รอยเตอร์ – ประธานาธิบดีกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย แห่งฟิลิปปินส์ ยอมรับเมื่อวานนี้(24)ว่า ตนรู้ว่าเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากลที่อาจนำไปสู่การคอร์รัปชั่นในข้อตกลงมูลค่า 329 ล้านดอลลาร์ ที่ฟิลิปปินส์ลงนามกับบริษัทจีน ตั้งแต่ในช่วงเกือบ 6 เดือนก่อนหน้าที่อาร์โรโยจะยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว
อาร์โรโยกล่าวว่า ตนทราบเรื่องไม่ชอบมาพากลในข้อตกลงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ตั้งแต่เดือนเมษายน ปีที่แล้ว ทว่า อาร์โรโยเพิ่งยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่นักธุรกิจคนหนึ่งขึ้นให้ปากคำต่อวุฒิสภาว่า อดีตประธานกกต. และสามีของอาร์โรโย พยายามติดสินบนให้นักธุรกิจผู้นี้หยุดแข่งประมูลทำข้อตกลงนี้กับบริษัทจีน
ทั้งนี้ สามีของอาร์โรโยและอดีตประธานกกต. ถูกกล่าวหาว่า เรียกรับเงินสินบนหลายล้านดอลลาร์ จากข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งเป็นชนวนทำให้นักเรียนและประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงขับไล่อาร์โรโย
อาร์โรโยกล่าวว่า ตนทราบเรื่องไม่ชอบมาพากลในข้อตกลงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ตั้งแต่เดือนเมษายน ปีที่แล้ว ทว่า อาร์โรโยเพิ่งยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่นักธุรกิจคนหนึ่งขึ้นให้ปากคำต่อวุฒิสภาว่า อดีตประธานกกต. และสามีของอาร์โรโย พยายามติดสินบนให้นักธุรกิจผู้นี้หยุดแข่งประมูลทำข้อตกลงนี้กับบริษัทจีน
ทั้งนี้ สามีของอาร์โรโยและอดีตประธานกกต. ถูกกล่าวหาว่า เรียกรับเงินสินบนหลายล้านดอลลาร์ จากข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งเป็นชนวนทำให้นักเรียนและประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงขับไล่อาร์โรโย