เอเอฟพี/รอยเตอร์ - คนร้ายกดระเบิดทุ่นระเบิดที่ติดตั้งไว้ข้างถนน สังหารโหดรัฐมนตรีด้านการรวมชาติของศรีลังกาบนทางหลวงใกล้ๆกับกรุงโคลัมโบและสนามบินนานาชาติ ถือเป็นสมาชิกรัฐสภาศรีลังการายที่2ที่ถูกสังหารในรอบ 1 สัปดาห์ ขณะที่มีแนวโน้มว่าอาจเกิดสงครามกลางเมืองอันยืดเยื้อขึ้นมาอีก หลังจากที่รัฐบาลศรีลังกาประกาศถอนตัวจากข้อตกลงหยุดยิงที่ทำไว้กับกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม
ลาลีนี กุนาเสเกรา แพทย์แห่งโรงพยาบาลรากามา แถลงเมื่อวานนี้(8)ว่า ดี.เอ็ม. ดัสซาไนยเก รัฐมนตรีด้านการรวมชาติ ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักที่ศีรษะและเสียชีวิตระหว่างที่แพทย์พยายามผ่าตัดช่วยชีวิต นอกจากนี้ ยังมีเหยื่อระเบิดอีก 1 คน เสียชีวิต ส่วนอีก 9 คนได้รับบาดเจ็บ
ตำรวจกล่าวว่าคนร้ายกดระเบิดทุ่นระเบิดสังหาร ในระหว่างที่ขบวนรถของรัฐมนตรีผู้นี้เคลื่อนผ่านเมืองจาเอลา ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างกรุงโคลัมโบและท่าอากาศยานนานาชาติ
"ในระหว่างที่รัฐมนตรีกำลังเดินทางไปรัฐสภา รถยนต์เอสยูวี โตโยต้า แลนด์ครูสเซอร์ สีขาว ของท่าน ก็ถูกโจมตีด้วยทุ่นระเบิดสังหารแบบเคลย์โมร์ รถยนต์ของท่านได้รับความเสียหายอย่างหนัก" พลจัตวา อูดายา นานายักการา โฆษกของกองทัพศรีลังกา แถลง
สถานีโทรทัศน์ของศรีลังกาเผยแพร่ภาพรถของดัสซาไนยเกซึ่งกระจกแตก ด้านข้างรถเต็มไปด้วยกระสุนลูกปรายที่กระจายออกจากทุ่นระเบิดสังหารแบบเคลย์โมร์ เลือดกระเซ็นเปื้อนประตูผู้โดยสารด้านหลัง และมีกองเลือดอยู่ที่พื้นถนน
ที่ผ่านมา ดัสซาไนยเก วัย 51 ปี มีชื่อกระฉ่อน จากการถูกกล่าวหาว่ามีสายสัมพันธ์กับพวกอันธพาล และครั้งหนึ่งเคยเข้าประชุมสภาในสภาพถูกใส่กุญแจมือ เนื่องจากได้รับอนุญาตให้ออกจากเรือนจำซึ่งถูกควบคุมตัวระหว่างพิจารณาคดี ไปเข้าร่วมการอภิปรายครั้งสำคัญๆในสภา
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนเหตุระเบิดครั้งนี้กล่าวว่า ณ ตอนนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า คนร้ายมุ่งเป้าปลิดชีพรัฐมนตรีผู้นี้ หรือพยายามจะสังหารนักการเมืองระดับสูงที่ใช้ทางหลวงสายที่เกิดเหตุ ให้มากกว่านี้
"มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับเป้าหมายที่อาจเป็นไปได้ แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนก็คือ เหตุระเบิดครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มพยัคฆ์ปลดแอกแห่งทมิฬอีแลม" เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าว
กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมยังไม่ออกมาให้ความเห็นต่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ที่ผ่านมา กลุ่มกบฏดังกล่าวก็มักจะปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดเช่นนี้
ทางด้านตำรวจและกองกำลังความมั่นคงของศรีลังกาได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดรัดกุมมากขึ้น เพื่อระแวดระวังภัยจากการโจมตีโดยกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลม หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลศรีลังกาประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงหยุดยิงที่ทำไว้กับกลุ่มกบฏดังกล่าว
เมื่อวันอาทิตย์(6) กองกำลังความมั่นคงได้ดำเนินปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ในพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงเมืองหลวงและบริเวณสนามบิน ทั้งนี้ ตำรวจแถลงว่า ได้ตรวจค้นยวดยานกว่า 28,000 คัน สอบสวนประชาชนกว่า 75,000 คน และมีผู้คน 198 คนถูกจับในพื้นที่ดังกล่าว
เหตุระเบิดครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากที่สมาชิกรัฐสภาชาวทมิฬ ถูกยิงเสียชีวิต ในวัดฮินดู ในโคลัมโบ อีกทั้งเมื่อ 5 วันก่อน ก็เกิดเหตุระเบิดในลักษณะคล้ายๆกันนี้ โดยคนร้ายใช้ทุ่นระเบิดข้างถนนโจมตีรถโดยสารของกองทัพ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 5 คน ทั้งนี้ รัฐบาลประณามกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมว่าอยู่เบื้องหลังเหตุดังกล่าว
