xs
xsm
sm
md
lg

บึ้มยะลาเจ็บอื้อ เลื่อน 9 ชั้นยศ 8 ทหารพลีชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โจรใต้เหิมไม่หยุด ลอบวางระเบิดกลางเมืองในเขตเทศบาลนครยะลา ผู้บริสุทธิ์ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่บาดเจ็บ 39 คนในจำนวนนี้สาหัส 6 คน "ผบก.ยะลา" เต้นสั่งปรับแผน รปภ.ใหม่เน้นให้เข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม "นราธิวาส" ทำพิธีลำเลียงศพ 8 ทหารกล้าพลีชีพไฟใต้กลับภูมิลำเนาอย่างสมเกียรติ พร้อมปูนบำเหน็จเลื่อนขั้น 9 ชั้นยศ ขณะที่ชาวกาญจนบุรีกว่า 5 พันคน ร่วมต้อนรับและรดน้ำศพ พร้อมประณามโจรใต้

สถานการณ์ความไม่สงบภาคใต้ยังรุนแรงและน่าห่วง โดยเวลา 06.40 น.วานนี้ (15 ม.ค.) ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณถนนผังเมือง 4 ปากซอย 11 เขตเทศบาลนครยะลา ส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และมูลนิธิกู้ภัย ได้ระดมกำลังเข้าตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุ และนำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา พร้อมสั่งปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นอีก

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่พบว่า จุดที่เกิดเหตุระเบิดนั้นอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 447 ถนนผังเมือง 4 เขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าได้ตั้งแผงขายข้าวแกงและอาหารบริเวณหน้าบ้านเลขที่ดังกล่าวและร้านติดกันเลขที่ 449 ได้เปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์

เบื้องต้นพบว่า คนร้ายได้นำระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุอยู่ในกล่องเหล็กแล้วจุดชนวนด้วยรีโมทคอนโทรลมาวางไว้ในหน้าตะกร้ารถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน กนษ 232 ที่หน้าบ้านเลขที่ 447 จากนั้นได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นทำให้ประชาชนที่กำลังจับจ่ายซื้ออาหารเช้าและพ่อค้าแม่ค้าบริเวณที่เกิดเหตุได้รับบาดเจ็บรวม 39 คน ซึ่งมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 6 คน คือ นายสุวิทย์ อนุกูล, นางวัชราภรณ์ รังสีมันท์กุล, นางสาวสุกัญญา กาลัญกุล, นายสน ขวัญชู, นายธนู อัมพรพงศ์ และนายธนวัฒน์ แก้วออด โดยทั้งหมดถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณลำตัว บริเวณแขน และขา ที่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้

พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันที่คนร้ายใช้ซุกซ่อนวัตถุระเบิดนั้นพบว่า เจ้าของรถได้แจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองยะลา เมื่อวันที่ 13 ม.ค.51 โดยถูกขโมยที่บริเวณตลาดนัดเสื้อผ้ามือสอง บ้านบุดี อ.เมืองยะลา

"หากการประเมินสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ขณะนี้จะเห็นได้ว่ากลุ่มคนร้ายได้มีการนำวัตถุระเบิดไปวางไว้ในตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์เพื่อนำไปก่อเหตุมากขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในครั้งนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับการก่อเหตุที่ร้านอาหารพี่แดงเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.50 แต่ขณะนี้ผมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเพิ่มมาตรการเข้มในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ โดยเฉพาะตั้งด่านตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่เดินทางเข้า-ออกเขตเทศบาลนครยะลา และพื้นที่ล่อแหลมที่เสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนร้าย"

ที่ จ.นราธิวาสเวลา 10.00 น.นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พล.ต.จำลอง คุณสงค์ รอง ผบ.กองกำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร และ พล.ต.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้ร่วมเป็นประธานในพิธีส่งศพ 8 ทหารกล้าชุดรักษาความปลอดภัยครูสังกัดร้อย ร.2923 ฉก.นราธิวาสที่ 34 กลับภูมิลำเนาที่ จ.กาญจนบุรี

