ห้องสมุดแห่งหนึ่งในเมืองผู้ดีเตรียมจัดนิทรรศการไม่ธรรมดา เพราะภาพทั้งหมดที่จะนำมาโชว์ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือการถ่ายภาพของช่างภาพสมัครเล่นผู้พิการทางสายตา
อลิสัน บาร์ตเลตต์ วัย 51 ปี ‘เห็น’ ด้วยหู และอาศัยเสียงใบไม้ใบหญ้าไหว หรือกระทั่งเสียงนกขยับปีก เพื่อกดชัตเตอร์เก็บภาพชีวิตสัตว์ นอกจากนั้น ช่างภาพตาพิการผู้นี้ยังมีเพื่อนคอยบอกทิศทางของวัตถุเป้าหมาย
อลิสัน อดีตครูฝึกสอนขี่ม้า เริ่มสูญเสียความสามารถในการมองเห็นในปี 1979 จากโรคเบาหวานและตาบอดสนิทในปี 1992 แต่เธอยังหลงเสน่ห์ในการถ่ายภาพและชีวิตพงไพร จึงพยายามถ่ายภาพสัตว์ที่เธอไม่อาจมองเห็น
ตากล้องสมัครเล่นเล่าว่า ได้กล้องตัวแรกเมื่ออายุ 12 ปี และตกหลุมรักการถ่ายภาพทันทีเพราะปกติก็มีใจรักศิลปะอยู่แล้ว
“หลังจากนั้นฉันไปอบรมเป็นครูฝึกขี่ม้าและทำอาชีพนั้นได้สามปีจนกระทั่งเริ่มมองไม่เห็น ฉันรักการถ่ายภาพและรักสัตว์ ฉันถ่ายรูปสัตว์เก็บไว้แม้เมื่อมองไม่เห็นแล้วก็ตาม
“ฉันเริ่มสูญเสียการมองเห็นเมื่อปี 1979 และตาบอดสนิทในอีกสามปีต่อมา ถึงจะตาบอด แต่ฉันตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำสิ่งที่เคยทำ แม้กระทั่งการถ่ายภาพ
“ฉันเริ่มต้นจากในสวนหลังบ้าน เพราะจำได้ขึ้นใจว่าอะไรอยู่ตรงไหน ระยะห่างเท่าไหร่ ฉันยังหัดฟังเสียงสัตว์รอบตัว
“ฉันได้ยินเสียงนกกระพือปีก ฉันคอยฟังเสียงกระรอกสองตัวที่อยู่ในสวนกินอาหารและหยอกล้อกัน”
นอกจากนั้น เอลิสันยังออกไปท่องเที่ยวในชนบทใกล้เคียงกับเจนนี กิลล์แลนด์ เพื่อนช่างภาพที่คอยช่วยเหลือใกล้ๆ
“เจนนีจะบอกว่าสัตว์อยู่ตรงไหน เช่น ตอนนี้มีนกอยู่ที่สองนาฬิกา และบอกระยะห่างคร่าวๆ ให้ฉันโฟกัสและถ่ายภาพ”
เอลิสันบอกว่าเธอไม่คิดท้อถอย
“แน่นอนฉันคงต้องวานให้คนอื่นบอกว่าภาพของฉันสวยหรือไม่ และมันทำร้ายจิตใจอย่างมากที่ฉันไม่มีโอกาสเห็นด้วยตาตัวเอง แต่ความสุขที่มอบให้ผู้อื่นจากภาพคือรางวัลที่มีค่าเพียงพอแล้วสำหรับฉัน และฉันดีใจที่ถ่ายภาพเก็บไว้มากพอที่จะนำมาจัดนิทรรศการเล็กๆ
“เพราะนั่นจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนตาบอดอื่นๆ มุ่งมั่นทำงานอดิเรกที่ใจรักต่อไปและเห็นค่าของสิ่งนั้น”
