เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เพนทากอนยัวะจัดเผยอิหร่านส่งเรือสปีดโบ้ตติดอาวุธประชิดเรือรบสหรัฐฯในน่านน้ำสากลบริเวณช่องแคบฮอร์มุซซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญของโลก ทั้งยังส่งวิทยุขู่จะระเบิดเรือสหรัฐฯ แถมยังส่งกล่องลอยน้ำเข้ามาในวิถีเรือ ประณามเป็นการกระทำอันยั่วยุและเป็นปรปักษ์ ลั่นจะเผชิญหน้ากับพฤติกรรมที่คุกคามสหรัฐฯและพันธมิตรในตะวันออกกลาง ด้านรัฐบาลเตหะรานเมินคำขู่ ชี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ และไม่ได้ขู่ระเบิดเรือรบสหรัฐฯแต่อย่างใด
เมื่อวันจันทร์(7) พลเรือโทเควิน คอสกริฟฟ์ ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯภาคที่5 ซึ่งรับผิดชอบปฏิบัติการทางทหารในบริเวณอ่าวเปอร์เซีย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนทากอน) ผ่านระบบวิดีโอลิงก์จากกองบัญชาการใหญ่ในบาห์เรนว่า เรือของอิหร่านได้เคลื่อนที่อย่างรุกรานมุ่งเข้าหาเรือรบของสหรัฐฯ และดำเนินปฏิบัติการที่ยั่วยุเกินควร
เจ้าหน้าที่เพนทากอนกล่าวว่าเรือสปีดโบ้ตของอิหร่านจำนวน 5 ลำได้กลุ้มรุมเรือรบสหรัฐฯในน่านน้ำสากลบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ เมื่อเวลาราว 4.00 น.ตามเวลามาตรฐานกรีนนิช หรือราว 11.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์(6)
บรรดาเจ้าหน้าที่กล่าวว่า เรือลาดตระเวนยูเอสเอสพอร์ตรอยัล เรือพิฆาตยูเอสเอสฮ้อปเปอร์ และเรือฟรีเกต(เรือรบขนาดเล็กฝีจักรเร็ว)ยูเอสเอสอินเกรแฮม ได้รับสัญญาณวิทยุขู่ว่าจะระเบิดเรือทั้งสาม และต่อมาก็เห็นว่าเรือสปีดโบ้ต 2 ลำ ทิ้งกล่องลอยน้ำที่เคลื่อนที่เข้าหาวิถีของเรืออินเกรแฮม แต่เรือดังกล่าวก็แล่นผ่านกล่องโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เรากำลังมุ่งเข้าหาเรือคุณ และเรือคุณจะระเบิดภายในสองสามนาที" เจ้าหน้าที่เพนทากอนกล่าวโดยอ้างคำพูดจากสัญญาณวิทยุที่ฝ่ายอิหร่านส่งมาขู่กองทัพสหรัฐฯ
พลเรือโทคอสกริฟฟ์กล่าวว่า ฝ่ายสหรัฐฯได้ส่งวิทยุแจ้งเตือนไปยังอิหร่านอีกทั้งยังส่งเสียงหวูดของเรือรบออกไปด้วย เพื่อทำให้ฝ่ายอิหร่านตระหนักว่า การเคลื่อนที่ของเรืออิหร่านทำให้เจ้าหน้าที่บังคับการบนเรือรบสหรัฐฯ วิตกกังวล
แต่ทว่า ฝ่ายอิหร่านก็ไม่สนใจสัญญาณเตือนของสหรัฐฯ พลโทคอสกริฟฟ์กล่าวว่า ในบางช่วง เรือสปีดโบ้ตแล่นอยู่ห่างจากเรือรบสหรัฐฯในระยะไม่ถึง 500 เมตร
ผู้บัญชาการกองทัพเรือภาคที่5กล่าวว่า ผู้บังคับการเรือสหรัฐฯแต่ละลำได้ตอบสนองต่อภัยคุกคามนี้โดยสั่งการให้เพิ่มมาตรการเตรียมพร้อมบนเรือ ทว่า ไม่มีการยิงอาวุธโจมตีแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เพนทากอนซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่าหลังจากที่อิหร่านขู่จะระเบิดเรือสหรัฐฯ กัปตันเรือสหรัฐฯก็อยู่ในขั้นตอนสั่งการให้กะลาสียิงเข้าใส่ฝ่ายอิหร่าน แต่เรือสปีดโบ้ตเหล่านั้นก็แล่นออกห่างจากเรือสหรัฐฯไปแล้ว
