xs
xsm
sm
md
lg

รบ.สเปนชนะเลือกตั้งสมัยสอง แต่ศึกยังหนักต้องแก้ศก.ถดถอย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ - พรรครัฐบาลสเปนชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่2 ทว่า ไม่ได้เสียงข้างมากเด็ดขาดที่จะช่วยเอื้อให้รัฐบาลดำเนินการอย่างรวดเร็วแก้ปัญหาเศรษฐกิจถดถอย ที่อาจทำให้ความนิยมรัฐบาลลดฮวบไปอีก หากฟื้นเศรษฐกิจไม่สำเร็จ

ผลการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์(9) หลังจากนับคะแนนไปได้ 96% ชี้ว่า พรรคโซเชียลิสต์ของนายกรัฐมนตรีโฆเซ่ หลุยส์ โรดริเกซ ซาปาเตโร น่าจะคว้าที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรได้ 169 ที่นั่ง จาก 350 ที่นั่ง เพิ่มขึ้น 5 ที่นั่งจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

ขณะที่พรรคปอปูลาร์ปาร์ตี้(พีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหัวอนุรักษ์นิยมกลางขวา ได้ที่นั่งไป 153 ที่นั่ง เพิ่มขึ้น 5 ที่นั่งจากการเลือกตั้งเมื่อปี2004 ซึ่งพรรคพีพีพ่ายแพ้พรรคโซเชียลิสต์ไปอย่างคาดไม่ถึง

ในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้วนั้น ในช่วงแรกโพลล์สำนักต่างๆชี้ว่า ซาปาเตโรมีคะแนนตามหลังโฆเซ่ มาเรีย อัซนาร์ นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ทว่า สามวันก่อนหน้าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในเดือนมีนาคม ปี2004นั้น ได้เกิดเหตุวินาศกรรมโจมตีรถไฟที่กรุงมาดริด คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 190 คน

รัฐบาลสเปนในยุคนั้น ภายใต้การนำของพรรคพีพีของอัซนาร์ รีบออกมากล่าวหากลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนแคว้นบาสก์ เอต้า (ETA) อยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรมโจมตีรถไฟมาดริด ทว่า ผลการสืบสวนภายหลังชี้ว่า ดูเหมือนกลุ่มอิสลามิสต์จะเป็นผู้ก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว ทำให้ประชาชนจำนวนมากรู้สึกว่าถูกรัฐบาลหลอกหลวง จึงเทคะแนนให้กับพรรคโซเชียลิสต์ ทำให้ซาปาเตโรชนะเลือกตั้งในปี2004 อย่างพลิกความคาดหมาย

ผู้คนส่วนหนึ่งกล่าวว่าซาปาเตโรชนะเลือกตั้งขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะโชคช่วย เนื่องจากได้รับคะแนนเสียงจากพวกที่รู้สึกว่าถูกรัฐบาลอนุรักษ์นิยมหลอกลวง อีกทั้งในช่วงที่ซาปาเตโรบริหารประเทศในช่วงที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจสเปนก็เติบโตเฟื่องฟู

ทว่า ณ ตอนนี้ นักเศรษฐศาสตร์บางคนกล่าวว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้น่าจะลดลงครึ่งหนึ่งมาอยู่ที่ 2% ขณะที่ราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวในช่วง 10 ปี ตอนนี้กำลังดิ่งลงเรื่อยๆ ทว่า อัตราเงินเฟ้อกลับพุ่งสูงมาอยู่ที่ 4.4%

รัฐบาลของซาปาเตโรให้คำมั่นว่าจะใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มตำแหน่งงานมากขึ้น ทว่า การที่พรรคโซเชียลิสต์ขาดเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภา ก็ยิ่งทำให้ซาปาเตโรผลักดันแผนแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ยากขึ้น และอาจตกอยู่ในฐานะลำบาก หากวิกฤติสินเชื่อตึงตัวที่แพร่กระจายจากสหรัฐฯสู่ทั่วโลก ยืดเยื้อกินเวลานาน
กำลังโหลดความคิดเห็น