ผู้จัดการรายวัน – วีพีพี สยายปีกร้านกาแฟแบรนด์ดิโอโร่ เปิดอีก 10 สาขา ด้วยงบ 10 ล้านบาท ต่อยอดธุรกิจสู่ตลาดกาแฟคั่วสดชนิดถ้วยสำเร็จรูปรายแรก พร้อมลุยตลาดน้ำผลไม้ ลั่นปีหน้าส่งออกกาแฟดิบแบรนด์ อมก๋อยคอฟฟี่เอสเตท มั่นใจปีนี้โต 15% สู่รายได้ 150 ล้านบาท
นายวีระเดช สมบูรณ์เวชชการ ประธาน บริษัท วีพีพี โปรเกรสซีฟ จำกัด เจ้าของร้านกาแฟแบรนด์ ดิโอโร่ เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนต่อยอดและขยายไลน์สินค้าจากแบรนด์ ดิโอโร่ มากขึ้นจากเดิมที่ธุรกิจหลักคือ ร้านกาแฟดิโอโร่ เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์และสร้างการเติบโตด้วย
โดยขณะนี้ได้เริ่มขยายตลาดกาแฟสู่ ดิโอโร่ทูโก เป็นกาแฟคั่วสดชนิดถ้วยสำเร็จรูป รายแรกในตลาดนี้ จำหน่ายราคา 25 บาทต่อถ้วย โดยเริ่มวางจำหน่ายในช่องทางร้านกาแฟดิโอโร่ ร้านแฟมิลี่มาร์ท ร้านเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส ร้านท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านซีเล็คในปั๊มเชลล์ จับกลุ่มผู้ที่ชอบดื่มกาแฟที่เน้นความสะดวกสบาย
นอกจากนั้นยังได้ขยายลู่ตลาดน้ำผลไม้ โดยเปิดตัว น้ำผลไม้สดดิโอโร่ บรรจุขวดเพ็ท เริ่มแรกมี 4 รสชาติคือ น้ำฝรั่งชมพู น้ำเสาวรสแครอท น้ำสัปปะรด น้ำบีทรูด ราคา 25 บาทต่อขวดขนาด 250 ซีซี เริ่มวางจำหน่ายเฉพาะในร้านดิโอโร่ก่อน พร้อมทั้งเจรจากับช่องทางร้านค้าอื่นๆอีกที่เป็นเชน เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ที่รักสุขภาพเป็นหลัก
ขณะที่ในปี 2522 มีแผนที่จะส่งออกเมล็ดกาแฟดิบแบรนด์ “อมก๋อย คอฟฟี่ เอสเตท” ซึ่งเป็นการสร้างแบรนด์ของบริษัทฯรขึ้นเองตามพื้นที่เพาะปลูกกาแฟ จากเดิมที่ก่อนหน้านี้บริษัทฯทำการส่งออกวัตถุดิบให้กับต่างประเทศเท่านั้นโดยไม่มีแบรนด์ โดยจะเน้นตลาด ประเทศญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น ซึ่งปีนี้จะไปออกงานกาแฟเอเซียที่อ่องกงเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ด้วย คาดว่าปีหน้าจะสามารถส่งออกได้ประมาณ 100 ตัน เพราะมีตลาดอยู่แล้ว และมีแผนที่จะส่งออกกาแฟคั่วบดในแบรนด์ ดิโอโร่ อีกด้วย
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในส่วนของร้านกาแฟดิโอโร่นั้น ปีนี้คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อเปิดเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 10 สาขา (แบ่งเป็นในปั๊มเชลล์ซึ่งเป็นพันธมิตรหลัก 5 สาขา และที่เหลือเปิดตามสำนักงาน โรงพยาบาล สถานที่ราชการ) จากปัจจุบันที่มีร้านกาแฟดิโอโร่เปิดบริการประมาณ 87 สาขา แบ่งเป็นร้านที่อยู่ในปั๊มเชลล์ 60% และทำเลอื่น 40% และหากแบ่งเป็นประเภท จะเป็นร้านของบริษัทฯ 83 สาขา และร้านแฟรนไชส์ 4 สาขา อย่างไรก็ตามจากนี้ไปบริษัทฯจะเน้นการลงทุนเองเป็นหลัก
ปีนี้มีแผนจะใช้งบการตลาดประมาณ 5 ล้านบาท ทำทั้งการส่งเสริมการขาย การออกเมนูใหม่ เพราะมั่นใจว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากตลาดรวมกาแฟในช่องทางร้านที่เป็นเชนและไม่เป็นเชนมากกว่า 5,000 ล้านบาท เพราะคนไทยยังดื่มกาแฟน้อยไม่ถึง 1 แก้วต่อคนต่อปี ขณะที่เพื่อนบ้านเช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ดื่มมากกว่า 1 แก้วต่อคนต่อปี