พลโทคอสกริฟฟ์กล่าวว่าเรือสหรัฐฯแล่นอยู่ในน่านน้ำที่ห่างจากแผ่นดินอิหร่านที่ใกล้ที่สุด อย่างน้อย 15 ไมล์ (24 กิโลเมตร) ดังนั้น จึงอยู่นอกน่านน้ำอิหร่านซึ่งตามกฎหมายระหว่างประเทศกำหนดให้อยู่ในระยะ 12 ไมล์ (19 กิโลเมตร) จากแผ่นดิน
นอกจากนี้ เรือสหรัฐฯยังมีเครื่องหมายระบุชัดเจน อีกทั้งเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นในช่วงกลางวันและทัศนวิสัยก็อยู่ในระดับพอใช้
พลโทคอสกริฟฟ์กล่าวว่ากองทัพสหรัฐฯเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน มากกว่ากองทัพเรือประจำการของอิหร่าน เนื่องกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติมักใช้เรือสปีดโป้ตติดอาวุธและเคลื่อนที่ในลักษณะรุกรานก้าวร้าว
รัฐบาลสหรัฐฯกล่าวหาอิหร่านว่ามีพฤติกรรมที่ยั่วยุและเป็นปรปักษ์ อีกทั้งยังประกาศกร้าวว่าจะเผชิญหน้ากับพฤติกรรมของอิหร่านที่พยายามคุกคามสหรัฐฯและชาติพันธมิตรในตะวันออกกลาง
ทว่า โมฮัมหมัด อาลี โฮสเซนี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน กลับไม่สนใจคำขู่นี้ และแถลงว่าเหตุการณ์การเผชิญหน้าที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นเรื่องปกติ และสถานการณ์ก็คลี่คลายแล้ว หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายที่เผชิญหน้ากัน ต่างระบุตัวว่าเป็นกองทัพอิหร่าน และกองทัพสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังไม่มีการส่งวิทยุขู่ระเบิดเรือรบ ดังที่ฝ่ายสหรัฐฯกล่าวหา
เมื่อวันจันทร์(7) พลเรือโทเควิน คอสกริฟฟ์ ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯภาคที่5 ซึ่งรับผิดชอบปฏิบัติการทางทหารในบริเวณอ่าวเปอร์เซีย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนทากอน) ผ่านระบบวิดีโอลิงก์จากกองบัญชาการใหญ่ในบาห์เรนว่า เรือของอิหร่านได้เคลื่อนที่อย่างรุกรานมุ่งเข้าหาเรือรบของสหรัฐฯ และดำเนินปฏิบัติการที่ยั่วยุเกินควร
เจ้าหน้าที่เพนทากอนกล่าวว่าเรือสปีดโบ้ตของอิหร่านจำนวน 5 ลำได้กลุ้มรุมเรือรบสหรัฐฯในน่านน้ำสากลบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ เมื่อเวลาราว 4.00 น.ตามเวลามาตรฐานกรีนนิช หรือราว 11.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์(6)
บรรดาเจ้าหน้าที่กล่าวว่า เรือลาดตระเวนยูเอสเอสพอร์ตรอยัล เรือพิฆาตยูเอสเอสฮ้อปเปอร์ และเรือฟรีเกต(เรือรบขนาดเล็กฝีจักรเร็ว)ยูเอสเอสอินเกรแฮม ได้รับสัญญาณวิทยุขู่ว่าจะระเบิดเรือทั้งสาม และต่อมาก็เห็นว่าเรือสปีดโบ้ต 2 ลำ ทิ้งกล่องลอยน้ำที่เคลื่อนที่เข้าหาวิถีของเรืออินเกรแฮม แต่เรือดังกล่าวก็แล่นผ่านกล่องโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เรากำลังมุ่งเข้าหาเรือคุณ และเรือคุณจะระเบิดภายในสองสามนาที" เจ้าหน้าที่เพนทากอนกล่าวโดยอ้างคำพูดจากสัญญาณวิทยุที่ฝ่ายอิหร่านส่งมาขู่กองทัพสหรัฐฯ
