"อภิสิทธิ์"ไม่ติดใจ"พจมาน"ดอด พบ ผบ.ทบ. เชื่อไม่มีอะไรในก่อไผ่ หากผู้ใหญ่ยึดถือตามกระบวนการยุติธรรม จี้ กกต.คุ้มครองพยานปากเอก หวั่นถูกคุกคาม เตรียมพบ"บรรหาร" เพื่อถามการตัดสินใจทางการเมืองจะเอายังไงแน่ ด้าน"ชวน" จวก พปช. ถนัดเกมใต้ดิน จึงอยกให้กำลังใจ กกต. ให้ทำงานด้วยความเข้มแข็ง ครป. เบรกอำนาจเก่า-อำนาจใหม่ สมานฉันท์ โดยละเลยกระบวนการยุติธรรม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าว คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกว่า ตนเข้าใจว่า ผบ.ทบ. เน้นให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ในเรื่องนี้คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ให้ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง ถือเป็นวิธีการสมานฉันท์มากที่สุด
เมื่อถามว่า ภาพที่คุณหญิงพจมาณ เข้าพบผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจว่าจะมีกระบวนการแทรกแซงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับกลไกยุติธรรม ทำงานตามปกติ ก็คงไม่เป็นอะไร
ส่วนการพูดคุยกับพรรคชาติไทย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะดูเวลาที่เหมาะสม โดยจะพูดคุยในฐานะที่เคยทำงานร่วมกันมาว่ามองอนาคตบ้านเมืองอย่างไร ซึ่งจะได้ประโยชน์คือการได้รู้ความคิดซึ่งกันและกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการล็อบบี้ให้พรรคชาติไทยมาร่วมรัฐบาล ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์จะทำเช่นนั้นคงจะดำเนินการนานแล้ว เมื่อถามว่า หาพบกันจะทำให้มองหน้ากันติดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหาอะไรที่จะเข้าหน้าไม่ติด
"ขณะนี้ไม่ได้ประสานงานกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคพลังประชาชน แต่จะรอดูจุดยืนของพรรคการเมืองต่างๆ ในวันที่ 17 ม.ค. อีกครั้ง และหลังจากนี้จะพูดคุยกับพรรคชาติไทย ที่เคยเป็นพันธมิตรเพื่อสอบถามจุดยืนทางการเมือง แต่ไม่ได้มุ่งหวังเพื่อตั้งรัฐบาลแข่งกัน"
เมื่อถามถึงจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี จากนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องภายในของพรรคพลังประชาชน ถึงเวลาก็ไปว่ากันต่อในสภา ตนขอไม่วิจารณ์ อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้พรรคพลังประชาชนจะตัดสินใจอย่างไรก็ต้องมีคำอธิบาย เมื่อถามถึงแนวคิดรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ไม่มีการเสนอเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งนี้ คิดว่าถ้าทำงานตามระบอบปกติก็จะใช้ได้ แต่จะต้องฟังเหตุผลว่าใครเสนอะไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เรียกร้องให้ กกต.เปิดสำนวนใบเลืองใบแดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สามารถทำได้ แต่ต้องมีการคุ้มครองพยานด้วย ไม่เช่นนั้นพยานจะถูกข่มขู่กดดัน ส่วนจะมีการดำเนินการพิจารณาถึงขั้นยุบพรรคพลังประชาชน หรือไม่นั้น ตนเห็นว่าจะต้องมีการพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งกระบาวนการพิจารณาดังกล่าว อยู่ในอำนาจหน้าที่ของศาล
** "ชวน"จวกพปช.ถนัดเกมใต้ดิน
นายชวน หลีกภัย ประธานกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ไปหากมีบางพรรคอาจถูกยุบพรรคอย่าง เช่น พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ว่า ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง กฎหมายบ้านเมือง จะต้องมีผลบังคับ มีไม่น้อยที่นักการเมืองฝ่าฝืน เสี่ยงทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะรู้สึกว่าสามารถหลีกเลี่ยงกฎหมายบ้านเมืองได้ จึงกระทำในสิ่งเหล่านั้น ดังนั้นตนจึงหวังว่าบ้านเมืองจะอยู่ในกรอบกฎหมาย องค์กรก็ต้องสามารถตรวจสอบและรักษาความถูกต้องได้
