วานนี้ (19 มี.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด สนามหลวง นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีหวยบนดิน ซึ่ง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยื่นฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวม 47 คน จะยื่นหนังสือขอให้อัยการรับผิดชอบแก้ต่างคดีให้ในชั้นศาลว่า ถ้าพิจารณาเฉพาะตัวบทกฎหมาย อัยการมีอำนาจที่จะเข้าไปเป็นผู้ว่าความแก้ต่างคดีให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เนื่องจากคดีนี้มี คตส. ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง และผู้เสียหายในคดี ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ต่างก็เป็นหน่วยงานของรัฐ ดังนั้น การตัดสินใจว่าจะแก้ต่างกับผู้ถูกฟ้องคดีหวยบนดินหรือไม่นั้น อัยการจะต้องพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบอีกครั้ง ซึ่งตนเตรียมหารือกับผู้บริหารสำนักงานอัยการสูงสุดว่า จะมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร หากมีผู้ถูกฟ้องคดียื่นคำร้องให้อัยการช่วยแก้ต่างคดีให้จริง ซึ่งจะตอบได้ก็ต่อเมื่อมีเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องคดียื่นเรื่องเข้ามา โดยอัยการจะต้องพิจารณารายละเอียดคำขอ และเหตุผลที่ผู้ถูกฟ้องคดีได้ระบุมา
อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกฟ้องคดีหวยบนดินยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือเข้ามา
"ตอนนี้ผมยังตอบไม่ได้ว่า จะมอบหมายให้พนักงานอัยการในสำนักงานอัยการสูงสุด รับผิดชอบแก้ต่างให้ผู้ถูกฟ้องคดีหวยบนดินหรือไม่ เพราะแม้จะมีกฎหมายให้อำนาจอัยการเข้าไปทำหน้าที่แก้ต่างคดีให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน และมีความสำคัญที่จะต้องพิจารณาทั้งในหลักการตามข้อกฎหมายและแยกพิจารณาเป็นรายบุคคล รวมถึงความสมควรหรือไม่ ที่จะให้อัยการไปแก้ต่างในคดีที่หน่วยงานของรัฐเป็นทั้งโจทก์ยื่นฟ้องและผู้เสียหายในคดี" อสส. กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีหวยบนดิน ก่อนหน้านี้ คตส.ได้ส่งสำนวนเพื่อให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง แต่อัยการได้สั่งให้ คตส. สอบสวนเพิ่มเติม ในหลายประเด็น แต่ คตส.เห็นว่า สำนวนที่ คตส.จัดส่งไปให้ได้สอบสวนครบถ้วนแล้ว คตส.จึงใช้อำนาจที่มีอยู่เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องคดีเอง โดยขอแรงจากสภาทนายความ เป็นทีมทนายความในชั้นศาล และหากคดีนี้อัยการรับเป็นทนายแก้ต่างให้กับทีมจำเลยทั้ง 47 คน ก็ถือเป็นคดีแรกในประวัติศาสตร์ของกระบวนการยุติธรรมไทย ที่อัยการกลับมาเป็นทนายให้กับฝ่ายจำเลย ประกอบกับ อัยการ ก็เคยเห็นสำนวนคดีของคตส.จนหมดสิ้น ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบในการต่อสู้คดีในชั้นศาล เนื่องจากรู้ช่องทางการต่อสู้คดีเป็นอย่างดี โดยเฉพาะประเด็นข้อกฎหมาย ที่อัยการท้วงติงมาโดยตลอด ทำให้เกิดภาพความขัดแย้งระหว่าง คตส. และอัยการ
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงใน อัยการ แจ้งว่า มีความเป็นไปได้สูง ที่ทีมจำเลย จะขอแรงอัยการในการแก้ต่างคดีในศาล อีกทั้ง ได้จัดส่งทนายมาทำการประสานกับอัยการ ในทางลับแล้ว
**คตส.ไม่สนอัยการช่วยแม้ว
ด้านนายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส.ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีการออกสลากพิเศษ 3 ตัว 2 ตัว กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า อัยการสูงสุดจะเป็นทนายแก้ต่างคดีหวยบนดินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวกว่า ไม่รู้สึกกังวลกับเรื่องนี้ เพราะขณะนี้เราไม่ต้องทำอะไร เพราะคดีได้อยู่ในศาลแล้ว ซึ่งเชื่อว่าทุกคนจะทำตามกติกาของบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ว่าอัยการเขารู้สำนวนเราหมดแล้ว จะใช้ช่องโหว่นี้มาต่อสู้คดี นายอุดม กล่าวว่า ไม่กังวล และไม่สนใจในสำนวน เพราะเมื่อคดีขึ้นศาล สำนวนก็เปิดเผยอยู่แล้ว และอีกอย่างอัยการ ก็มีหลักเกณฑ์ในการแก้ต่างของเขา
"ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกมาพูดในเรื่องนี้ ซึ่งไม่อยากเชื่อว่าออกมาจากปากของอัยการ เพราะเรื่องแบบนี้อัยการเขาไม่พูดหรอก ซึ่งจะต้องหาคนพูดให้ได้ ถึงยังไง คตส. ก็ไม่สนใจในเรื่องของการได้เปรียบเสียเปรียบ เรื่องแบบนี้ว่ากันไปตามกติกา เพราะหลักฐานมันมีอยู่แล้ว" นายอุดม กล่าว และว่า เมื่อคดีถึงศาลแล้ว คตส.ก็จะไม่คิดว่าคดีจะแพ้หรือชนะ เพราะขึ้นอยู่กับศาลตัดสิน ทุกคดีมีโอกาสเป็นดำ แดง หรือขาวได้ คนที่อยู่วงการ กระบวนการยุติธรรม เขารู้กันดี
