ผู้จัดการรายวัน - ผอ.สสว. วอนรัฐบาลใหม่ ส่งเสริม SMEs ด้านการเพิ่มผลิตภาพการผลิต โดยเน้นสร้างนวัตกรรม นำผลงานวิจัยมาสู่เชิงพาณิชย์ได้จริง อีกทั้ง สานต่อโครงการต่างๆ ที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ เพื่อช่วยเหลือ SMEs ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงมากมายในปัจจุบัน
นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า แนวโน้ม SMEs ในปีที่ผ่านมา (2550) และในปีนี้ (2551) ต้องพบกับปัจจัยเสี่ยงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันแพง ค่าเงินบาท ฯลฯ ดังนั้น อยากให้รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามารับหน้าที่เน้นส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในด้านการเพิ่มผลิตภาพการผลิต (Productivity) เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขัน โดยเน้นส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และเสริมศัลยภาพทางการแข่งขัน โดยไม่เฉพาะการส่งเสริมนักวิจัยเท่านั้น แต่ต้องรวมถึงส่งเสริมให้ SMEs สามารถนำนวัตกรรมหรือผลงานวิจัยมาใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์
“ปัจจุบันประเทศไทยมีผลงานวิจัยอยู่กว่า 4,000 เรื่อง แต่สามารถนำมาใช้จริงได้ค่อนข้างน้อย ดังนั้น รัฐบาลใหม่น่าจะส่งเสริมโครงการต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยเอื้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการศูนย์บ่มเพาะ หรือกองทุนรวมลงทุน เป็นต้น” ผอ.สสว. กล่าว
นอกจากนั้น อยากให้รัฐบาลใหม่ส่งเสริมในการสานต่อโครงการต่างๆ ที่ส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs เช่น การสร้างแบบ การออกแบบสินค้าและผลิตภัณฑ์ รวมถึง ส่งเสริมการเป็นผู้ผลิตรายสาขาในอุตสาหกรรมหลัก เป็นต้น
สำหรับโครงการส่งเสริม SMEs ของ สสว. ในปี 2551 นี้ มีทั้งโครงการต่อเนื่อง และโครงการใหม่ร วมทั้งสิ้น กว่า 124 โครงการ ภายใต้ 4 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการวางพื้นฐานความรู้ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรม โครงการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการร่วมกับเอกชน และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของภาคการค้าและบริการ คาดว่า ภายใต้โครงการต่างๆ ปี 2551 จะช่วยเพิ่ม GDP ของ SMEs ขยายตัวในอัตรา 4-4.5%
นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า แนวโน้ม SMEs ในปีที่ผ่านมา (2550) และในปีนี้ (2551) ต้องพบกับปัจจัยเสี่ยงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันแพง ค่าเงินบาท ฯลฯ ดังนั้น อยากให้รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามารับหน้าที่เน้นส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในด้านการเพิ่มผลิตภาพการผลิต (Productivity) เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขัน โดยเน้นส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และเสริมศัลยภาพทางการแข่งขัน โดยไม่เฉพาะการส่งเสริมนักวิจัยเท่านั้น แต่ต้องรวมถึงส่งเสริมให้ SMEs สามารถนำนวัตกรรมหรือผลงานวิจัยมาใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์
“ปัจจุบันประเทศไทยมีผลงานวิจัยอยู่กว่า 4,000 เรื่อง แต่สามารถนำมาใช้จริงได้ค่อนข้างน้อย ดังนั้น รัฐบาลใหม่น่าจะส่งเสริมโครงการต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยเอื้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการศูนย์บ่มเพาะ หรือกองทุนรวมลงทุน เป็นต้น” ผอ.สสว. กล่าว
นอกจากนั้น อยากให้รัฐบาลใหม่ส่งเสริมในการสานต่อโครงการต่างๆ ที่ส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs เช่น การสร้างแบบ การออกแบบสินค้าและผลิตภัณฑ์ รวมถึง ส่งเสริมการเป็นผู้ผลิตรายสาขาในอุตสาหกรรมหลัก เป็นต้น
สำหรับโครงการส่งเสริม SMEs ของ สสว. ในปี 2551 นี้ มีทั้งโครงการต่อเนื่อง และโครงการใหม่ร วมทั้งสิ้น กว่า 124 โครงการ ภายใต้ 4 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการวางพื้นฐานความรู้ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรม โครงการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการร่วมกับเอกชน และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของภาคการค้าและบริการ คาดว่า ภายใต้โครงการต่างๆ ปี 2551 จะช่วยเพิ่ม GDP ของ SMEs ขยายตัวในอัตรา 4-4.5%