ทั้งนี้ ตนอยากให้กำลังใจ กกต. เพราะบ้านเมืองมีวิกฤตเกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็มาจากระบบการเมืองที่เลวร้ายที่เกิดจากการทุจริตซื้อเสียง ซึ่งอยากให้เจ้าหน้าที่ กกต.ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องหวาดกลัวอะไร เพราะหากรักษากฎเกณฑ์เอาไว้ได้จะทำให้บ้านเมืองนี้อยู่บนความมั่นคงและชอบธรรม แต่อย่างไรก็ตามหากพรรคการเมืองเขาไม่ผิด ก็อย่าไปทำอะไรที่เกินกว่าขอบเขตของความเป็นจริง แต่หากพบว่าผิดก็ต้องดำเนินไปตามกฎหมาย โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้บ้านเมืองกลับมาสู่สภาวะปกติ แต่หากยังมีการละเมิดกฎเกณฑ์ ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่สภาวะปกติอย่างที่เราต้องการ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การยุบพรรคจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะนำไปสู่ความวุ่นวายหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะมีอะไร ใครทำผิดต้องว่าไปตามผิด ถ้าผิดถึงขั้นยุบพรรค ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย เหมือนกรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคในครั้งนั้น ก็มีการข่มขู่ แต่เราได้ตุลาการที่มีความตรงไปตรงมา กล้าที่จะตัดสิน ให้เป็นไปตามความเป็นจริง หากผิดอะไรก็ต้องเป็นเช่นนั้น
เมื่อถามว่า เรื่องการตัดสินยุบพรรคจะมีการนำคนมาเคลื่อนไหวกดดัน กกต.หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เป็นความถนัดของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ชอบทำในสิ่งนี้
"เห็นว่าบางคนไม่มีปฏิกริยาอะไรในกรณีที่ได้ใบเหลือง ใบแดง ซึ่งว่าไปตามคำวินิจฉัยของศาล แต่บางฝ่ายจะมีกระบวนการตั้งคนขึ้นมา และการที่มีคนมาคอยด่า คอยว่าเป็นกระบวนการของกลุ่มคนในพรรคเหล่านั้น ซึ่งมีกิจกรรมแบบนี้ตลอด นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดวิกฤตในบ้านเมือง ดังนั้น กกต.ต้องเป็นองค์กรที่แข็งแรง ต้องกล้าให้ใบเหลือง ใบแดง ไม่ใช่เฉพาะพรรคพลังประชาชน หากพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคชาติไทยทำผิดก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย แต่หากเป็นนักการเมืองที่โกงก็จะไม่ให้ทำในสิ่งเหล่านี้ เพราะหากซื้อสิทธิเขาคงไม่ต้องการให้ไปจับกุม ดังนั้นทุกฝ่ายต้องร่วมมือคลี่คลายวิกฤตทางการเมือง อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ยังไม่จบ ต้องมีการประกาศผลและเลือกตั้งซ่อม ต้องรอการจัดตั้งรัฐบาลของฝ่ายที่สามารถที่รวบรวมเสียงข้างมากได้"นายชวนกล่าว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าว คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกว่า ตนเข้าใจว่า ผบ.ทบ. เน้นให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ในเรื่องนี้คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ให้ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง ถือเป็นวิธีการสมานฉันท์มากที่สุด
เมื่อถามว่า ภาพที่คุณหญิงพจมาณ เข้าพบผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจว่าจะมีกระบวนการแทรกแซงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับกลไกยุติธรรม ทำงานตามปกติ ก็คงไม่เป็นอะไร
ส่วนการพูดคุยกับพรรคชาติไทย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะดูเวลาที่เหมาะสม โดยจะพูดคุยในฐานะที่เคยทำงานร่วมกันมาว่ามองอนาคตบ้านเมืองอย่างไร ซึ่งจะได้ประโยชน์คือการได้รู้ความคิดซึ่งกันและกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการล็อบบี้ให้พรรคชาติไทยมาร่วมรัฐบาล ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์จะทำเช่นนั้นคงจะดำเนินการนานแล้ว เมื่อถามว่า หาพบกันจะทำให้มองหน้ากันติดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหาอะไรที่จะเข้าหน้าไม่ติด
"ขณะนี้ไม่ได้ประสานงานกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคพลังประชาชน แต่จะรอดูจุดยืนของพรรคการเมืองต่างๆ ในวันที่ 17 ม.ค. อีกครั้ง และหลังจากนี้จะพูดคุยกับพรรคชาติไทย ที่เคยเป็นพันธมิตรเพื่อสอบถามจุดยืนทางการเมือง แต่ไม่ได้มุ่งหวังเพื่อตั้งรัฐบาลแข่งกัน"
