xs
xsm
sm
md
lg

แช่แข็งขนมหวานระบบIQF สูตรสำเร็จการเปิดตลาดใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งเป็นเทคโนโลยีการถนอมอาหารที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาให้เก็บได้นาน เพื่อสะดวกในการจัดจำหน่ายให้สามารถขยายตลาดให้กว้างขึ้น ปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตอาหารแช่แข็งจะมีด้วยกันหลายรูปแบบ และระบบ IQF เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการผลิตอาหารแช่แข็งที่กำลังได้รับความนิยม

สำหรับผลิตภัณฑ์ขนมหวานสำเร็จรูปแช่แข็ง ได้มีการนำระบบ IQF เข้ามาใช้เพื่อช่วยรักษาคุณภาพของขนมหวานให้สามารถเก็บได้นาน โดยขนมหวานแช่แข็งสำเร็จรูป Bangkok Cuisine เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ OTOP ที่เกิดขึ้นจากแนวคิดของนายหรินทร์ แสงมโนมั่น จากบริษัท Bangkok Cuisine จำกัด ที่ได้ไอเดียมาจากการที่ครอบครัวทำโต๊ะจีน ซึ่งมีพื้นฐานในการทำขนมอยู่บ้าง ทั้งนี้หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 คุณหรินทร์ได้รับผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าว จำเป็นต้องออกจากงานประจำที่ทำอยู่ จึงได้นำสูตรการทำขนมบัวลอยน้ำขิงมาทดลองทำ และส่งขายให้กับร้านอาหารหลายร้านในย่านเยาวราช สำเพ็ง ปรากฎว่าได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี

โดยจัดส่งเป็นเม็ดบัวลอยดิบ พร้อมน้ำขิง และทางร้านจะต้องนำไปต้มอีกที่หนึ่งก่อนนำออกจำหน่าย ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระให้กับทางร้าน ประกอบกับทางร้านต้องการขนมชนิดอื่นๆ เพิ่ม ทำให้เป็นปัญหาอย่างมากกับทางร้านอาหารที่ต้องเพิ่มภาระในขั้นตอนการปรุงให้สุกทำให้ลูกค้าต้องรอนาน ซึ่งเป็นตัวจุดประกายว่าจะทำอย่างไร จึงจะช่วยลดขั้นตอนดังกล่าวได้ เป็นที่มาของขนมหวานแช่แข็งสำเร็จรูป

สำหรับขนมหวานแช่แข็งสำเร็จรูปในครั้งนี้ ใช้การแช่แข็งด้วยระบบ IQF ซึ่งสามารถ เก็บรักษาได้นาน 6 เดือน ในอุณหภูมิที่จุดเยือกแข็ง -18 องศาเซลเซียส เป็นระบบเทคโนโลยีที่นำเข้าจากประเทศเยอรมัน ซึ่งได้ความรู้มาจากการเข้าอบรมในโครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ NEC และได้ทำการศึกษาระบบเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจนำระบบดังกล่าวมาใช้ โดยพบว่าระบบดังกล่าวต้องใช้เงินลงทุนหลายสิบล้านบาท แต่ในครั้งนี้ โชคดีที่มีผู้ผลิตเครื่องขนาดเล็กที่ใช้เงินลงทุนประมาณ 1 ล้านบาทเท่านั้น เหมาะกับธุรกิจเอสเอ็มอี จึงตัดสินใจทำทันที ภายใต้แบรนด์ BANGKOK CUISINE

โดยระบบแช่แข็ง IQF เป็นระบบที่ได้มาตรฐาน GMP ช่วยให้ขนมหวานยังคงรสชาติ ใกล้เคียงกับของที่ทำทานสด ๆ ลูกค้าสะดวก สบาย เพียงนำเข้าไมโครเวฟ นำออกมารับประทานได้เลย ลูกค้าสามารถซื้อไปขายที่ร้านอาหาร หรือ ซื้อไปรับประทานเองที่บ้าน ส่วนราคาใกล้เคียงกับขนมหวานทั่วไป แพงกว่าเล็กน้อย เพราะต้นทุนในขั้นตอนการแช่แข็ง เหมาะกับร้านอาหารเพราะจะสามารถทำกำไรได้ดีกว่าต้องทำเอง

ในปัจจุบันขนมหวาน BANGKOK CUISINE ประกอบไปด้วย สละลอยแก้ว บัวลอยน้ำขิง ทับทิมชาววัง บัวลอยเผือก รวมมิตรทรงเครื่อง สาคูถั่วดำมะพร้าวอ่อน โดยเลือกขนมที่ลูกค้านิยมในร้านอาหาร เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มร้านอาหาร และดูขนมที่สามารถทำราคาได้ ซึ่งกว่าจะได้สูตรขนมแต่ละตัวออกมาต้องผ่านการพัฒนาสูตรเป็นระยะเวลานานกว่า 2 ปี เพื่อว่าเมื่อผ่านการแช่แข็งแล้วจะยังคงรสชาติเหมือนกับการทำทาน สด สด

"และล่าสุดได้มีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ Smoothies เป็นน้ำผลไม้สำเร็จรูปแช่แข็ง และน้ำผลไม้ผสมโยเกิร์ตสำเร็จรูปแช่แข็ง ซึ่งลูกค้าเพียงนำไปเข้าเครื่องปั่นกับน้ำแข็งเสิร์ฟได้เลยสะดวกสบายสำหรับร้านอาหารเช่นกัน โดยมีน้ำผลไม้ให้เลือกทั้งหมด 7 ชนิด ได้แก่ Happy Kiwi (กีวี,ส้ม,มะนาว) Blueberry Slim (บลูเบอร์รี่,สับปะรด,ส้ม) Pretty Woman (สตรอเบอรี่ ,ราสเบอร์รี่) Super C(ส้ม,สับปะรด,พีช) Mango Aloha (มะม่วง,พีช,สับปะรด) ส่วนโยเกิร์ตสำเร็จรูปแช่แข็ง 4 ชนิด เช่น Blueberry Knockout (บลูเบอร์รี่,กล้วย,โยเกิร์ต) Strawberry on the beat (สตรอเบอรี่,ส้ม,โยเกิร์ต)"

สำหรับในส่วนแผนการตลาดของ Smoothies ส่วนหนึ่งต้องการจะขยายตลาดไปต่างประเทศ ซึ่งน้ำผลไม้น่าจะไปในต่างประเทศได้ดีกว่า เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มสากลที่นิยมรับประทานกันอยู่แล้วในทุกประเทศ ในขณะที่ ขนมหวานของไทยมีรสชาติหวาน และมัน ทำให้ชาวต่างชาติไม่คุ้นเคย จึงทำตลาดในต่างประเทศได้ยาก นอกจากนำไปขายในร้านอาหารไทยให้คนไทยด้วยกันในต่างประเทศเท่านั้น อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีการนำขนมหวานไปวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตของชาวเอเชียในประเทศแถบยุโรปด้วยเช่นกัน

นายหรินทร์ เล่าว่า ได้ทำการพัฒนาสูตรขนมหวานแช่แข็งมาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี กว่าจะได้สูตรที่ลงตัว โดยได้สูตรขนมมาจากแม่ยาย ซึ่งเคยขายอาหารไทย มีสูตรขนมหวานเก่าเยอะ เลือกมาเฉพาะสูตรที่ขายในร้านอาหารได้และนำมาพัฒนาต่อเพื่อให้ได้สูตรขนมหวานแช่แข็งเมื่อนำไปทำทานเหมือนกับทานขนมหวานสด สด

สนใจโทร. 0-2212-5044
กำลังโหลดความคิดเห็น