ทั้งนี้ ตากล้องสมัครเล่นผู้พิการใช้กล้องนิคอน ดี-40 ส่วนนิทรรศการของเธอจะจัดขึ้นที่ห้องสมุดในเมืองนิวมิลตัน นิวแฮมป์เชียร์ ประเทศอังกฤษ เดือนหน้า
อลิสัน บาร์ตเลตต์ วัย 51 ปี ‘เห็น’ ด้วยหู และอาศัยเสียงใบไม้ใบหญ้าไหว หรือกระทั่งเสียงนกขยับปีก เพื่อกดชัตเตอร์เก็บภาพชีวิตสัตว์ นอกจากนั้น ช่างภาพตาพิการผู้นี้ยังมีเพื่อนคอยบอกทิศทางของวัตถุเป้าหมาย
อลิสัน อดีตครูฝึกสอนขี่ม้า เริ่มสูญเสียความสามารถในการมองเห็นในปี 1979 จากโรคเบาหวานและตาบอดสนิทในปี 1992 แต่เธอยังหลงเสน่ห์ในการถ่ายภาพและชีวิตพงไพร จึงพยายามถ่ายภาพสัตว์ที่เธอไม่อาจมองเห็น
ตากล้องสมัครเล่นเล่าว่า ได้กล้องตัวแรกเมื่ออายุ 12 ปี และตกหลุมรักการถ่ายภาพทันทีเพราะปกติก็มีใจรักศิลปะอยู่แล้ว
“หลังจากนั้นฉันไปอบรมเป็นครูฝึกขี่ม้าและทำอาชีพนั้นได้สามปีจนกระทั่งเริ่มมองไม่เห็น ฉันรักการถ่ายภาพและรักสัตว์ ฉันถ่ายรูปสัตว์เก็บไว้แม้เมื่อมองไม่เห็นแล้วก็ตาม
“ฉันเริ่มสูญเสียการมองเห็นเมื่อปี 1979 และตาบอดสนิทในอีกสามปีต่อมา ถึงจะตาบอด แต่ฉันตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำสิ่งที่เคยทำ แม้กระทั่งการถ่ายภาพ
“ฉันเริ่มต้นจากในสวนหลังบ้าน เพราะจำได้ขึ้นใจว่าอะไรอยู่ตรงไหน ระยะห่างเท่าไหร่ ฉันยังหัดฟังเสียงสัตว์รอบตัว
“ฉันได้ยินเสียงนกกระพือปีก ฉันคอยฟังเสียงกระรอกสองตัวที่อยู่ในสวนกินอาหารและหยอกล้อกัน”
นอกจากนั้น เอลิสันยังออกไปท่องเที่ยวในชนบทใกล้เคียงกับเจนนี กิลล์แลนด์ เพื่อนช่างภาพที่คอยช่วยเหลือใกล้ๆ
“เจนนีจะบอกว่าสัตว์อยู่ตรงไหน เช่น ตอนนี้มีนกอยู่ที่สองนาฬิกา และบอกระยะห่างคร่าวๆ ให้ฉันโฟกัสและถ่ายภาพ”
เอลิสันบอกว่าเธอไม่คิดท้อถอย
“แน่นอนฉันคงต้องวานให้คนอื่นบอกว่าภาพของฉันสวยหรือไม่ และมันทำร้ายจิตใจอย่างมากที่ฉันไม่มีโอกาสเห็นด้วยตาตัวเอง แต่ความสุขที่มอบให้ผู้อื่นจากภาพคือรางวัลที่มีค่าเพียงพอแล้วสำหรับฉัน และฉันดีใจที่ถ่ายภาพเก็บไว้มากพอที่จะนำมาจัดนิทรรศการเล็กๆ
“เพราะนั่นจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนตาบอดอื่นๆ มุ่งมั่นทำงานอดิเรกที่ใจรักต่อไปและเห็นค่าของสิ่งนั้น”
ทั้งนี้ ตากล้องสมัครเล่นผู้พิการใช้กล้องนิคอน ดี-40 ส่วนนิทรรศการของเธอจะจัดขึ้นที่ห้องสมุดในเมืองนิวมิลตัน นิวแฮมป์เชียร์ ประเทศอังกฤษ เดือนหน้า