เอเอฟพี/รอยเตอร์ – รัฐมนตรีอาวุโสศรีลังกาดับกลางงานแข่งวิ่งมาราธอนเมื่อวานนี้(6) คาดมือระเบิดฆ่าตัวตายสวมรอยเป็นนักวิ่งชิงลงมือระยะประชิด ฤทธิ์บึ้มยังส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอีก 11 คนและบาดเจ็บร่วมร้อย เหยื่อรายนี้นับเป็นรัฐมนตรีคนที่สองที่ถูกสังหารในปีนี้ หลังรัฐบาลหันมาใช้นโยบายปราบปรามรุนแรง
เจเยราช เฟอร์นันโดปุลเล รัฐมนตรีกิจการทางหลวงของศรีลังกา วัย 55 ถูกมือระเบิดฆ่าตัวตายบุกสังหาร ขณะเป็นประธานเปิดงานกีฬาวิ่งมาราธอนที่เมืองเวลีเวริยา ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงโคลัมโบ ส่งผลให้เขาเสียชีวิตพร้อมผู้อยู่ในงานคนอื่นๆ อีก11 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 90 คน
“ผมหวังว่าท่านจะได้ชัยชนะในการแข่งขันเหล่านี้ ... “ เฟอร์นันโดปุลเลกล่าวก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดขึ้น และเป็นช่วงเวลาขณะที่เขากำลังโบกธงชาติเพื่อประกาศเปิดงานเฉลิมฉลองวันปีใหม่ตามประเพณีเดิม ซึ่งทั้งชาวสิงหลที่เป็นชนส่วนใหญ่ และชาวทมิฬที่เป็นชนส่วนน้อยของประเทศ ต่างก็ถือตรงกัน
ผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ ยังรวมถึง ลักษมัน เดอ ซิลวา โค้ชกรีฑาคนสำคัญของศรีลังกา และนักกีฬาชั้นนำอีกหลายคน
“เป็นระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ” อนุรา ยาปา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสื่อสารกล่าว
“ทางเราสงสัยว่ามือระเบิดฆ่าตัวตายปลอมตัวเป็นนักวิ่งแข่งมาราธอนเข้ามาปฏิบัติการ” เจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุระบุ
เฟอร์นันโดปุลเลเป็นผู้หนึ่งที่วิพากษ์วิจารณ์พวกกบฎพยัคฆ์ทมิฬที่มุ่งแบ่งแยกดินแดน และเคยร่วมอยู่ในคณะผู้แทนของรัฐบาลศรีลังกาในการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มกบฏดังกล่าว แต่ประสบความล้มเหลว
อันที่จริง เฟอร์นันโดปุลเล ซึ่งถูกจับตามองว่ามีศักยภาพที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เป็นนักการเมืองที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลอย่างเข้มงวดกวดขันมากที่สุดคนหนึ่งของศรีลังกา และในวันเกิดเหตุก็มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยตำรวจพิเศษมาคุ้มกันด้วย
ด้านประธานาธิบดีมหินทา ราชปักษี ได้กล่าวประณามการลอบสังหารดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ “ขี้ขลาด” ของกลุ่มแบ่งแยกทมิฬอีแลม และได้เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ
“ผมขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบและควบคุมสติในการเผชิญกับการยั่วยุของพวกก่อการร้าย ผมขอย้ำว่าการกระทำอันโหดร้ายและขาดเขลาเช่นนี้จะไม่มีทางทำให้เราอ่อนกำลังลงในการที่จะขจัดการก่อการร้ายออกไป และนำสันติภาพ ความสมานฉันท์ และประชาธิปไตยกลับคืนมาสู่ประชาชนทั้งผอง ซึ่งเป็นความปรารถนาอันแน่วแน่แต่ยังไม่บรรลุผลสำเร็จของรัฐมนตรีเจยาราจ เฟอร์นันโดปุลเลด้วยเช่นกัน” ประธานาธิบดีแถลง
ก่อนหน้านี้ ดี เอ็ม ทัศนายาเก รัฐมนตรีกระทรวงการสร้างชาติของศรีลังกาก็ถูกลอบสังหารด้วยการจู่โจมของมือระเบิดฆ่าตัวตายที่บริเวณข้างถนนในเขตเดียวกันนี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้น เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2005 ลักษมัน คาดิร์กามาร์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ก็ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านที่กรุงโคลัมโบ โดยคาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬเช่นกัน
กลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬได้สู้รบกับรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 1972 ด้วยความมุ่งหมายที่จะให้ดินแดนของชาวทมิฬในพื้นที่ทางเหนือและตะวันออกของประเทศ ได้แยกตัวเป็นเอกราชจากศรีลังกา ความขัดแย้งดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึงราว 70,000 คน
