คำพูดข้างบนตรงกับทฤษฎี “จิ้งจกเปลี่ยนสี” ที่นักการเมืองของประเทศไทยยึดถือกันอย่างเคร่งครัด และสืบทอดกันมาทุกยุคทุกสมัย
ปรัชญานี้เอง ที่ทำให้นักการเมืองไทยกลายเป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ มนุษย์เห็นแก่ตัว มนุษย์หน้าไหว้หลังหลอก มนุษย์พูดอย่างทำอย่าง มนุษย์ปากว่าตาขยิบ และมนุษย์อะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย แต่ที่สำคัญที่สุดเป็นมนุษย์ขี้โกงหน้าด้านๆ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีสำหรับสังคมมนุษย์ด้วยกันเองครับ
การที่สภาผู้แทนราษฎรของประเทศไทย ทั้งในอดีตและปัจจุบันได้แต่นักการเมืองห่วยแตก ที่สมองคิดจะได้เพียงอำนาจและเงินตรานั้น
ความผิดพลาดเหล่านี้..อันดับแรกต้องกล่าวโทษ พวกผู้ปกครองทั้งในอดีตและปัจจุบันครับ
ผู้ปกครองที่ผ่านมาและปัจจุบัน มิได้ให้การศึกษากับประชาชนคนไทยเลย แถมมิได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในชนบท ดังนั้นระบบอุปถัมภ์กับเงินตรา รวมทั้งการหลอกลวงด้วยเล่ห์ที่ประชาชนตามไม่ทัน มีบทบาทสำคัญต่อการเลือกตั้งในประเทศไทยทุกครั้ง
ความผิดอันดับสอง หนีไม่พ้นองค์กร กกต.ครับ เพราะ กกต.มีหน้าที่คัดกรองคนดีให้เข้าสู่สภาฯ เพื่อสภาจะได้ออกกฎหมายดีๆ เพื่อประชาชน รวมทั้งเอาคนดีๆ ขึ้นบริหารประเทศชาติ แต่หากได้ ส.ส.จำนวนมากไร้ซึ่งคุณธรรมขาดจริยธรรมล่ะ แน่นอน..องค์กร กกต.ต้องรับผิดชอบโดยตรงครับ
โดยเฉพาะ กกต.ใหญ่ทั้ง 5 คน หนีไม่พ้นที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน และที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง คือ 1เสือ กกต.ที่ชื่อ สมชัย จึงประเสริฐ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลด้านการสืบสวนสอบสวนนั่นเอง
รู้ๆ กันอยู่ว่า..สถานการณ์เลือกตั้งที่กลุ่มอำนาจเก่า จะต้องทุ่มเทเงินทองและสรรพกำลังเพื่อทวงคืนอำนาจรัฐนั้น ย่อมมีเหตุไม่ชอบมาพากลที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายให้เห็นทุกหัวระแหง ที่โจ่งแจ้งที่สุด คือ การแจกวีซีดีทักษิณที่ยอมรับว่าพรรคพลังประชาชน คือ พรรคนอมินีของพรรคไทยรักไทย ที่โดนตุลาการรัฐธรรมนูญยุบพรรค ตัดสิทธิผู้บริหารพรรคอีก 111 คน
ความผิดหลักที่ตุลาการรัฐธรรมนูญระบุในคำพิพากษานั้น ฉกาจฉกรรจ์จริงๆ คือ พรรคไทยรักไทยเป็นภัยร้ายแรงอย่างยิ่ง ต่อคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขครับ
เท่านั้นไม่พอ..วีซีดีที่ทักษิณอัดภาพและเสียงด้วยตนเอง ยังประกาศหาเสียงให้พรรคพลังประชาชนอย่างเปิดเผย ทั้งที่เป็นภาษากลางและภาษาเหนือ กระทั่งวีซีดีหาเสียงบางแผ่นยังหาเสียงให้ผู้แทนเชียงรายโดยเฉพาะเจาะจงอีกด้วย ซึ่งนายวีระ สมความคิด ได้นำเสนอต่อ กกต.ก่อนจะมีการเลือกตั้ง
แต่ กกต. 5 คน ก็ทำได้แค่ตั้งคณะกรรมการไม่กี่คน เพื่อสอบสวนสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องการแจกวีซีดี แล้วทุกอย่างก็เงียบเป็นเป่าสากกะเบือ การเลือกตั้งที่มีทั้งพรรคและผู้สมัคร ส.ส.ที่เป็นปัญหา ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
แถมก่อนการเลือกตั้งก็ไม่มีการป้องปรามการซื้อสิทธิขายเสียงเลย เพราะไม่มีทั้งใบเหลืองและใบแดงสักใบให้เห็น ทำราวกับการเลือกตั้งครั้งนี้บริสุทธิ์ยุติธรรมเสียเหลือเกิน
ความไม่ชอบมาพากลของ กกต.สมชัย จึงประเสริฐ มาแสดงออกอย่างชัดเจนว่า อยากให้มีการเปิดสภาฯ เสียก่อน แล้วจึงค่อยแจกใบเหลืองใบแดงให้กับคนที่ทำผิดกฎหมาย แถมยังให้สัมภาษณ์ในเวลาเดียวกันในทำนองว่า การแจกใบแดงใบเหลืองนั้นไม่ใช่สาระสำคัญอะไรนักหนา
อืมมม..กกต.ใหญ่ สมชัย จึงประเสริฐ ไปกินอะไรผิดสำแดงหรือเปล่าครับ???