โดยศพทหารกล้าทั้ง 8 นาย ประกอบด้วย ร.ต.อานนท์ บุญทัน หัวหน้าชุด, จ.ส.อ.สมจิตร ทิวพุ่มพฤกษ์, จ.ส.อ.พงศักดิ์ จันมาลา, จ.ส.อ.บุญธรรม นิลสนธิ, ส.ท.วัชระ รัตโนทัย, ส.ต.ประชุม ขอปะกลางชัย, พลทหารสมปอง กมลช่วง และพลทหารสุทิศ ปานมาก โดยทหารทั้งหมดถูกกลุ่มคนร้ายลอบโจมตีจนเสียชีวิตที่บริเวณบ้านรือเปาะ ม.4 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงสายวันที่ 14 ม.ค.ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่

ในพิธีส่งศพมีการจัดขึ้นอย่างสมเกียรติมีตัวแทนของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี รวมทั้งตัวแทนของ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม และผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วมวางพวงหรีดหน้าหีบศพ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่กองกำลังผสมตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ประชาชนและผู้นำศาสนากว่า 500 คนเข้าร่วมพิธีด้วยความเศร้าโศก

ศพทหารกล้าทั้ง 8 นายถูกส่งขึ้นเครื่องบิน ซี 130 ของกองทัพอากาศมุ่งหน้าสู่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อทำพิธีรดน้ำศพที่วัดทุ่งลาดหญ้า ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี ในเวลา 17.00 น.ของวันเดียวกันก่อนที่จะทยอยศพทหารทั้ง 8 นายไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนาของแต่ละนายต่อไป

ทางด้านบรรยากาศการรดน้ำศพ 8 ทหารกล้าสังกัดกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ (พล.ร.9) ซึ่งจัดขึ้นที่ศาลาธรรมสังเวช วัดทุ่งลาดหญ้า ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี ตั้งแต่เวลา 14.00 น.กลุ่มพลังมวลชนทั้งข้าราชการจากส่วนต่างๆ ทั้งตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มอาสาสมัคร กลุ่มแม่บ้านกองพลทหารราบที่ 9 และกองพันต่างๆ ตลอดจนชาวบ้านที่ทราบข่าวกว่า 5,000 คนต่างเดินทางมาที่วัดทุ่งลาดหญ้า เพื่อรอรับศพและร่วมพิธีรดน้ำศพในเวลา 17.00 น.และสวดพระอภิธรรมในเวลา 18.30 น.

โดยชาวบ้านมีการตั้งแถวและนำป่ายผ้าที่เขียนข้อความสดุดีวีรกรรมความกล้าหาญของทหารทั้ง 8 นาย รวมถึงมีข้อความประณามการใช้ความรุนแรงและผู้ก่อเหตุร้ายแรงในครั้งนี้อีกด้วย โดยการตั้งแถวรอรับขบวนลำเลียงศพตั้งเป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตรจากบริเวณทางแยกเข้าหน้าวัดทุ่งลาดหญ้า ไปจนถึงศาลาธรรมสังเวช

พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) แถลงกรณีการเสียชีวิตของทหารทั้ง 8 นายว่า ถือเป็นการสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่ เป็นการเสียสละในการปฏิบัติงานขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยครู ซึ่งการเคลื่อนย้ายเป็นไปตามหลักการทางยุทธวิธี แต่พื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ยากลำบากในการดูแล เพราะเป็นเส้นทางโค้ง ซึ่งแผนงานที่ พ.ท.กานท์นาท นิกรยานนท์ ผบ.ฉก.34 ปฏิบัติตามภารกิจและสลับเปลี่ยนหมุนเวียนลาดตระเวนตลอด แต่คนจ้องกับคนที่จะถูกโจมตี ถือว่าค่อนข้างที่จะระวังได้ยาก ส่วนกรณีที่สื่อลงข่าวมีการตัดคอเจ้าหน้าที่ขณะนี้ไม่เห็นภาพมีเพียงการคาดเดากันเท่านั้น