นายวีระเดชกล่าวว่า จากแผนธุรกิจนี้ ทำให้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตขึ้น 15% หรือมีรายได้ 150 ล้านบาท ซึ่งโตมากกว่าปีที่แล้วที่เติบโต 14% หรือมีรายได้ประมาณ 130 ล้านบาท แต่ต่ำกว่าเป้าเติบโตเดิมที่ตั้งไว้ที่ 20%
นายวีระเดช สมบูรณ์เวชชการ ประธาน บริษัท วีพีพี โปรเกรสซีฟ จำกัด เจ้าของร้านกาแฟแบรนด์ ดิโอโร่ เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนต่อยอดและขยายไลน์สินค้าจากแบรนด์ ดิโอโร่ มากขึ้นจากเดิมที่ธุรกิจหลักคือ ร้านกาแฟดิโอโร่ เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์และสร้างการเติบโตด้วย
โดยขณะนี้ได้เริ่มขยายตลาดกาแฟสู่ ดิโอโร่ทูโก เป็นกาแฟคั่วสดชนิดถ้วยสำเร็จรูป รายแรกในตลาดนี้ จำหน่ายราคา 25 บาทต่อถ้วย โดยเริ่มวางจำหน่ายในช่องทางร้านกาแฟดิโอโร่ ร้านแฟมิลี่มาร์ท ร้านเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส ร้านท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านซีเล็คในปั๊มเชลล์ จับกลุ่มผู้ที่ชอบดื่มกาแฟที่เน้นความสะดวกสบาย
นอกจากนั้นยังได้ขยายลู่ตลาดน้ำผลไม้ โดยเปิดตัว น้ำผลไม้สดดิโอโร่ บรรจุขวดเพ็ท เริ่มแรกมี 4 รสชาติคือ น้ำฝรั่งชมพู น้ำเสาวรสแครอท น้ำสัปปะรด น้ำบีทรูด ราคา 25 บาทต่อขวดขนาด 250 ซีซี เริ่มวางจำหน่ายเฉพาะในร้านดิโอโร่ก่อน พร้อมทั้งเจรจากับช่องทางร้านค้าอื่นๆอีกที่เป็นเชน เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ที่รักสุขภาพเป็นหลัก
ขณะที่ในปี 2522 มีแผนที่จะส่งออกเมล็ดกาแฟดิบแบรนด์ “อมก๋อย คอฟฟี่ เอสเตท” ซึ่งเป็นการสร้างแบรนด์ของบริษัทฯรขึ้นเองตามพื้นที่เพาะปลูกกาแฟ จากเดิมที่ก่อนหน้านี้บริษัทฯทำการส่งออกวัตถุดิบให้กับต่างประเทศเท่านั้นโดยไม่มีแบรนด์ โดยจะเน้นตลาด ประเทศญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น ซึ่งปีนี้จะไปออกงานกาแฟเอเซียที่อ่องกงเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ด้วย คาดว่าปีหน้าจะสามารถส่งออกได้ประมาณ 100 ตัน เพราะมีตลาดอยู่แล้ว และมีแผนที่จะส่งออกกาแฟคั่วบดในแบรนด์ ดิโอโร่ อีกด้วย
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในส่วนของร้านกาแฟดิโอโร่นั้น ปีนี้คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อเปิดเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 10 สาขา (แบ่งเป็นในปั๊มเชลล์ซึ่งเป็นพันธมิตรหลัก 5 สาขา และที่เหลือเปิดตามสำนักงาน โรงพยาบาล สถานที่ราชการ) จากปัจจุบันที่มีร้านกาแฟดิโอโร่เปิดบริการประมาณ 87 สาขา แบ่งเป็นร้านที่อยู่ในปั๊มเชลล์ 60% และทำเลอื่น 40% และหากแบ่งเป็นประเภท จะเป็นร้านของบริษัทฯ 83 สาขา และร้านแฟรนไชส์ 4 สาขา อย่างไรก็ตามจากนี้ไปบริษัทฯจะเน้นการลงทุนเองเป็นหลัก
ปีนี้มีแผนจะใช้งบการตลาดประมาณ 5 ล้านบาท ทำทั้งการส่งเสริมการขาย การออกเมนูใหม่ เพราะมั่นใจว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากตลาดรวมกาแฟในช่องทางร้านที่เป็นเชนและไม่เป็นเชนมากกว่า 5,000 ล้านบาท เพราะคนไทยยังดื่มกาแฟน้อยไม่ถึง 1 แก้วต่อคนต่อปี ขณะที่เพื่อนบ้านเช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ดื่มมากกว่า 1 แก้วต่อคนต่อปี
นายวีระเดชกล่าวว่า จากแผนธุรกิจนี้ ทำให้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตขึ้น 15% หรือมีรายได้ 150 ล้านบาท ซึ่งโตมากกว่าปีที่แล้วที่เติบโต 14% หรือมีรายได้ประมาณ 130 ล้านบาท แต่ต่ำกว่าเป้าเติบโตเดิมที่ตั้งไว้ที่ 20%