"สพรั่ง" ขู่ฟ้องคนปูดข่าวเรื่องการบริหารงานในฐานะประธานบอร์ดการท่าอากาศยานฯ และ ทีโอที ไม่โปร่งใส เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน นำไปให้องค์กรการกุศล
วานนี้ (4 ก.พ.) พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีการนำข้อมูลการบริหารงานไม่โปร่งใส ในการทำหน้าที่ประธานบอร์ดการท่าอากาศแห่งประเทศไทย และ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มาเปิดเผยทางสื่อมวลชนว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาโดยให้ฝ่ายกฎหมายของกรมพระธรรมนูญดูว่า เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายจะดำเนินการฟ้องร้องทันที โดยจะเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาทและเงินนี้จะนำไปให้การกุศลทั้งหมด
พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า การเสนอข่าวดังกล่าวมีลักษณะ เป็นการจับแพะชนแกะ ส่วนที่ มีการระบุว่าเมื่อตนเข้ามาบริหารงานทำให้ขาดทุนถึง 90 เปอร์เซ็นต์นั้น อยากบอกว่า สาเหตุที่กำไรลดลงเพราะอดีต ซึ่งเรากำลังประคองให้เข้มแข็ง แต่เขาพยายามจะบิดเบือนข่าวว่าเรามาทำ ทั้งที่ข้อเท็จจริงพนักงานเขารู้อยู่ ถ้าเราทำไม่ดีพนักงานคงจะทำให้เราได้รับผลกระทบ เพราะพนักงานเขารู้ว่า ใครคือคนที่ปกป้อง หรือใครไปทำเหตุชั่วไว้ก่อน หรือใครแอบผสมโรงปรารถนาลามก เขารู้หมด
เมื่อถามว่า ดูเหมือนการทำงานที่ผ่านมา 1 ปี 4 เดือน ปรากฎว่า ทุกอย่างที่ทำเกิดย้อนศรกลับมาหาตัวเอง พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ไม่ได้ย้อนศร กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ถ้าใครที่รักชาติบ้านเมืองจริงๆ คนที่รักผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง เขาย่อมตอบได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นก่อน และตนเข้ามาดูแลส่วนไหนที่ดี ส่วนไหนเป็นความผิดของใครชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่ข่าวสารนำมาประติดประต่อ เอาตามความเห็น ตามบัตรสนเท่ห์ หรือตามคนเลวบางคนมาให้ข่าว
"ผมไม่ได้เดือดร้อนในเรื่องที่เขียน แต่ผมสงสารประเทศชาติ ถ้าสังคมเราคนเลวสามารถใช้สื่อได้ และสื่อไม่ช่วยตรวจสอบน่าเป็นห่วง ลำพังผมไม่เดือดร้อน เพราะพันธมิตรฯ รักผมทั่วประเทศอยู่แล้ว"พล.อ.สพรั่ง กล่าว
เมื่อถามว่า ประเด็นที่โจมตีเป็นเพราะท่านไปขัดผลประโยชน์ พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า เอาอย่างนี้ จะว่าขัดหรือไม่ขัด สิ่งใดที่เป็นการกระทำที่ถูกต้อง ตนมีหน้าที่สนับสนุน สิ่งใดที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง ตนจะเข้าไปขัดขวาง ยับยั้ง และป้องกัน และห้ามปราม ซึ่งมีหลักการชัดเจนอยู่แล้ว
"คนที่จะเดือดร้อนคือคนที่เขากำลังคิดว่า ผมไปทำชั่วในนั้น เขาจะต้องสู้ผมอยู่แล้ว แล้วทำไมผมถึงไม่กลัวคนเหล่านั้น ก็เพราะว่าผมไม่ได้ทำ ทั้งนี้ผมไม่กลัวคนจะเกิดความเข้าใจผิด เพราะพันธมิตรฯ เข้าใจดี คือกลุ่มคนดีเรียบร้อย"พล.อ.สพรั่ง กล่าว
เมื่อถามว่า มีหลายคนพูดถึงการลงนามใช้เครือข่ายร่วม เหมือนเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ เอไอเอส ลงทุนในระบบ 3 จี พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ไม่จริงๆ ให้ไปถาม ทีโอที ดีกว่า เพราะว่าสังคมจะได้รู้ว่าพนักงานในองค์นั้นเขาก็รักองค์กรอยู่แล้ว ถ้าตนคิดไม่ได้แล้วจะเหลือหรือไม่ ซึ่งจะต้องชัดเจนอยู่แล้ว คนที่ลงข่าว เอาความดีใส่ตัว เอาความชั่วใส่คนอื่น คนอย่างนี้สังคมยังต้อนรับอีกหรือ เขารู้ว่าเป็นใคร ตนจะไม่ทำตัวตกหลุมพรางเด็ดขาด
เมื่อถามว่า เห็นบอกว่าได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองแล้ว พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า "ผู้ใหญ่ที่รักผม เขาก็เข้าใจ แค่บอกความจริง เขาก็รับไม่ได้ต่อสิ่งที่ถูกใส่ร้าย ผมบอกหมดเลยว่าเป็นใคร สื่อมวลชนไปเจาะเอาเองก็แล้วกัน ว่าเป็นใคร ผมบอกกับผู้ใหญ่เหล่านั้นไปแล้วว่า เป็นใครบ้าง ผมไม่เคยอ้ำอึ่งผ่านสื่อ" พล.อ.สพรั่ง กล่าว
