ผู้จัดการรายวัน – สปอร์ตมอลล์เดินหน้า มุ่งกีฬากอล์ฟเต็มที่ในปีนี้ หลังจากยอดขายกลุ่มนี้ปีที่แล้วเพิ่ม 40%
นายสุนทร สุรีย์เหลืองขจร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารสินค้า “สปอร์ต มอลล์” บริษัท “เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า “สปอร์ต มอลล์” มีแผนรุกสินค้าประเภท “กอล์ฟ” ทั้งนี้เพื่อเป็นการต่อยอดในปีที่ผ่านมาที่มียอดขายอุปกรณ์กอล์ฟ 350 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 40% ในขณะที่อุปกรณ์กีฬาโดยรวมเติบโตขึ้น 20% หรือมียอดขายรวมกว่า 1,800 ล้านบาท ในส่วนของกอล์ฟได้จัดกิจกรรมใหญ่ 3 รายการ อาทิ “Ultimate Golf World 2008 , Legend of Golf Hero รวมไปถึงการเปิดตัว Simulation จาก Wildinh Golf ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ เสื้อผ้า , เครื่องประดับ และ ของที่ระลึก ในแกรนด์สแลมต่างๆ ที่คาดว่าจะเป็นที่น่าสนใจของกลุ่มผู้บริโภคเช่นกัน
กลุ่มที่นิยมในกีฬากอล์ฟมีอยู่ประมาณกว่า 7 แสนคนจากจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศ ซึ่งทางห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ จะจับกลุ่มครอบครัว ขณะที่ทางเอ็มโพเรี่ยม และ พารากอนจะมุ่งในกลุ่มต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันตลาดรวมสินค้าประเภทนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 3 พันล้านบาทซึ่งเติบโตขึ้น 40% โดยมูลค่าตลาดรวมอุปกรณ์กีฬาทั้งหมดจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งทาง “สปอร์ต มอลล์” วางงบในส่วนของ การตลาดในผลิตภัณท์ทั้งหมดไว้ 50 ล้านบาท ซึ่ง กอล์ฟ มีสัดส่วน 20%ของงบทั้งหมด
นอกจากนี้ “สปอร์ต มอลล์” เตรียมทุ่มงบ 7 ล้านบาท ในการทำตลาดโดยรวม แบ่งเป็น ในเทศกาลยูโร 2 ล้านบาท , โอลิมปิค 5 ล้านบาท สำหรับกิจกรรม และ โปรโมชั่นในการทำตลาด ซึ่งคาดว่าผู้บริโภคจะให้ความสนใจกับ 2 รายการใหญ่ในครั้งนี้โดยจะส่งผลให้ทาง สปอร์ต มอลล์ มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20% ในทั้ง 2 รายการ ซึ่งสินค้าที่คาดว่าผู้บริโภคจะให้ความสนใจเป็นพิเศษจะอยู่ในกลุ่มของ เสื้อผ้า, ยูนิฟอร์ม และ ของที่ระลึกโดยเฉพาะที่อยู่ในกลุ่มของฟุตบอล
*************
สปอร์ต มอลล์ สานต่อความสำเร็จ ชูกลยุทธ์ ฮีโร มาร์เก็ตติ้ง จับกลุ่มลูกค้าไฮเอ็นผู้ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ
นายสุนทร สุรีย์เหลืองขจร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารสินค้า “สปอร์ต มอลล์” บริษัท “เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า“สปอร์ต มอลล์” มีแผนรุกในสินค้าประเภท “กอล์ฟ”ทั้งนี้เพื่อเป็นการต่อยอดในปีที่ผ่านมา ที่มียอดขาย 350 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 40 % ในขณะที่อุปกรณ์กีฬาโดยรวมเติบโตขึ้น 20 % หรือมียอดขายรวมกว่า 1,800 ล้านบาท ในส่วนของกอล์ฟได้จัดกิจกรรมใหญ่ 3 รายการ อาทิ “Ultimate Golf World 2008 , Legend of Golf Hero รวมไปถึงการเปิดตัว Simulstion จาก Wildinh Golf ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ เสื่อผ้า , เครื่องประดับ และ ของที่ระลึก ในแกรนด์สแลมต่างๆ ที่คาดว่าจะเป็นที่น่าสนใจของกลุ่มผู้บริโภคเช่นกัน