แม้ว่าจะมีข้อตกลงหยุดยิงเมื่อปี 2002 แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่อาจเจรจาให้บังเกิดความคืบหน้าในการแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองได้ จนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลศรีลังกาได้ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงหยุดยิงที่มีนอร์เวย์เป็นผู้ไกล่เกลี่ยนี้ หันมาใช้แนวทางการปราบปรามการก่อการร้ายด้วยกำลังรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เจเยราช เฟอร์นันโดปุลเล รัฐมนตรีกิจการทางหลวงของศรีลังกา วัย 55 ถูกมือระเบิดฆ่าตัวตายบุกสังหาร ขณะเป็นประธานเปิดงานกีฬาวิ่งมาราธอนที่เมืองเวลีเวริยา ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงโคลัมโบ ส่งผลให้เขาเสียชีวิตพร้อมผู้อยู่ในงานคนอื่นๆ อีก11 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 90 คน
“ผมหวังว่าท่านจะได้ชัยชนะในการแข่งขันเหล่านี้ ... “ เฟอร์นันโดปุลเลกล่าวก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดขึ้น และเป็นช่วงเวลาขณะที่เขากำลังโบกธงชาติเพื่อประกาศเปิดงานเฉลิมฉลองวันปีใหม่ตามประเพณีเดิม ซึ่งทั้งชาวสิงหลที่เป็นชนส่วนใหญ่ และชาวทมิฬที่เป็นชนส่วนน้อยของประเทศ ต่างก็ถือตรงกัน
ผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ ยังรวมถึง ลักษมัน เดอ ซิลวา โค้ชกรีฑาคนสำคัญของศรีลังกา และนักกีฬาชั้นนำอีกหลายคน
“เป็นระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ” อนุรา ยาปา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสื่อสารกล่าว
“ทางเราสงสัยว่ามือระเบิดฆ่าตัวตายปลอมตัวเป็นนักวิ่งแข่งมาราธอนเข้ามาปฏิบัติการ” เจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุระบุ
เฟอร์นันโดปุลเลเป็นผู้หนึ่งที่วิพากษ์วิจารณ์พวกกบฎพยัคฆ์ทมิฬที่มุ่งแบ่งแยกดินแดน และเคยร่วมอยู่ในคณะผู้แทนของรัฐบาลศรีลังกาในการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มกบฏดังกล่าว แต่ประสบความล้มเหลว
อันที่จริง เฟอร์นันโดปุลเล ซึ่งถูกจับตามองว่ามีศักยภาพที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เป็นนักการเมืองที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลอย่างเข้มงวดกวดขันมากที่สุดคนหนึ่งของศรีลังกา และในวันเกิดเหตุก็มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยตำรวจพิเศษมาคุ้มกันด้วย
ด้านประธานาธิบดีมหินทา ราชปักษี ได้กล่าวประณามการลอบสังหารดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ “ขี้ขลาด” ของกลุ่มแบ่งแยกทมิฬอีแลม และได้เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ
“ผมขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบและควบคุมสติในการเผชิญกับการยั่วยุของพวกก่อการร้าย ผมขอย้ำว่าการกระทำอันโหดร้ายและขาดเขลาเช่นนี้จะไม่มีทางทำให้เราอ่อนกำลังลงในการที่จะขจัดการก่อการร้ายออกไป และนำสันติภาพ ความสมานฉันท์ และประชาธิปไตยกลับคืนมาสู่ประชาชนทั้งผอง ซึ่งเป็นความปรารถนาอันแน่วแน่แต่ยังไม่บรรลุผลสำเร็จของรัฐมนตรีเจยาราจ เฟอร์นันโดปุลเลด้วยเช่นกัน” ประธานาธิบดีแถลง
ก่อนหน้านี้ ดี เอ็ม ทัศนายาเก รัฐมนตรีกระทรวงการสร้างชาติของศรีลังกาก็ถูกลอบสังหารด้วยการจู่โจมของมือระเบิดฆ่าตัวตายที่บริเวณข้างถนนในเขตเดียวกันนี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้น เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2005 ลักษมัน คาดิร์กามาร์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ก็ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านที่กรุงโคลัมโบ โดยคาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬเช่นกัน
กลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬได้สู้รบกับรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 1972 ด้วยความมุ่งหมายที่จะให้ดินแดนของชาวทมิฬในพื้นที่ทางเหนือและตะวันออกของประเทศ ได้แยกตัวเป็นเอกราชจากศรีลังกา ความขัดแย้งดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึงราว 70,000 คน
แม้ว่าจะมีข้อตกลงหยุดยิงเมื่อปี 2002 แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่อาจเจรจาให้บังเกิดความคืบหน้าในการแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองได้ จนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลศรีลังกาได้ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงหยุดยิงที่มีนอร์เวย์เป็นผู้ไกล่เกลี่ยนี้ หันมาใช้แนวทางการปราบปรามการก่อการร้ายด้วยกำลังรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