วานนี้ (4 ก.พ.) พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีการนำข้อมูลการบริหารงานไม่โปร่งใส ในการทำหน้าที่ประธานบอร์ดการท่าอากาศแห่งประเทศไทย และ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มาเปิดเผยทางสื่อมวลชนว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาโดยให้ฝ่ายกฎหมายของกรมพระธรรมนูญดูว่า เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายจะดำเนินการฟ้องร้องทันที โดยจะเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาทและเงินนี้จะนำไปให้การกุศลทั้งหมด
พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า การเสนอข่าวดังกล่าวมีลักษณะ เป็นการจับแพะชนแกะ ส่วนที่ มีการระบุว่าเมื่อตนเข้ามาบริหารงานทำให้ขาดทุนถึง 90 เปอร์เซ็นต์นั้น อยากบอกว่า สาเหตุที่กำไรลดลงเพราะอดีต ซึ่งเรากำลังประคองให้เข้มแข็ง แต่เขาพยายามจะบิดเบือนข่าวว่าเรามาทำ ทั้งที่ข้อเท็จจริงพนักงานเขารู้อยู่ ถ้าเราทำไม่ดีพนักงานคงจะทำให้เราได้รับผลกระทบ เพราะพนักงานเขารู้ว่า ใครคือคนที่ปกป้อง หรือใครไปทำเหตุชั่วไว้ก่อน หรือใครแอบผสมโรงปรารถนาลามก เขารู้หมด
เมื่อถามว่า ดูเหมือนการทำงานที่ผ่านมา 1 ปี 4 เดือน ปรากฎว่า ทุกอย่างที่ทำเกิดย้อนศรกลับมาหาตัวเอง พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ไม่ได้ย้อนศร กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ถ้าใครที่รักชาติบ้านเมืองจริงๆ คนที่รักผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง เขาย่อมตอบได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นก่อน และตนเข้ามาดูแลส่วนไหนที่ดี ส่วนไหนเป็นความผิดของใครชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่ข่าวสารนำมาประติดประต่อ เอาตามความเห็น ตามบัตรสนเท่ห์ หรือตามคนเลวบางคนมาให้ข่าว
"ผมไม่ได้เดือดร้อนในเรื่องที่เขียน แต่ผมสงสารประเทศชาติ ถ้าสังคมเราคนเลวสามารถใช้สื่อได้ และสื่อไม่ช่วยตรวจสอบน่าเป็นห่วง ลำพังผมไม่เดือดร้อน เพราะพันธมิตรฯ รักผมทั่วประเทศอยู่แล้ว"พล.อ.สพรั่ง กล่าว
เมื่อถามว่า ประเด็นที่โจมตีเป็นเพราะท่านไปขัดผลประโยชน์ พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า เอาอย่างนี้ จะว่าขัดหรือไม่ขัด สิ่งใดที่เป็นการกระทำที่ถูกต้อง ตนมีหน้าที่สนับสนุน สิ่งใดที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง ตนจะเข้าไปขัดขวาง ยับยั้ง และป้องกัน และห้ามปราม ซึ่งมีหลักการชัดเจนอยู่แล้ว
"คนที่จะเดือดร้อนคือคนที่เขากำลังคิดว่า ผมไปทำชั่วในนั้น เขาจะต้องสู้ผมอยู่แล้ว แล้วทำไมผมถึงไม่กลัวคนเหล่านั้น ก็เพราะว่าผมไม่ได้ทำ ทั้งนี้ผมไม่กลัวคนจะเกิดความเข้าใจผิด เพราะพันธมิตรฯ เข้าใจดี คือกลุ่มคนดีเรียบร้อย"พล.อ.สพรั่ง กล่าว
เมื่อถามว่า มีหลายคนพูดถึงการลงนามใช้เครือข่ายร่วม เหมือนเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ เอไอเอส ลงทุนในระบบ 3 จี พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ไม่จริงๆ ให้ไปถาม ทีโอที ดีกว่า เพราะว่าสังคมจะได้รู้ว่าพนักงานในองค์นั้นเขาก็รักองค์กรอยู่แล้ว ถ้าตนคิดไม่ได้แล้วจะเหลือหรือไม่ ซึ่งจะต้องชัดเจนอยู่แล้ว คนที่ลงข่าว เอาความดีใส่ตัว เอาความชั่วใส่คนอื่น คนอย่างนี้สังคมยังต้อนรับอีกหรือ เขารู้ว่าเป็นใคร ตนจะไม่ทำตัวตกหลุมพรางเด็ดขาด
เมื่อถามว่า เห็นบอกว่าได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองแล้ว พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า "ผู้ใหญ่ที่รักผม เขาก็เข้าใจ แค่บอกความจริง เขาก็รับไม่ได้ต่อสิ่งที่ถูกใส่ร้าย ผมบอกหมดเลยว่าเป็นใคร สื่อมวลชนไปเจาะเอาเองก็แล้วกัน ว่าเป็นใคร ผมบอกกับผู้ใหญ่เหล่านั้นไปแล้วว่า เป็นใครบ้าง ผมไม่เคยอ้ำอึ่งผ่านสื่อ" พล.อ.สพรั่ง กล่าว