กลุ่มที่นิยมในกีฬากอล์ฟมีอยู่ประมาณกว่า 7 แสนคนจากจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศ ซึ่งทางห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ จะจับในกลุ่ม ครอบครัว ขณะที่ทาง เอ็มโพเรี่ยม และ พารากอนจะมุ่งในกลุ่มต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันตลาดรวมสินค้าประเภทนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 3 พันล้านบาทซึ่งเติบโตขึ้น 40 % โดยมูลค่าตลาดรวมอุปกรณ์กีฬาทั้งหมดจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งทาง “สปอร์ต มอลล์” วางงบในส่วนของ การตลาดในผลิตภัณท์ทั้งหมดไว้ 50 ล้านบาท ซึ่ง กอล์ฟ มีสัดส่วน 20 %ของงบทั้งหมด
นอกจากนี้ “สปอร์ต มอลล์” เตรียมทุ่มงบ 7 ล้านบาท ในการทำตลาด แบ่งเป็น ในเทศกาลยูโร 2 ล้านบาท , โอลิมปิค 5 ล้านบาท สำหรับกิจกรรม และ โปรโมชั่นในการทำตลาด ซึ่งคาดว่าผู้บริโภคจะให้ความสนใจกับ 2 แกรน์สแลมในครั้งนี้โดยจะส่งผลให้ทาง สปอร์ต มอลล์ มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20 % ในทั้ง 2 รายการ ซึ่งสินค้าที่คาดว่าผู้บริโภคจะให้ความสนใจเป็นพิเศษจะอยู่ในกลุ่มของ เสื้อผ้า , ยูนิฟรอม และ ของที่ระลึกโดยเฉพาะที่อยู่ในกลุ่มของฟุตบอล
นายสุนทร สุรีย์เหลืองขจร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารสินค้า “สปอร์ต มอลล์” บริษัท “เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า “สปอร์ต มอลล์” มีแผนรุกสินค้าประเภท “กอล์ฟ” ทั้งนี้เพื่อเป็นการต่อยอดในปีที่ผ่านมาที่มียอดขายอุปกรณ์กอล์ฟ 350 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 40% ในขณะที่อุปกรณ์กีฬาโดยรวมเติบโตขึ้น 20% หรือมียอดขายรวมกว่า 1,800 ล้านบาท ในส่วนของกอล์ฟได้จัดกิจกรรมใหญ่ 3 รายการ อาทิ “Ultimate Golf World 2008 , Legend of Golf Hero รวมไปถึงการเปิดตัว Simulation จาก Wildinh Golf ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ เสื้อผ้า , เครื่องประดับ และ ของที่ระลึก ในแกรนด์สแลมต่างๆ ที่คาดว่าจะเป็นที่น่าสนใจของกลุ่มผู้บริโภคเช่นกัน
กลุ่มที่นิยมในกีฬากอล์ฟมีอยู่ประมาณกว่า 7 แสนคนจากจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศ ซึ่งทางห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ จะจับกลุ่มครอบครัว ขณะที่ทางเอ็มโพเรี่ยม และ พารากอนจะมุ่งในกลุ่มต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันตลาดรวมสินค้าประเภทนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 3 พันล้านบาทซึ่งเติบโตขึ้น 40% โดยมูลค่าตลาดรวมอุปกรณ์กีฬาทั้งหมดจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งทาง “สปอร์ต มอลล์” วางงบในส่วนของ การตลาดในผลิตภัณท์ทั้งหมดไว้ 50 ล้านบาท ซึ่ง กอล์ฟ มีสัดส่วน 20%ของงบทั้งหมด
นอกจากนี้ “สปอร์ต มอลล์” เตรียมทุ่มงบ 7 ล้านบาท ในการทำตลาดโดยรวม แบ่งเป็น ในเทศกาลยูโร 2 ล้านบาท , โอลิมปิค 5 ล้านบาท สำหรับกิจกรรม และ โปรโมชั่นในการทำตลาด ซึ่งคาดว่าผู้บริโภคจะให้ความสนใจกับ 2 รายการใหญ่ในครั้งนี้โดยจะส่งผลให้ทาง สปอร์ต มอลล์ มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20% ในทั้ง 2 รายการ ซึ่งสินค้าที่คาดว่าผู้บริโภคจะให้ความสนใจเป็นพิเศษจะอยู่ในกลุ่มของ เสื้อผ้า, ยูนิฟอร์ม และ ของที่ระลึกโดยเฉพาะที่อยู่ในกลุ่มของฟุตบอล
*************
สปอร์ต มอลล์ สานต่อความสำเร็จ ชูกลยุทธ์ ฮีโร มาร์เก็ตติ้ง จับกลุ่มลูกค้าไฮเอ็นผู้ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ
นายสุนทร สุรีย์เหลืองขจร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารสินค้า “สปอร์ต มอลล์” บริษัท “เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า“สปอร์ต มอลล์” มีแผนรุกในสินค้าประเภท “กอล์ฟ”ทั้งนี้เพื่อเป็นการต่อยอดในปีที่ผ่านมา ที่มียอดขาย 350 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 40 % ในขณะที่อุปกรณ์กีฬาโดยรวมเติบโตขึ้น 20 % หรือมียอดขายรวมกว่า 1,800 ล้านบาท ในส่วนของกอล์ฟได้จัดกิจกรรมใหญ่ 3 รายการ อาทิ “Ultimate Golf World 2008 , Legend of Golf Hero รวมไปถึงการเปิดตัว Simulstion จาก Wildinh Golf ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ เสื่อผ้า , เครื่องประดับ และ ของที่ระลึก ในแกรนด์สแลมต่างๆ ที่คาดว่าจะเป็นที่น่าสนใจของกลุ่มผู้บริโภคเช่นกัน
กลุ่มที่นิยมในกีฬากอล์ฟมีอยู่ประมาณกว่า 7 แสนคนจากจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศ ซึ่งทางห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ จะจับในกลุ่ม ครอบครัว ขณะที่ทาง เอ็มโพเรี่ยม และ พารากอนจะมุ่งในกลุ่มต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันตลาดรวมสินค้าประเภทนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 3 พันล้านบาทซึ่งเติบโตขึ้น 40 % โดยมูลค่าตลาดรวมอุปกรณ์กีฬาทั้งหมดจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งทาง “สปอร์ต มอลล์” วางงบในส่วนของ การตลาดในผลิตภัณท์ทั้งหมดไว้ 50 ล้านบาท ซึ่ง กอล์ฟ มีสัดส่วน 20 %ของงบทั้งหมด
นอกจากนี้ “สปอร์ต มอลล์” เตรียมทุ่มงบ 7 ล้านบาท ในการทำตลาด แบ่งเป็น ในเทศกาลยูโร 2 ล้านบาท , โอลิมปิค 5 ล้านบาท สำหรับกิจกรรม และ โปรโมชั่นในการทำตลาด ซึ่งคาดว่าผู้บริโภคจะให้ความสนใจกับ 2 แกรน์สแลมในครั้งนี้โดยจะส่งผลให้ทาง สปอร์ต มอลล์ มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20 % ในทั้ง 2 รายการ ซึ่งสินค้าที่คาดว่าผู้บริโภคจะให้ความสนใจเป็นพิเศษจะอยู่ในกลุ่มของ เสื้อผ้า , ยูนิฟรอม และ ของที่ระลึกโดยเฉพาะที่อยู่ในกลุ่มของฟุตบอล
