xs
xsm
sm
md
lg

เปิดกรุที่ดิน“สี่แยกอินโดจีน”สองแคว วันนี้ยังไร้ทุนยักษ์-เถ้าแก่ท้องถิ่นซื้อรอเก็งกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - เจาะขุมทรัพย์ที่ดินแปลงใหญ่แถบสี่แยกอินโดจีน วันนี้ยังสงบนิ่งอยู่ในมือเถ้าแก่-นายห้างเมืองสองแคว ชี้ซื้อขายเปลี่ยนมือรอบที่ผ่านมาก็แค่รอดักหน้านักธุรกิจต่างถิ่น ด้านกรมที่ดินเทียบราคาประเมินปี 51 ริมถนนสาย 12 พิษณุโลก-หล่มสัก จุดตัดสี่แยกอินโดจีนถือว่า ทำเลทองแพงสุดๆในย่านธุรกิจ

ความคืบหน้าของการพัฒนาสี่แยกอินโดจีนให้เป็นรูปธรรม หลังจากที่นายสมบูรณ์ ศรีพัฒนาวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกต้องการสานฝันสี่แยกอินโดจีน โดยไม่ต้องการให้สี่แยกอินโดจีนเป็นเพียงแค่ป้ายสัญลักษณ์บอกทางเท่านั้น

แม้ว่าโครงการพัฒนาอาคารศูนย์วัฒนธรรม 5 ชาติยังเป็นวุ้น ไม่มีความคืบหน้ามากนัก แต่นักธุรกิจเมืองพิษณุโลกต่างก็เฝ้าจับตา และดูการเปลี่ยนมือ -ราคาที่ดินในย่านสี่แยกอินโดจีนที่รอวันถีบตัวสูงขึ้น หากมีการพัฒนาโครงการสี่แยกอินโดจีนเกิดขึ้นจริง ซึ่งดูเหมือนว่า จะมีความเป็นไปได้สูง เพราะแรงส่งจากแนวคิดผู้ว่าฯ ซีอีโอ เตรียมนำกลับมาใช้อีกครั้งในรัฐบาล “สมัคร สุนทรเวช”

อย่างไรก็ตามนายวิเศษ วชิราศรีศิริกุล ประธานหอการค้าจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวของนักลงทุนนอกพื้นที่หรือต่างชาติเข้าจับจองจริง มีเพียงข่าว การเปลี่ยนมือของที่ดินย่านสี่แยกอินโดจีนเมื่อปี 2550 เดิมทีว่ากันว่า จะมีทุนจีนแผ่นดินใหญ่กว้านซื้อที่ดินแปลงใหญ่ เพื่อเป็นที่พักรถรองรับการขนส่งจากคุนหมิง-กรุงเทพฯ แต่ก็เงียบหายไป เพราะเศรษฐกิจไม่ดี อีกทั้งยังไม่มีอะไรชัดเจนนักสำหรับโครงการสี่แยกอินโดจีนหรือลอจิสติกส์ เท่ากับว่าไม่มีแม่เหล็กแรงพอดึงดูดทุนต่างถิ่นเข้ามาในจังหวัดพิษณุโลก

ขณะเดียวกัน “ผู้จัดการรายวัน” ได้สำรวจ ที่ดินรัศมี 1 กิโลเมตร จากแถบสี่แยกร้องโพธิ์หรือสี่แยกอินโดจีน พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในมือนักธุรกิจในตลาดพิษณุโลก กล่าวคือ ทิศตะวันออกเป็นที่ดินสาธารณะของวัดกรมธรรม์ และที่ดินของหมู่บ้านเอื้ออาทร ส่วนตอนใต้ ที่ดินติดถนนเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ เป็นบ้านพักและบริษัทรับเหมาของตระกูล “โชควิวัฒน์” หรือกำนันมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒน์ ส.ส.พลังประชาชน และบริเวณหลังบ้านก็เป็นของนักธุรกิจในเมืองและหมู่บ้านอินโดจีนวิวพอยท์

ที่ดินที่เป็นแปลงใหญ่ และพื้นที่ว่างเปล่า ที่มีการเปลี่ยนมือมากสุดอยู่ทางทิศตะวันตกของสี่แยกอินโดจีน หรือ ถนนมิตรภาพ(พิษณุโลก-หล่มสัก) ตั้งแต่ ต.อรัญญิก - สี่แยกอินโดจีน ซึ่งราคาที่ดินถือว่าใกล้เมืองและแพงที่สุดในย่านชานเมือง (นอกเหนือจากที่ดินย่านเอกาทศรถ ตลาดสดใจกลางเมือง) โดยราคาประเมินจากกรมที่ดิน ประกาศไว้เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2550 ตารางวาละ 20,000 บาท หรือ ไร่ละ 8,000,000 บาท ทำให้ตลอดทั้งสองฝั่งถนนจากในเมืองถึงสี่แยกอินโดจีนมีการเปลี่ยนมือทั้งที่ราคาสูง

