ผู้จัดการรายวัน – ศูนย์ข้อมูลเผยสถิติการออกใบจัดสรรที่ดินทั่วประเทศใน ปี 50 พบจัดสรรเปิดตัวโครงการใหม่ลด 11% แถมพัฒนาโครงการขนาดเล็กลงเป็นเหตุให้จำนวนหน่วยลดลง 15%
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าสถิติการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั่วประเทศ ตลอดปี 2550 มีจำนวนโครงการรวม 465 โครงการ ลดลงร้อยละ 11จากปี 2549 ที่มีจำนวน 524 โครงการ โดยในปีที่ผ่านมามีจำนวนหน่วยทั้งสิ้น 58,604 หน่วย เฉลี่ย 126 หน่วยต่อโครงการ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากปี 2549 ร้อยละ 15 ที่มีจำนวนหน่วยรวม 68,861 หน่วย เฉลี่ย 131 หน่วยต่อโครงการ
จากจำนวนหน่วยทั้งหมด มีกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ 13,446 หน่วย เท่ากับร้อยละ 23 ส่วนจังหวัดปริมณฑลรอบกรุงเทพฯ 5 จังหวัดรวมกันมี 29,813 หน่วย เท่ากับร้อยละ 51 และที่เหลืออีก 15,345 หน่วยหรือร้อยละ 27 อยู่ในอีก 70 จังหวัดรวมกัน จังหวัดรองจากกรุงเทพฯ ที่มีการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินมากที่สุด ได้แก่ สมุทรสาคร (9,559 หน่วย) สมุทรปราการ (8,465 หน่วย) นนทบุรี (6,311 หน่วย) ปทุมธานี (4,670 หน่วย) และชลบุรี (4,292 หน่วย)
ส่วนการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินในภาคอื่นๆ ที่มีการออกใบอนุญาตฯมาก ได้แก่ ภาคเหนือมี 28 โครงการ 1,862 หน่วย เฉลี่ย 67 หน่วยต่อโครงการ อยู่ในเชียงใหม่มากที่สุด 1,568 หน่วย โดยจำนวนหน่วยในเชียงใหม่ลดลงร้อยละ 25 จากปี 2549 ที่มี 2,080 หน่วยภาคกลางมี 44 โครงการ 4,398 หน่วย เฉลี่ย 100 หน่วยต่อโครงการ อยู่ในอยุธยามากที่สุด 1,827 หน่วย โดยอยุธยามีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 จาก 1,330 หน่วยเป็น 1,827 หน่วย แต่สมุทรสาครมีอัตราเพิ่มมากกว่าจาก 1,781 หน่วยในปี 2549 เป็น 9,559 หน่วยในปี 2550 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 5 เท่า
ภาคตะวันออกมี 77 โครงการ 6,277 หน่วย เฉลี่ย 82 หน่วยต่อโครงการ อยู่ในชลบุรีมากที่สุด 4,292 หน่วย รองลงมาคือระยอง 980 หน่วย แต่จันทบุรีเป็นจังหวัดเดียวในภาคตะวันออกที่มีอัตราเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มจาก 104 หน่วยในปี 2549 เป็น 753 หน่วยในปี 2550 หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่า ในขณะที่ชลบุรีลดลงร้อยละ 5
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี 16 โครงการ 1,003 หน่วย เฉลี่ย 63 หน่วยต่อโครงการ อยู่ในนครราชสีมา 758 หน่วย เพิ่มจากปี 2549 ร้อยละ 13 ภาคใต้มี 19 โครงการ 1,805 หน่วย เฉลี่ย 95 หน่วยต่อโครงการ อยู่ในภูเก็ต 1,579 หน่วย รองลงมาคือสุราษฎร์ธานี 226 หน่วย และประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดที่มีสถิติอัตราเพิ่มของใบอนุญาตจัดสรรที่ดินสูงที่สุดในประเทศ จาก 58 หน่วยในปี 2549 เป็น 602 หน่วยในปี 2550 เท่ากับเพิ่มขึ้นมากกว่า 9 เท่า ขณะที่ภูเก็ตมีอัตราลดลงร้อยละ 15 จาก 1,857 หน่วย เหลือ 1,579 หน่วย
ทั้งนี้ จากจำนวนหน่วยจัดสรรที่ดินทั้งหมดทั่วประเทศ เป็นการจัดสรรเพื่ออยู่อาศัยประมาณร้อยละ 90 ที่เหลือเป็นการจัดสรรที่ดินเปล่า ขณะที่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลมีจำนวนหน่วยจัดสรรที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยประมาณร้อยละ 94 อนึ่งจำนวนหน่วยจัดสรรที่ดินทั้งหมดถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา ซึ่งมีจำนวนหน่วยจัดสรรที่ดินทั่วประเทศ 62,452 หน่วย และสูงสุดในปี 2548 ซึ่งมี 77,703 หน่วย
