ผู้จัดการรายวัน- MJDผนึกAIG ส่วนกระแสตลาดส่งบริษัทลูก MJAI ลุยตลาดคอนโดฯสุดหรู ผุด“รอย์ซ ไพรเวท เรสซิเดนท์ส”สุขุมวิท31 มูลค่า 3,000 ล้านบาท ชูคอนเซปต์ “ซูเปอร์ลักชัวรี่” จับลูกค้านักธุรกิจไทย-ต่างชาติ ส่วนเมเจอร์ฯแจงปี51ผุดอีก2โครงการคอนโดมิเนียมหรูเมืองท่องเที่ยวหัวหินพัทยา มูลค่ารวม6,000 ล้านบาท คาดยอดขาย-รับรู้รายได้ปีนี้โตกว่าปีที่ผ่านมา
นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD กล่าวว่า จากข้อมูลการสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯของ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย จำกัด พบว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ถนนสุขขุมวิท ซึ่งมีจำนวนการเปิดตัวโครงการถึง 35% จากตลาดรวม โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับกลาง - ไฮเอน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี่คอนโดมิเนียมอยู่เลย
“ก่อนหน้านี้โครงการคอนโดมิเนียมไฮเอน ในย่านถนนสุขุมวิทมีราคาเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น23.7% หรือมีราคาขายเฉลี่ย 130,000 บาทต่อตารางเมตร โดยกลุ่มลูกค้าในตลาดนี้ให้ความสำคัญ กับคอนเซปต์หรือรูปแบบของโครงการที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ในการตัดสินใจซื้อเป็นหลัก ส่วนด้านราคาถือว่าเป็นเรื่องรอง ”
ในขณะเดียวกันความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุดระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ในย่านถนนสุขุมวิทยังไม่ได้มีการตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาโครงการระดับดังกล่าวมีเพียง3-4 โครงการในย่านถนนสีลมและสาทรเท่านั้น ดังนั้น MJD ซึ่งได้ร่วมทุนกับบริษัท เอไอจี โกลบอล เรียลเอสเตท เอเชีย เอสแอล (AIG)หนึ่งในกลุ่ม เอไอจี อินเวสต์เมนต์ จัดตั้งบริษัท เอ็มเจเอไอ ดีเวลลอปเมนท์ (MJAI)จำกัดจึงตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงการ “รอย์ซ ไพรเวท เรสซิเดนท์ส” ในซอยสุขุมวิท31 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดฯ High rice ภายใต้คอนเซ็ปต์การพัฒนาโครงการระดับ Super luxuriour
โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการไฮไลท์ 2 อาคารสูง 39 และ25 ชั้น จำนวน165 ยูนิต ขนาดพื้นที่เริ่มต้น111.7-462 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 15-92 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการรวม 3,000 ล้านบาท มีพื้นที่การพัฒนาโครงการ 3ไร่3งาน 6 ตารางวา ใช้งบลงทุน2,000 ล้านบาทเป็นเงินทุนของบริษัท 50% และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 50% โดยจะเริ่มก่อสร้างเดือน ก.ค.51 และแล้วเสร็จในเดือนธ.ค.54 ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30% โดยแบ่งออกเป็นลูกค้าคนไทย 50% และลูกค้าต่างชาติ 50% ซึ่งลูกค้าทั้งหมดนี้เป็นกลุ่มลูกค้าเก่าที่ติดตามซื้อโครงการของบริษัทในหลายๆ โครงการ
นายสุริยน กล่าวว่า สำหรับปี51 บริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่ 2 โครงการ ในอำเภอหัวหินซึ่งจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมโรว์ไลส์ มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 16 ไร่ และโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยา เนื้อที่ 10 ไร่ มูลค่าโครงการ3,000 ล้านบาท จำนวนยูนิตรวม2โครงการ400-500ยูนิต ซึ่งทั้ง2โครงการดังกล่าวจะมีราคาขายต่อตารางเมตร 120,000-130,000 บาท
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 13,000 กว่าล้านบาทจาก 8 โครงการ ประกอบด้วยโครงการ ฟูลเลอร์ตันสุขุมวิท,วอเตอร์มาร์คเจ้าพระยาริเวอร์มูลค่า5,800ล้านบาทขายไปแล้ว4,000ล้านบาท, แมนฮัตตัน ชิดลมมูลค่า1,200 ล้านบาทขายไป800 ล้านบาท ,การวินด์ สุขุมวิท31มียอดขาย60% ,การวินด์รัชโยธิน,อกัสตัน สุขุมวิท22 มียอดขาย60%และโครงการมิคโคนอส หัวหิน มียอดขาย80% สำหรับปีที่ผ่านมา MJD มียอดขายรวม 2,800 ล้านบาท และมีรายได้รับรู้ 2,200ล้านบาท ส่วนปี51 คาดว่าจะมียอดขายและยอดโอนมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีสต็อกรอการขายอยู่ 3,700 ล้านบาท
นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD กล่าวว่า จากข้อมูลการสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯของ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย จำกัด พบว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ถนนสุขขุมวิท ซึ่งมีจำนวนการเปิดตัวโครงการถึง 35% จากตลาดรวม โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับกลาง - ไฮเอน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี่คอนโดมิเนียมอยู่เลย
“ก่อนหน้านี้โครงการคอนโดมิเนียมไฮเอน ในย่านถนนสุขุมวิทมีราคาเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น23.7% หรือมีราคาขายเฉลี่ย 130,000 บาทต่อตารางเมตร โดยกลุ่มลูกค้าในตลาดนี้ให้ความสำคัญ กับคอนเซปต์หรือรูปแบบของโครงการที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ในการตัดสินใจซื้อเป็นหลัก ส่วนด้านราคาถือว่าเป็นเรื่องรอง ”
ในขณะเดียวกันความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุดระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ในย่านถนนสุขุมวิทยังไม่ได้มีการตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาโครงการระดับดังกล่าวมีเพียง3-4 โครงการในย่านถนนสีลมและสาทรเท่านั้น ดังนั้น MJD ซึ่งได้ร่วมทุนกับบริษัท เอไอจี โกลบอล เรียลเอสเตท เอเชีย เอสแอล (AIG)หนึ่งในกลุ่ม เอไอจี อินเวสต์เมนต์ จัดตั้งบริษัท เอ็มเจเอไอ ดีเวลลอปเมนท์ (MJAI)จำกัดจึงตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงการ “รอย์ซ ไพรเวท เรสซิเดนท์ส” ในซอยสุขุมวิท31 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดฯ High rice ภายใต้คอนเซ็ปต์การพัฒนาโครงการระดับ Super luxuriour
โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการไฮไลท์ 2 อาคารสูง 39 และ25 ชั้น จำนวน165 ยูนิต ขนาดพื้นที่เริ่มต้น111.7-462 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 15-92 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการรวม 3,000 ล้านบาท มีพื้นที่การพัฒนาโครงการ 3ไร่3งาน 6 ตารางวา ใช้งบลงทุน2,000 ล้านบาทเป็นเงินทุนของบริษัท 50% และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 50% โดยจะเริ่มก่อสร้างเดือน ก.ค.51 และแล้วเสร็จในเดือนธ.ค.54 ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30% โดยแบ่งออกเป็นลูกค้าคนไทย 50% และลูกค้าต่างชาติ 50% ซึ่งลูกค้าทั้งหมดนี้เป็นกลุ่มลูกค้าเก่าที่ติดตามซื้อโครงการของบริษัทในหลายๆ โครงการ
นายสุริยน กล่าวว่า สำหรับปี51 บริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่ 2 โครงการ ในอำเภอหัวหินซึ่งจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมโรว์ไลส์ มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 16 ไร่ และโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยา เนื้อที่ 10 ไร่ มูลค่าโครงการ3,000 ล้านบาท จำนวนยูนิตรวม2โครงการ400-500ยูนิต ซึ่งทั้ง2โครงการดังกล่าวจะมีราคาขายต่อตารางเมตร 120,000-130,000 บาท
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 13,000 กว่าล้านบาทจาก 8 โครงการ ประกอบด้วยโครงการ ฟูลเลอร์ตันสุขุมวิท,วอเตอร์มาร์คเจ้าพระยาริเวอร์มูลค่า5,800ล้านบาทขายไปแล้ว4,000ล้านบาท, แมนฮัตตัน ชิดลมมูลค่า1,200 ล้านบาทขายไป800 ล้านบาท ,การวินด์ สุขุมวิท31มียอดขาย60% ,การวินด์รัชโยธิน,อกัสตัน สุขุมวิท22 มียอดขาย60%และโครงการมิคโคนอส หัวหิน มียอดขาย80% สำหรับปีที่ผ่านมา MJD มียอดขายรวม 2,800 ล้านบาท และมีรายได้รับรู้ 2,200ล้านบาท ส่วนปี51 คาดว่าจะมียอดขายและยอดโอนมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีสต็อกรอการขายอยู่ 3,700 ล้านบาท