เริ่มจากที่ดินแปลงใหญ่เนื้อที่ 28 ไร่ 2 งานเศษ ของ น.ส.ขวัญใจ เหมาะประสิทธิ์ นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและค้าวัสดุก่อสร้าง “กวางเต็กล้ง” และที่ดินด้านหน้าของคฤหาสน์ หลังใหญ่ เว้นด้านหน้าติดถนนจำนวน 7 ไร่ 2 งานเศษ เป็นของนางกาญจนา เอนกพงษ์ หรือ “นา-แอลแอนด์พีประดับยนต์”นักธุรกิจวงการยานยนต์และตระกูลค้าขายจำหน่ายรถยนต์

ถัดมาเป็นที่ดินดั้งเดิมในอดีตของตระกูล “นูนคาน”หรือ กำนันมัติ(อนุมัติ)ชาวมุสลิมเป็นผู้กว้างขวางแถบสี่แยกบ้านแขก ที่ครอบครองที่ดินยุค พ.ศ.2500 ก่อนตัดถนนพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ซึ่งต้นสายกำเนิดบริเวณสี่แยกบ้านแขกในเมืองพิษณุโลก ที่มีลูกหลานเชื้อสายอิสลาม-ปากีสถานจำนวนมาก จนเรียกว่าย่านสี่แยกบ้านแขกในปัจจุบัน แม้กำนันมัติ ได้เสียชีวิตไปนานแล้ว ปัจจุบันลูกหลานเป็นผู้ดูแล เนื้อที่กว่า 18ไร่ ถือว่า อยู่ติดกับที่ดินสาธารณะของกรมทางหลวงจำนวน 9 ไร่

ขณะที่อีกฝั่งของถนนพิษณุโลก-หล่มสัก ที่ดินแปลงใหญ่ประมาณ 40 ไร่ เดิมเป็นของนักธุรกิจร้านถ่ายรูปแห่งหนึ่งในเมืองพิษณุโลก ติดจำนองกับธนาคาร ไม่นานมานี้ได้ตัดสินใจขายให้แก่ พี่สาวของ “ราม รัตนวงศ์”อดีตส.จ.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทย ซื้อไปหลักร้อยล้านบาท และที่ดินชิดติดกัน คือ ที่ดินของ “เสี่ยไก่”อดีตประธานหอการค้า “นายสุวิทย์ หิรัญพฤกษ์” เนื้อที่ 49 ไร่ ซึ่งเดิมทีคาดว่าที่ 2 แปลงนี้ เตรียมขายให้แก่ห้างคาร์ฟูร์ แต่เรื่องกลับเงียบหายไป และเป็นที่มาของการขายให้แก่ทุนจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ก็เป็นเพียงแค่ข่าวเท่านั้น

ส่วนที่ดินถัดลงไปด้านทิศตะวันออก มีเพียงแปลงเล็ก แปลงน้อย ต่อเนื่องกระทั่งมาสุดบนเนื้อที่ 7 ไร่เศษของบริษัทรับเหมาเก่าแก่ของตระกูลโชควิวัฒน์ หรือ กำนันมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒน์

นายสุวิทย์ หิรัญพฤกษ์ ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ที่ดินแถบสี่แยกอินโดจีนมักอยู่ในมือของคนเมืองพิษณุโลก ที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือก็แค่ ซื้อไว้ดักรอเท่านั้น ใครไม่มีทุนหรือติดจำนองก็ปล่อยขายนักธุรกิจในแวดวง ซึ่งนักธุรกิจในพื้นที่คงไม่มีศักยภาพในการพัฒนาที่ดิน ลำพังราคาที่ดินก็สูงมากพอแล้ว เว้นแต่ร่วมหุ้นหรือขายให้คนนอกพื้นที่ก็มากพอแล้ว

นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒน์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า ที่ดินแถบสี่แยกอินโดจีนส่วนใหญ่ครอบครองโดยนักธุรกิจในเมือง ส่วน ส.ส.สุชน ชามพูนท อดีต ส.ส.หลายสมัย คิดว่า ไม่มีที่ดินในแถบนี้ เว้นแต่ตระกูล “รอบบรรเจิด” ที่มีที่ดินจำนวนมากอยู่ตอนใต้ของสี่แยกอินโดจีนไปหลายกิโลเมตร

ส่วนการพัฒนาที่ดินบริเวณสี่แยกของผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ก็ถือว่า เป็นเรื่องดี ที่ควรพัฒนากันไป แต่ต้องพิจารณาถึงที่ดินข้างๆ ควรเว้นไว้ เผื่อกรมทางหลวงจะทำสะพานต่างๆ แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีแผนหรือแนวทางพัฒนาใดๆ กับสี่แยกอินโดจีนก็ตาม แต่ต้องเตรียมไว้ไม่ว่าจะเป็น ทางลอด ทางยกระดับ ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นนับไม่ถ้วนบริเวณสี่แยกอินโดจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น