การสู้รบระหว่างกองทัพของรัฐบาลกับกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมรุนแรงมากขึ้นในบริเวณทางตอนเหนือของศรีลังกา ซึ่งเป็นพื้นที่ยึดครองของกลุ่มกบฏ ทั้งนี้ ทางกองทัพอ้างว่าได้สังหารสมาชิกกลุ่มกบฏไปเกือบ 100 คน แล้ว นับตั้งแต่รัฐบาลประกาศถอนตัวจากข้อตกลงหยุดยิง
ลาลีนี กุนาเสเกรา แพทย์แห่งโรงพยาบาลรากามา แถลงเมื่อวานนี้(8)ว่า ดี.เอ็ม. ดัสซาไนยเก รัฐมนตรีด้านการรวมชาติ ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักที่ศีรษะและเสียชีวิตระหว่างที่แพทย์พยายามผ่าตัดช่วยชีวิต นอกจากนี้ ยังมีเหยื่อระเบิดอีก 1 คน เสียชีวิต ส่วนอีก 9 คนได้รับบาดเจ็บ
ตำรวจกล่าวว่าคนร้ายกดระเบิดทุ่นระเบิดสังหาร ในระหว่างที่ขบวนรถของรัฐมนตรีผู้นี้เคลื่อนผ่านเมืองจาเอลา ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างกรุงโคลัมโบและท่าอากาศยานนานาชาติ
"ในระหว่างที่รัฐมนตรีกำลังเดินทางไปรัฐสภา รถยนต์เอสยูวี โตโยต้า แลนด์ครูสเซอร์ สีขาว ของท่าน ก็ถูกโจมตีด้วยทุ่นระเบิดสังหารแบบเคลย์โมร์ รถยนต์ของท่านได้รับความเสียหายอย่างหนัก" พลจัตวา อูดายา นานายักการา โฆษกของกองทัพศรีลังกา แถลง
สถานีโทรทัศน์ของศรีลังกาเผยแพร่ภาพรถของดัสซาไนยเกซึ่งกระจกแตก ด้านข้างรถเต็มไปด้วยกระสุนลูกปรายที่กระจายออกจากทุ่นระเบิดสังหารแบบเคลย์โมร์ เลือดกระเซ็นเปื้อนประตูผู้โดยสารด้านหลัง และมีกองเลือดอยู่ที่พื้นถนน
ที่ผ่านมา ดัสซาไนยเก วัย 51 ปี มีชื่อกระฉ่อน จากการถูกกล่าวหาว่ามีสายสัมพันธ์กับพวกอันธพาล และครั้งหนึ่งเคยเข้าประชุมสภาในสภาพถูกใส่กุญแจมือ เนื่องจากได้รับอนุญาตให้ออกจากเรือนจำซึ่งถูกควบคุมตัวระหว่างพิจารณาคดี ไปเข้าร่วมการอภิปรายครั้งสำคัญๆในสภา
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนเหตุระเบิดครั้งนี้กล่าวว่า ณ ตอนนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า คนร้ายมุ่งเป้าปลิดชีพรัฐมนตรีผู้นี้ หรือพยายามจะสังหารนักการเมืองระดับสูงที่ใช้ทางหลวงสายที่เกิดเหตุ ให้มากกว่านี้
"มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับเป้าหมายที่อาจเป็นไปได้ แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนก็คือ เหตุระเบิดครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มพยัคฆ์ปลดแอกแห่งทมิฬอีแลม" เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าว
กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมยังไม่ออกมาให้ความเห็นต่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ที่ผ่านมา กลุ่มกบฏดังกล่าวก็มักจะปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดเช่นนี้
ทางด้านตำรวจและกองกำลังความมั่นคงของศรีลังกาได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดรัดกุมมากขึ้น เพื่อระแวดระวังภัยจากการโจมตีโดยกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลม หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลศรีลังกาประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงหยุดยิงที่ทำไว้กับกลุ่มกบฏดังกล่าว
เมื่อวันอาทิตย์(6) กองกำลังความมั่นคงได้ดำเนินปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ในพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงเมืองหลวงและบริเวณสนามบิน ทั้งนี้ ตำรวจแถลงว่า ได้ตรวจค้นยวดยานกว่า 28,000 คัน สอบสวนประชาชนกว่า 75,000 คน และมีผู้คน 198 คนถูกจับในพื้นที่ดังกล่าว
เหตุระเบิดครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากที่สมาชิกรัฐสภาชาวทมิฬ ถูกยิงเสียชีวิต ในวัดฮินดู ในโคลัมโบ อีกทั้งเมื่อ 5 วันก่อน ก็เกิดเหตุระเบิดในลักษณะคล้ายๆกันนี้ โดยคนร้ายใช้ทุ่นระเบิดข้างถนนโจมตีรถโดยสารของกองทัพ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 5 คน ทั้งนี้ รัฐบาลประณามกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมว่าอยู่เบื้องหลังเหตุดังกล่าว
การสู้รบระหว่างกองทัพของรัฐบาลกับกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมรุนแรงมากขึ้นในบริเวณทางตอนเหนือของศรีลังกา ซึ่งเป็นพื้นที่ยึดครองของกลุ่มกบฏ ทั้งนี้ ทางกองทัพอ้างว่าได้สังหารสมาชิกกลุ่มกบฏไปเกือบ 100 คน แล้ว นับตั้งแต่รัฐบาลประกาศถอนตัวจากข้อตกลงหยุดยิง