xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.เดินหน้าช่วยเหลือธุรกิจSMEs

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน-ธปท.ชี้แจงโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีในส่วนของธปท.วงเงิน 20,000 ล้านบาทให้แก่สถาบันการเงินรับทราบ ระบุให้สถาบันการเงินแต่ละแห่งแจ้งความจำนงขอจัดสรรวงเงินภายใน 28 มี.ค.นี้ และหากผู้ประกอบกิจการรายใดขอวงเงินเกิน 50 ล้านบาทให้สถาบันการเงินชี้แจงความจำเป็นและแผนการใช้เงินถี่หยิบให้ธปท.เห็นชอบก่อน

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แจ้งว่า นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงินของธปท.ได้ออกประกาศการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในส่วนของธปท.จำนวนเงิน 20,000 ล้านบาท จากวงเงินโครงการทั้งสิ้น 40,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนการให้ความช่วยเหลือจากธปท.และสถาบันการอย่างละครึ่ง ให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่งรับทราบ เพื่อให้มีความคล่องตัวและชัดเจนในการปฏิบัติงานมากขึ้น

โดยวงเงินให้ความช่วยเหลือจากธปท.ก้อนแรกจำนวน 15,000 ล้านบาท จะจัดสรรให้แต่ละสถาบันการเงินตามความเหมาะสม ซึ่งสถาบันการเงินแต่ละแห่งต้องแจ้งความประสงค์มาให้ธปท.ทราบภายใน 28 มี.ค.นี้ ส่วนวงเงินที่เหลืออีก 5,000 ล้านบาทจะจัดสรรให้แก่สถาบันการเงินในระหว่างที่การจัดสรรในก้อนแรกหรือวงเงิน 15,000 ล้านบาท ยังไม่แล้วเสร็จ หรือได้รับการจัดสรรหมดแล้ว แต่ต้องการขอวงเงินเพิ่มเติม ซึ่งสถาบันการเงินที่ยื่นขอวงเงินก่อนจะได้รับการพิจารณาก่อน

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการแต่ละรายอาจขอความช่วยเหลือผ่านสถาบันการเงินได้หลายแห่ง แต่เมื่อรวมวงเงินให้ความช่วยเหลือทุกแห่งแล้วต้องไม่เกินรายละ 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นของธปท. 25 ล้านบาท และของสถาบันการเงิน 25 ล้านบาท แต่หากผู้ประกอบกิจการรายใดขอวงเงินเกิน 50 ล้านบาทให้สถาบันการเงินชี้แจงรายละเอียดความจำเป็นและแผนการใช้เงินให้ธปท.พิจารณาเห็นชอบก่อน

อย่างไรก็ตาม วงเงินให้ความช่วยเหลือที่สถาบันการเงินได้รับจัดสรรจากธปท. หากสถาบันการเงินใช้ไม่หมดภายใน 6 เดือนนับจากวันที่ได้รับจัดสรร ธปท.จะนำวงเงินคงเหลือดังกล่าวไปให้แก่สถาบันการเงินอื่นที่ต้องการใช้ตามความเหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ต้องยินยอมให้เจ้าหน้าที่ธปท.เข้าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว ณ สำนักงานของสถาบันการเงินและ ณ สำนักงานของผู้ประกอบกิจการด้วย

สำหรับโครงการนี้ ธปท.จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบกิจการผ่านธนาคารพาณิชย์ โดยมีตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการเป็นประกันหรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยสถาบันการเงินและมีกระทรวงการคลังอาวัลเป็นประกัน และธปท.จะเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีแบบมีระยะเวลา(เอ็มแอลอาร์)ลบ 6.75%ต่อปี แต่ไม่น้อยกว่า 0.1%ต่อปี ขณะที่สถาบันการเงินเรียกเก็บจากผู้ประกอบกิจการไม่เกินเอ็มแอลอาร์ลบ 2.25%ต่อปี และมีอายุโครงการ 3 ปีนับจากวันที่ธปท.ให้ความเห็นชอบหรือไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.54

อย่างไรก็ตาม ธปท.สามารถระงับวงเงินให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบกิจการได้ในกรณีที่สถาบันการเงินไม่ได้นำตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบการมาวางเป็นหลักประกันกับธปท.ภายในระยะเวลา 6 เดือนนับจากวันที่ธปท.ให้ความเห็นชอบ หรือสถาบันการเงินไม่มียอดคลค้างของผู้ประกอบกิจการกับธปท.เป็นระยะเวลาติดต่อกันเกิน 6 เดือน และกรณีที่สถาบันการเงินได้รับเงินให้ความช่วยเหลือธปท.แล้วแต่ไม่มีการเบิกเงินภายในระยะเวลา 6 เดือนนับจากวันที่ธปท.ได้รับตั๋วสัญญาใช้เงินที่กระทรวงการคลังอาวัล
กำลังโหลดความคิดเห็น