เมื่อถามถึงจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี จากนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องภายในของพรรคพลังประชาชน ถึงเวลาก็ไปว่ากันต่อในสภา ตนขอไม่วิจารณ์ อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้พรรคพลังประชาชนจะตัดสินใจอย่างไรก็ต้องมีคำอธิบาย เมื่อถามถึงแนวคิดรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ไม่มีการเสนอเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งนี้ คิดว่าถ้าทำงานตามระบอบปกติก็จะใช้ได้ แต่จะต้องฟังเหตุผลว่าใครเสนอะไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เรียกร้องให้ กกต.เปิดสำนวนใบเลืองใบแดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สามารถทำได้ แต่ต้องมีการคุ้มครองพยานด้วย ไม่เช่นนั้นพยานจะถูกข่มขู่กดดัน ส่วนจะมีการดำเนินการพิจารณาถึงขั้นยุบพรรคพลังประชาชน หรือไม่นั้น ตนเห็นว่าจะต้องมีการพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งกระบาวนการพิจารณาดังกล่าว อยู่ในอำนาจหน้าที่ของศาล
** "ชวน"จวกพปช.ถนัดเกมใต้ดิน
นายชวน หลีกภัย ประธานกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ไปหากมีบางพรรคอาจถูกยุบพรรคอย่าง เช่น พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ว่า ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง กฎหมายบ้านเมือง จะต้องมีผลบังคับ มีไม่น้อยที่นักการเมืองฝ่าฝืน เสี่ยงทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะรู้สึกว่าสามารถหลีกเลี่ยงกฎหมายบ้านเมืองได้ จึงกระทำในสิ่งเหล่านั้น ดังนั้นตนจึงหวังว่าบ้านเมืองจะอยู่ในกรอบกฎหมาย องค์กรก็ต้องสามารถตรวจสอบและรักษาความถูกต้องได้
ทั้งนี้ ตนอยากให้กำลังใจ กกต. เพราะบ้านเมืองมีวิกฤตเกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็มาจากระบบการเมืองที่เลวร้ายที่เกิดจากการทุจริตซื้อเสียง ซึ่งอยากให้เจ้าหน้าที่ กกต.ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องหวาดกลัวอะไร เพราะหากรักษากฎเกณฑ์เอาไว้ได้จะทำให้บ้านเมืองนี้อยู่บนความมั่นคงและชอบธรรม แต่อย่างไรก็ตามหากพรรคการเมืองเขาไม่ผิด ก็อย่าไปทำอะไรที่เกินกว่าขอบเขตของความเป็นจริง แต่หากพบว่าผิดก็ต้องดำเนินไปตามกฎหมาย โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้บ้านเมืองกลับมาสู่สภาวะปกติ แต่หากยังมีการละเมิดกฎเกณฑ์ ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่สภาวะปกติอย่างที่เราต้องการ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การยุบพรรคจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะนำไปสู่ความวุ่นวายหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะมีอะไร ใครทำผิดต้องว่าไปตามผิด ถ้าผิดถึงขั้นยุบพรรค ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย เหมือนกรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคในครั้งนั้น ก็มีการข่มขู่ แต่เราได้ตุลาการที่มีความตรงไปตรงมา กล้าที่จะตัดสิน ให้เป็นไปตามความเป็นจริง หากผิดอะไรก็ต้องเป็นเช่นนั้น
เมื่อถามว่า เรื่องการตัดสินยุบพรรคจะมีการนำคนมาเคลื่อนไหวกดดัน กกต.หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เป็นความถนัดของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ชอบทำในสิ่งนี้
"เห็นว่าบางคนไม่มีปฏิกริยาอะไรในกรณีที่ได้ใบเหลือง ใบแดง ซึ่งว่าไปตามคำวินิจฉัยของศาล แต่บางฝ่ายจะมีกระบวนการตั้งคนขึ้นมา และการที่มีคนมาคอยด่า คอยว่าเป็นกระบวนการของกลุ่มคนในพรรคเหล่านั้น ซึ่งมีกิจกรรมแบบนี้ตลอด นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดวิกฤตในบ้านเมือง ดังนั้น กกต.ต้องเป็นองค์กรที่แข็งแรง ต้องกล้าให้ใบเหลือง ใบแดง ไม่ใช่เฉพาะพรรคพลังประชาชน หากพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคชาติไทยทำผิดก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย แต่หากเป็นนักการเมืองที่โกงก็จะไม่ให้ทำในสิ่งเหล่านี้ เพราะหากซื้อสิทธิเขาคงไม่ต้องการให้ไปจับกุม ดังนั้นทุกฝ่ายต้องร่วมมือคลี่คลายวิกฤตทางการเมือง อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ยังไม่จบ ต้องมีการประกาศผลและเลือกตั้งซ่อม ต้องรอการจัดตั้งรัฐบาลของฝ่ายที่สามารถที่รวบรวมเสียงข้างมากได้"นายชวนกล่าว