พลเรือโทคอสกริฟฟ์กล่าวว่า ฝ่ายสหรัฐฯได้ส่งวิทยุแจ้งเตือนไปยังอิหร่านอีกทั้งยังส่งเสียงหวูดของเรือรบออกไปด้วย เพื่อทำให้ฝ่ายอิหร่านตระหนักว่า การเคลื่อนที่ของเรืออิหร่านทำให้เจ้าหน้าที่บังคับการบนเรือรบสหรัฐฯ วิตกกังวล
แต่ทว่า ฝ่ายอิหร่านก็ไม่สนใจสัญญาณเตือนของสหรัฐฯ พลโทคอสกริฟฟ์กล่าวว่า ในบางช่วง เรือสปีดโบ้ตแล่นอยู่ห่างจากเรือรบสหรัฐฯในระยะไม่ถึง 500 เมตร
ผู้บัญชาการกองทัพเรือภาคที่5กล่าวว่า ผู้บังคับการเรือสหรัฐฯแต่ละลำได้ตอบสนองต่อภัยคุกคามนี้โดยสั่งการให้เพิ่มมาตรการเตรียมพร้อมบนเรือ ทว่า ไม่มีการยิงอาวุธโจมตีแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เพนทากอนซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่าหลังจากที่อิหร่านขู่จะระเบิดเรือสหรัฐฯ กัปตันเรือสหรัฐฯก็อยู่ในขั้นตอนสั่งการให้กะลาสียิงเข้าใส่ฝ่ายอิหร่าน แต่เรือสปีดโบ้ตเหล่านั้นก็แล่นออกห่างจากเรือสหรัฐฯไปแล้ว
พลโทคอสกริฟฟ์กล่าวว่าเรือสหรัฐฯแล่นอยู่ในน่านน้ำที่ห่างจากแผ่นดินอิหร่านที่ใกล้ที่สุด อย่างน้อย 15 ไมล์ (24 กิโลเมตร) ดังนั้น จึงอยู่นอกน่านน้ำอิหร่านซึ่งตามกฎหมายระหว่างประเทศกำหนดให้อยู่ในระยะ 12 ไมล์ (19 กิโลเมตร) จากแผ่นดิน
นอกจากนี้ เรือสหรัฐฯยังมีเครื่องหมายระบุชัดเจน อีกทั้งเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นในช่วงกลางวันและทัศนวิสัยก็อยู่ในระดับพอใช้
พลโทคอสกริฟฟ์กล่าวว่ากองทัพสหรัฐฯเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน มากกว่ากองทัพเรือประจำการของอิหร่าน เนื่องกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติมักใช้เรือสปีดโป้ตติดอาวุธและเคลื่อนที่ในลักษณะรุกรานก้าวร้าว
รัฐบาลสหรัฐฯกล่าวหาอิหร่านว่ามีพฤติกรรมที่ยั่วยุและเป็นปรปักษ์ อีกทั้งยังประกาศกร้าวว่าจะเผชิญหน้ากับพฤติกรรมของอิหร่านที่พยายามคุกคามสหรัฐฯและชาติพันธมิตรในตะวันออกกลาง
ทว่า โมฮัมหมัด อาลี โฮสเซนี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน กลับไม่สนใจคำขู่นี้ และแถลงว่าเหตุการณ์การเผชิญหน้าที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นเรื่องปกติ และสถานการณ์ก็คลี่คลายแล้ว หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายที่เผชิญหน้ากัน ต่างระบุตัวว่าเป็นกองทัพอิหร่าน และกองทัพสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังไม่มีการส่งวิทยุขู่ระเบิดเรือรบ ดังที่ฝ่ายสหรัฐฯกล่าวหา
