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้า แด่พระพิธีธรรมที่สวดพระอภิธรรมพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
สำหรับการถวายสักการะพระศพ ประชาชนที่มานอกจากจะได้รับภาพพระโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว สำนักพระราชวังได้นำภาพพระราชทาน พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ซึ่งจัดพิมพ์โดย สำนักส่งเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ขนาด 8x6 นิ้ว และขนาด 15x20 นิ้ว รวมทั้งหนังสือวารสารไทย ฉบับเดือน ก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นฉบับที่ตีพิมพ์ ประมวลภาพพระประวัติของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาสักการะพระศพด้วย
สำหรับคณะบุคคลสำคัญที่มาสักการะพระศพ อาทิ นายซิงเก ดอร์จี เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏาน นำพวงมาลาของเจ้าหญิงแพมแพม วังชุก มาถวายสักการะ นางรุฮ์ยา ลุกมานียอน วัย 45 ปี นักเดินเพื่อสันติภาพและเด็กยากไร้ ชาวอิหร่าน ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินรณรงค์รอบโลกและผ่านประเทศไทย มาถวายสักการะพระศพ นอกจากนี้ ยังมี นายสุรเดช ทับทิม หรือ โจอี้ บาซู ที่บวชถวายในโครงการประชาร่วมใจบรรพชาอุปสมบท ถวายองค์กรมหลวง รวมใจไทยทั่วหล้า เป็นต้น
อย่าไรก็ตาม หลังเสร็จพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร (ทักษิณานุปทาน 100 วัน) ทางสำนักพระราชวังยังคงเปิดให้ประชาชนขึ้นถวายสักการะพระศพได้ตามปกติ และตั้งแต่วันเสาร์ที่ 12 เมษายน 2551 เป็นต้นไป จะเปิดให้ประชาชนขึ้นถวายสักการะและเข้าร่วมในพิธีสวดพระอภิธรรมพระศพได้ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. (งดในวันที่มีพระราชพิธีฯ วันฉัตรมงคล วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา)