เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนปัจจุบันกำลัง “เร่งรีบ” เฟ้นหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติจะก้าวขึ้นมาสืบทอดตำแหน่งผู้นำประเทศต่อจากเขา - - - แม้กว่าจะถึงเวลานั้นก็เกือบ 13 ปีข้างหน้า สื่อท้องถิ่นรายงานวานนี้ (2)
จากบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทมส์ นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงวัย 56 ปี เผยว่า ตามหลักการแล้ว ผู้สืบทอดอำนาจต่อจากเขาสมควรต้องใช้ระยะเวลาเนิ่นนานเพียงพอในการสถาปนาฐานะของตัวเองในรัฐบาล จากนั้นจึงเข้ารับตำแหน่งขณะที่อายุค่อนข้างยังน้อย
“นี่เป็นหนึ่งในภารกิจที่รีบเร่งมากที่สุดในขณะนี้ ... เราจำเป็นต้องมองหาบุคคลผู้มีอายุระหว่าง 30 ถึง 40 ต้น ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับจุดหมายปลายทางที่รออยู่อีก 12 – 13 ปีข้างหน้า” ลีกล่าว พร้อมกันนี้ยังอธิบายด้วยว่า อาจต้องผ่านการเลือกตั้งราว 3 ครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้นำประเทศคนใหม่
ทั้งนี้ สิงคโปร์มีกำหนดจะจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปในปี 2011
ลีเซียนลุงเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศในปี 2004 โดยเขาเป็นบุตรชายของลีกวนยู “บิดาผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์” ซึ่งเป็นแกนนำเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี 1965 ทั้งนี้ ลีผู้พ่อเคยรั้งตำแหน่งผู้นำประเทศอย่างต่อเนื่องยาวนานจนถึงปี 1990 ก่อนจะลงจากเก้าอี้และมอบตำแหน่งให้โก๊ะจ๊กตงเป็นผู้สืบทอดอำนาจ
นายกฯ สิงคโปร์คนปัจจุบันกล่าวว่า กำลังเฟ้นหาคณะบุคคล ผู้ซึ่งสามารถร่วมรับผิดชอบบ้านเมืองโดย 1 ในนั้นจะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการยอมรับจากพลเมืองชาวสิงคโปร์
“นี่เป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะหากเราไม่ทำเช่นนี้ สิงคโปร์ก็จะดำเนินรอยตามประเทศอื่น ๆ - - ซึ่งผู้ที่แทบจะไม่มีประสบการณ์อะไรเลย จู่ ๆ เพียงชั่วข้ามคืน พวกคุณก็มีคณะรัฐมนตรีและนายกฯ ที่แทบจะไม่เคยอยู่ในรัฐบาลมาก่อนเลย - - ลีเซียนลุงกล่าวภายหลังสั่งปรับครม.เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ พรรคพีเพิล แอ๊กชั่น ปาร์ตี้ของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนปัจจุบันได้ผูกขาดอำนาจการปกครองประเทศนับตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา โดยไม่เคยประสบความปราชัยในการเลือกตั้งเลยซักครั้ง ขณะที่ ลีกวนยูก็ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีผู้ให้คำชี้แนะในคณะรัฐบาล และยังเป็นประธานบริษัทเพื่อการลงทุนของภาครัฐที่ชื่อว่า Government of Singapore Investment Corporation (GIC) อีกด้วย
จากบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทมส์ นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงวัย 56 ปี เผยว่า ตามหลักการแล้ว ผู้สืบทอดอำนาจต่อจากเขาสมควรต้องใช้ระยะเวลาเนิ่นนานเพียงพอในการสถาปนาฐานะของตัวเองในรัฐบาล จากนั้นจึงเข้ารับตำแหน่งขณะที่อายุค่อนข้างยังน้อย
“นี่เป็นหนึ่งในภารกิจที่รีบเร่งมากที่สุดในขณะนี้ ... เราจำเป็นต้องมองหาบุคคลผู้มีอายุระหว่าง 30 ถึง 40 ต้น ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับจุดหมายปลายทางที่รออยู่อีก 12 – 13 ปีข้างหน้า” ลีกล่าว พร้อมกันนี้ยังอธิบายด้วยว่า อาจต้องผ่านการเลือกตั้งราว 3 ครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้นำประเทศคนใหม่
ทั้งนี้ สิงคโปร์มีกำหนดจะจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปในปี 2011
ลีเซียนลุงเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศในปี 2004 โดยเขาเป็นบุตรชายของลีกวนยู “บิดาผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์” ซึ่งเป็นแกนนำเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี 1965 ทั้งนี้ ลีผู้พ่อเคยรั้งตำแหน่งผู้นำประเทศอย่างต่อเนื่องยาวนานจนถึงปี 1990 ก่อนจะลงจากเก้าอี้และมอบตำแหน่งให้โก๊ะจ๊กตงเป็นผู้สืบทอดอำนาจ
นายกฯ สิงคโปร์คนปัจจุบันกล่าวว่า กำลังเฟ้นหาคณะบุคคล ผู้ซึ่งสามารถร่วมรับผิดชอบบ้านเมืองโดย 1 ในนั้นจะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการยอมรับจากพลเมืองชาวสิงคโปร์
“นี่เป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะหากเราไม่ทำเช่นนี้ สิงคโปร์ก็จะดำเนินรอยตามประเทศอื่น ๆ - - ซึ่งผู้ที่แทบจะไม่มีประสบการณ์อะไรเลย จู่ ๆ เพียงชั่วข้ามคืน พวกคุณก็มีคณะรัฐมนตรีและนายกฯ ที่แทบจะไม่เคยอยู่ในรัฐบาลมาก่อนเลย - - ลีเซียนลุงกล่าวภายหลังสั่งปรับครม.เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ พรรคพีเพิล แอ๊กชั่น ปาร์ตี้ของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนปัจจุบันได้ผูกขาดอำนาจการปกครองประเทศนับตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา โดยไม่เคยประสบความปราชัยในการเลือกตั้งเลยซักครั้ง ขณะที่ ลีกวนยูก็ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีผู้ให้คำชี้แนะในคณะรัฐบาล และยังเป็นประธานบริษัทเพื่อการลงทุนของภาครัฐที่ชื่อว่า Government of Singapore Investment Corporation (GIC) อีกด้วย
