ผู้จัดการรายวัน - กระทรวงการคลังตัดสินใจแจ้งความ สน.บางซื่อให้ดำเนินการกับแกนนำกลุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจ "ร.ส.พ.-อ.ฟ.น.-อ.บ.ต.หลังปักหลักชุมนุมประท้วงบริเวณภายในกระทรวงการคลัง ตั้งแต่ พ.ย.ปีที่แล้ว
นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้แจ้งความกับสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อกับแกนนำกลุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจ ประกอบด้วย กลุ่มอดีตพนักงานองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) องค์การฟอกหนัง (อ.ฟ.น.) องค์การแบตเตอรี่ (อ.บ.ต.) และอื่นๆ ที่เข้ามาปักหลักชุมนุมประท้วงอยู่ภายในกระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นมา เพื่อเรียกร้องให้ฟื้นฟู ร.ส.พ. และให้พนักงานของ อ.ฟ.น. และ อ.บ.ต.ที่จะถูกโอนย้ายไปยังกระทรวงกลาโหมได้เงินเดือนเท่าเดิม ในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ ลักทรัพย์โดยการโขมยน้ำประปา-ไฟฟ้าใช้ โดยได้ประสานงานกับตัวแทนกล่มผู้ชุมนุมให้ออกจากเขตของกระทรวงการคลังภายในวันที่ 24 มกราคมนี้ มิเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฏหมาย
"ที่ผ่านมากระทรวงการคลังพยายามประนีประนอมที่สุดแล้ว โดยได้ประสานและติดตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผุ้ชุมนุม จนเสนอให้ ครม.พิจารณาจ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานในอัตรา 16 เดือนสำหรับพนักงานเกษียณ และไม่ได้เข้าทำงานต่อ และ 12 เดือนสำหรับกลุ่มคนที่จะโอนย้ายเข้าไปยังกระทรวงกลาโหม ซึ่งเงินจะได้รับในสิ้นเดือนมกราคมนี้ ซึ่งถือว่ากระทรวงการคลังได้ทำหน้าที่ตามอำนาจที่มีอยู่แล้ว ส่วนขอ้เรียกร้องอื่นนั้นคงต้องขึ้นกับอำนาจคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และกระทรวงต้นสังกัดของรัฐวิสาหกิจจะพิจารณา ดังนั้นกล่มผู้ชุมนุมต้องออกจากกระทรวงการคลังตามเวลาที่กระทรวงกำหนด"
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการยโบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ารัฐวิสาหกิจทั้ง 3 แห่งนั้นมีปัญหาการขาดดทุนสะสมที่ต่อเนื่องมาตลอด ดังนั้นต้องนำไปสู่การฟื้นฟู ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงเจ้าสังกัด และ กระทรวงการคลังในการหาทางแก้ไข และบางเรื่องก็สรุปไปในชั้นของ ครม.แล้ว ดังนั้นการที่กลุ่มผุ้ชุมนุมจะปักหลักเรียกร้องที่กระทรวงการคลังจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่นั้นคงไม่เป็นการเหมาะสม.
นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้แจ้งความกับสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อกับแกนนำกลุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจ ประกอบด้วย กลุ่มอดีตพนักงานองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) องค์การฟอกหนัง (อ.ฟ.น.) องค์การแบตเตอรี่ (อ.บ.ต.) และอื่นๆ ที่เข้ามาปักหลักชุมนุมประท้วงอยู่ภายในกระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นมา เพื่อเรียกร้องให้ฟื้นฟู ร.ส.พ. และให้พนักงานของ อ.ฟ.น. และ อ.บ.ต.ที่จะถูกโอนย้ายไปยังกระทรวงกลาโหมได้เงินเดือนเท่าเดิม ในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ ลักทรัพย์โดยการโขมยน้ำประปา-ไฟฟ้าใช้ โดยได้ประสานงานกับตัวแทนกล่มผู้ชุมนุมให้ออกจากเขตของกระทรวงการคลังภายในวันที่ 24 มกราคมนี้ มิเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฏหมาย
"ที่ผ่านมากระทรวงการคลังพยายามประนีประนอมที่สุดแล้ว โดยได้ประสานและติดตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผุ้ชุมนุม จนเสนอให้ ครม.พิจารณาจ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานในอัตรา 16 เดือนสำหรับพนักงานเกษียณ และไม่ได้เข้าทำงานต่อ และ 12 เดือนสำหรับกลุ่มคนที่จะโอนย้ายเข้าไปยังกระทรวงกลาโหม ซึ่งเงินจะได้รับในสิ้นเดือนมกราคมนี้ ซึ่งถือว่ากระทรวงการคลังได้ทำหน้าที่ตามอำนาจที่มีอยู่แล้ว ส่วนขอ้เรียกร้องอื่นนั้นคงต้องขึ้นกับอำนาจคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และกระทรวงต้นสังกัดของรัฐวิสาหกิจจะพิจารณา ดังนั้นกล่มผู้ชุมนุมต้องออกจากกระทรวงการคลังตามเวลาที่กระทรวงกำหนด"
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการยโบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ารัฐวิสาหกิจทั้ง 3 แห่งนั้นมีปัญหาการขาดดทุนสะสมที่ต่อเนื่องมาตลอด ดังนั้นต้องนำไปสู่การฟื้นฟู ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงเจ้าสังกัด และ กระทรวงการคลังในการหาทางแก้ไข และบางเรื่องก็สรุปไปในชั้นของ ครม.แล้ว ดังนั้นการที่กลุ่มผุ้ชุมนุมจะปักหลักเรียกร้องที่กระทรวงการคลังจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่นั้นคงไม่เป็นการเหมาะสม.