"เหตุระเบิดครั้งนี้ถือเป็นอำนาจของระเบิดที่ทำลายอวัยวะให้ฉีกขาด เพราะระเบิดมีน้ำหนักถึง 25 กิโลกรัม พอถึงจุดเกิดเหตุกลุ่มโจรทมิฬก็กดระเบิดขึ้น ทำให้รถเสียการทรงตัว หลังจากนั้นก็เกิดยิงปะทะกันแบบปะปลาย ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่เพี้ยงพล้ำ สำหรับอาวุธปืนและกระสุนที่ถูกยึดไปได้ประกอบด้วยปืนเล็กยาว 16 (เอ็ม 16) 8 กระบอก ปืนพกขนาด 11 มม.1 กระบอก ส่วนที่สงสัยว่าปืนกลเอ็ม 60 ติดกับรถที่คนทำไมถึงถอดออกมาได้ เพราะถูกแรงระเบิดทำให้ปืนกลเอ็ม 60 หัก คนร้ายก็นำติดมือไปด้วย"

พ.อ.ธนาธิป กล่าวต่อว่า สำหรับการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่มี 2 แนวทางคือ 1.กอ.รมน.จะใช้เงินทดแทน ชดเชย ตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วน ทบ.จะใช้ระเบียบของกระทรวงกลาโหม โดยจะปูนบำเหน็จทั้งหมด 9 ขั้นให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกนาย และเงินรวบรวมทั้งหมดทั้งเงินบำเหน็จ เงินเดือนค้างจ่าย เงินประกัน

โดยนายทหารกับจ่าสิบเอก จะได้คนละประมาณ 2 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนสิบเอกและพลทหารได้คนละประมาณ 1 ล้านบาทเศษ สำหรับเครื่องราชย์แต่ละคนจะได้สูงกว่าปกติ 2 เท่า คือ ร.ต.อานนท์ บุญธรรม ได้เครื่องราชย์ชั้นยศฏิตาภรณ์มงกุฎไทย ส่วนจ่าสิบเอกได้เครื่องราชย์ชั้นยศ เบญจมาภรณ์ช้างเผือก ส่วนสิบเอกกับพลทหารได้เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

สำหรับการเลื่อนชั้นยศ ร.ต.อานนท์ เลื่อนชั้นยศเป็นพันตรี (เนื่องจากอายุราชการได้เพียงปีเศษ) จ.ส.อ.สมจิตร ทิวพุ่มพฤกษ์ เลื่อนชั้นยศเป็นพลตรี (เนื่องจากอายุการรับราชการมาก) จ.ส.อ.บุญธรรม นิลสนธิ เลื่อนชั้นยศเป็นพันเอก จ.ส.อ.พงษ์ศักดิ์ จันทร์มาลา เลื่อนชั้นยศเป็นพันโท ส.ท.วัชระ วัตตโนทัย เลื่อนชั้นยศเป็นร้อยเอก ส.ต.ประชุม ขอประกลาง เลื่อนชั้นยศเป็นร้อยโท พลฯสมปอง กมลห่วง เลื่อนชั้นยศเป็นร้อยตรี และพลฯสุพิศ ปานมาตร์ เลื่อนชั้นยศเป็นร้อยตรี

"สาเหตุที่เกิดขึ้นมี 3 ประการ คือ 1.เพราะกลุ่มก่อความไม่สงบพยายามสร้างสถานการณ์ว่าตัวตนยังมีอยู่ 2.ยังคงสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน และ 3.ทำให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการอยู่ และรีบหาตัวมาลงโทษให้เร็วที่สุด ขอประณามการกระทำครั้งนี้ ถือเป็นแบบอย่างที่เลวทรามต่ำช้า เพราะเจ้าหน้าที่พยายามสร้างแนวทางให้เกิดความสันติ สันติสุขให้เกิดในพื้นที่ แต่มีกลุ่มโจรทมิฬ มาทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง ทั้งนี้ เราจะใช้ต้องกำลังประชาชนมากกว่านี้ จัดตั้งชุมนุมให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะพื้นที่ล่อแหลม ต่อไปนี้ให้ประชาชนเข้ามาช่วยเหลือมากที่สุด"
กำลังโหลดความคิดเห็น