**คตส.ของบเพิ่มต้องรอครม.อนุมัติ
รายงานข่าวจากคณะกรรมการ คตส. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการของบประมาณเพิ่มเติม 19 ล้านบาท จากสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า ล่าสุดป.ป.ช.ได้ทำหนังสือตอบกลับมายัง คตส.แล้ว โดยระบุว่าป.ป.ช.ได้มีการหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ และพิจารณาแล้วเห็นว่า การของบประมาณเพิ่มเติมดังกล่าว จะต้องมีการทำเรื่องเสนอต่อครม. เพื่อพิจารณาสนับสนุนรายจ่ายให้ คตส.ตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ต่อไป
อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกฟ้องคดีหวยบนดินยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือเข้ามา
"ตอนนี้ผมยังตอบไม่ได้ว่า จะมอบหมายให้พนักงานอัยการในสำนักงานอัยการสูงสุด รับผิดชอบแก้ต่างให้ผู้ถูกฟ้องคดีหวยบนดินหรือไม่ เพราะแม้จะมีกฎหมายให้อำนาจอัยการเข้าไปทำหน้าที่แก้ต่างคดีให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน และมีความสำคัญที่จะต้องพิจารณาทั้งในหลักการตามข้อกฎหมายและแยกพิจารณาเป็นรายบุคคล รวมถึงความสมควรหรือไม่ ที่จะให้อัยการไปแก้ต่างในคดีที่หน่วยงานของรัฐเป็นทั้งโจทก์ยื่นฟ้องและผู้เสียหายในคดี" อสส. กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีหวยบนดิน ก่อนหน้านี้ คตส.ได้ส่งสำนวนเพื่อให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง แต่อัยการได้สั่งให้ คตส. สอบสวนเพิ่มเติม ในหลายประเด็น แต่ คตส.เห็นว่า สำนวนที่ คตส.จัดส่งไปให้ได้สอบสวนครบถ้วนแล้ว คตส.จึงใช้อำนาจที่มีอยู่เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องคดีเอง โดยขอแรงจากสภาทนายความ เป็นทีมทนายความในชั้นศาล และหากคดีนี้อัยการรับเป็นทนายแก้ต่างให้กับทีมจำเลยทั้ง 47 คน ก็ถือเป็นคดีแรกในประวัติศาสตร์ของกระบวนการยุติธรรมไทย ที่อัยการกลับมาเป็นทนายให้กับฝ่ายจำเลย ประกอบกับ อัยการ ก็เคยเห็นสำนวนคดีของคตส.จนหมดสิ้น ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบในการต่อสู้คดีในชั้นศาล เนื่องจากรู้ช่องทางการต่อสู้คดีเป็นอย่างดี โดยเฉพาะประเด็นข้อกฎหมาย ที่อัยการท้วงติงมาโดยตลอด ทำให้เกิดภาพความขัดแย้งระหว่าง คตส. และอัยการ
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงใน อัยการ แจ้งว่า มีความเป็นไปได้สูง ที่ทีมจำเลย จะขอแรงอัยการในการแก้ต่างคดีในศาล อีกทั้ง ได้จัดส่งทนายมาทำการประสานกับอัยการ ในทางลับแล้ว
**คตส.ไม่สนอัยการช่วยแม้ว
ด้านนายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส.ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีการออกสลากพิเศษ 3 ตัว 2 ตัว กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า อัยการสูงสุดจะเป็นทนายแก้ต่างคดีหวยบนดินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวกว่า ไม่รู้สึกกังวลกับเรื่องนี้ เพราะขณะนี้เราไม่ต้องทำอะไร เพราะคดีได้อยู่ในศาลแล้ว ซึ่งเชื่อว่าทุกคนจะทำตามกติกาของบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ว่าอัยการเขารู้สำนวนเราหมดแล้ว จะใช้ช่องโหว่นี้มาต่อสู้คดี นายอุดม กล่าวว่า ไม่กังวล และไม่สนใจในสำนวน เพราะเมื่อคดีขึ้นศาล สำนวนก็เปิดเผยอยู่แล้ว และอีกอย่างอัยการ ก็มีหลักเกณฑ์ในการแก้ต่างของเขา
"ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกมาพูดในเรื่องนี้ ซึ่งไม่อยากเชื่อว่าออกมาจากปากของอัยการ เพราะเรื่องแบบนี้อัยการเขาไม่พูดหรอก ซึ่งจะต้องหาคนพูดให้ได้ ถึงยังไง คตส. ก็ไม่สนใจในเรื่องของการได้เปรียบเสียเปรียบ เรื่องแบบนี้ว่ากันไปตามกติกา เพราะหลักฐานมันมีอยู่แล้ว" นายอุดม กล่าว และว่า เมื่อคดีถึงศาลแล้ว คตส.ก็จะไม่คิดว่าคดีจะแพ้หรือชนะ เพราะขึ้นอยู่กับศาลตัดสิน ทุกคดีมีโอกาสเป็นดำ แดง หรือขาวได้ คนที่อยู่วงการ กระบวนการยุติธรรม เขารู้กันดี
**คตส.ของบเพิ่มต้องรอครม.อนุมัติ
รายงานข่าวจากคณะกรรมการ คตส. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการของบประมาณเพิ่มเติม 19 ล้านบาท จากสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า ล่าสุดป.ป.ช.ได้ทำหนังสือตอบกลับมายัง คตส.แล้ว โดยระบุว่าป.ป.ช.ได้มีการหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ และพิจารณาแล้วเห็นว่า การของบประมาณเพิ่มเติมดังกล่าว จะต้องมีการทำเรื่องเสนอต่อครม. เพื่อพิจารณาสนับสนุนรายจ่ายให้ คตส.ตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ต่อไป