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าสถิติการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั่วประเทศ ตลอดปี 2550 มีจำนวนโครงการรวม 465 โครงการ ลดลงร้อยละ 11จากปี 2549 ที่มีจำนวน 524 โครงการ โดยในปีที่ผ่านมามีจำนวนหน่วยทั้งสิ้น 58,604 หน่วย เฉลี่ย 126 หน่วยต่อโครงการ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากปี 2549 ร้อยละ 15 ที่มีจำนวนหน่วยรวม 68,861 หน่วย เฉลี่ย 131 หน่วยต่อโครงการ
จากจำนวนหน่วยทั้งหมด มีกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ 13,446 หน่วย เท่ากับร้อยละ 23 ส่วนจังหวัดปริมณฑลรอบกรุงเทพฯ 5 จังหวัดรวมกันมี 29,813 หน่วย เท่ากับร้อยละ 51 และที่เหลืออีก 15,345 หน่วยหรือร้อยละ 27 อยู่ในอีก 70 จังหวัดรวมกัน จังหวัดรองจากกรุงเทพฯ ที่มีการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินมากที่สุด ได้แก่ สมุทรสาคร (9,559 หน่วย) สมุทรปราการ (8,465 หน่วย) นนทบุรี (6,311 หน่วย) ปทุมธานี (4,670 หน่วย) และชลบุรี (4,292 หน่วย)
ส่วนการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินในภาคอื่นๆ ที่มีการออกใบอนุญาตฯมาก ได้แก่ ภาคเหนือมี 28 โครงการ 1,862 หน่วย เฉลี่ย 67 หน่วยต่อโครงการ อยู่ในเชียงใหม่มากที่สุด 1,568 หน่วย โดยจำนวนหน่วยในเชียงใหม่ลดลงร้อยละ 25 จากปี 2549 ที่มี 2,080 หน่วยภาคกลางมี 44 โครงการ 4,398 หน่วย เฉลี่ย 100 หน่วยต่อโครงการ อยู่ในอยุธยามากที่สุด 1,827 หน่วย โดยอยุธยามีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 จาก 1,330 หน่วยเป็น 1,827 หน่วย แต่สมุทรสาครมีอัตราเพิ่มมากกว่าจาก 1,781 หน่วยในปี 2549 เป็น 9,559 หน่วยในปี 2550 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 5 เท่า
ภาคตะวันออกมี 77 โครงการ 6,277 หน่วย เฉลี่ย 82 หน่วยต่อโครงการ อยู่ในชลบุรีมากที่สุด 4,292 หน่วย รองลงมาคือระยอง 980 หน่วย แต่จันทบุรีเป็นจังหวัดเดียวในภาคตะวันออกที่มีอัตราเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มจาก 104 หน่วยในปี 2549 เป็น 753 หน่วยในปี 2550 หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่า ในขณะที่ชลบุรีลดลงร้อยละ 5
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี 16 โครงการ 1,003 หน่วย เฉลี่ย 63 หน่วยต่อโครงการ อยู่ในนครราชสีมา 758 หน่วย เพิ่มจากปี 2549 ร้อยละ 13 ภาคใต้มี 19 โครงการ 1,805 หน่วย เฉลี่ย 95 หน่วยต่อโครงการ อยู่ในภูเก็ต 1,579 หน่วย รองลงมาคือสุราษฎร์ธานี 226 หน่วย และประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดที่มีสถิติอัตราเพิ่มของใบอนุญาตจัดสรรที่ดินสูงที่สุดในประเทศ จาก 58 หน่วยในปี 2549 เป็น 602 หน่วยในปี 2550 เท่ากับเพิ่มขึ้นมากกว่า 9 เท่า ขณะที่ภูเก็ตมีอัตราลดลงร้อยละ 15 จาก 1,857 หน่วย เหลือ 1,579 หน่วย
ทั้งนี้ จากจำนวนหน่วยจัดสรรที่ดินทั้งหมดทั่วประเทศ เป็นการจัดสรรเพื่ออยู่อาศัยประมาณร้อยละ 90 ที่เหลือเป็นการจัดสรรที่ดินเปล่า ขณะที่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลมีจำนวนหน่วยจัดสรรที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยประมาณร้อยละ 94 อนึ่งจำนวนหน่วยจัดสรรที่ดินทั้งหมดถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา ซึ่งมีจำนวนหน่วยจัดสรรที่ดินทั่วประเทศ 62,452 หน่วย และสูงสุดในปี 2548 ซึ่งมี 77,703 หน่วย