นี่ยังไม่รวมถึงพฤติกรรมบางอย่างในที่ประชุม ที่มีข่าวแพลมๆ ออกมาว่า กกต.สมชัยออกอาการไม่พอใจอย่างออกนอกหน้า เมื่อถูก กกต.บางคนเสนอให้ กกต.อีก 4 คน เข้ามามีส่วนร่วมในการดูเรื่องร้องเรียน และดูแลสำนวนการสอบสวนสืบสวนเรื่องที่มีการร้องเรียนเข้ามา
เพราะมีการสงสัยว่า ทำไมสารพัดสำนวนมันไม่เรียบร้อย และอ่อนปวกเปียกไปเสียหมด จนกกต.ไม่อาจให้ใบเหลืองใบแดงก่อนการเลือกตั้งได้ แถมเจ้าหน้าที่ กกต.ในฝ่ายสืบสวนสอบสวน ที่ทั้งแอบและไม่แอบวางยา กักงานร้องเรียนให้ล่าช้า บางเรื่องหายไปอย่างไร้ร่องรอย ข่มขู่พยาน บิดเบือนสำนวน ทำสำนวนผิดให้ถูก ทำสำนวนให้อ่อน โอ้ย..สารพัดวิชามารที่คนเหล่านี้กระทำ
แต่คนเหล่านี้..กลับยังลอยหน้าลอยตามีอิทธิพล ไม่ถูกย้ายเลยครับ
นั่นจึงไม่น่าแปลกใจที่วันนี้ ประเทศไทยเรายังคงได้ว่าที่ ส.ส.หน้าเดิมๆ มีทั้งพวกฝักถั่ว พวกสากกะเบือ พวกไม่รู้ดีรู้ชั่ว พวกร่วมกระทำชั่ว พวกเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง อืมมม..กกต.สมชัยอยากให้คนพวกนี้นั่งใน “สภาที่ทรงเกียรติ” ก่อน แล้วค่อยสอยด้วยใบเหลืองใบแดงน่ะ..ถูกหรือ?
การให้ผู้สมัคร ส.ส.ที่มีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลเข้าสภาก่อนนั้น ก็เปรียบเสมือนให้โจรบุกเข้าบ้านก่อน..โจรที่มีปืนและอำนาจแลเห็นทรัพย์ศฤคาร โจรจะอดใจไม่ปล้นประชาชนได้หรือ? โถ..กกต.สมชัยคิดได้อย่างไร? คิด “เอาเนื้อไปฝากไว้กับเสือ” มีหรือเสือจะไม่ขย้ำกัดกินเนื้อ?
ผมต้องถือว่า..กกต.ชุดนี้ ทำงานไม่เข้าตาประชาชนครับ ระวัง..จะถูกโห่ฮาป่าและขับไล่เหมือน กกต.ยุควาสนานะครับ
จบเรื่อง กกต.มาเรื่องนี้ดีกว่า บัดนี้..พรรคพลังประชาชนแอบรวบรวมพรรคเล็กๆ ไว้ได้แล้ว พปช.ยอมให้ทั้งตำแหน่งและทุกอย่างกับบรรดาพรรคเหล่านี้ หากพรรคชาติไทยและเพื่อแผ่นดินไม่เข้าร่วมรัฐบาล พปช.จะฝืนตั้งรัฐบาลปริ่มน้ำที่ไร้เสถียรภาพทันที
รัฐบาลเฉพาะกิจนี้ไม่หวังอยู่นานครับ แต่มีภารกิจเฉพาะหน้าเพียงแค่ ใช้งบประมาณหลวงจัดโครงการที่ได้คะแนนเสียงลงสู่ประชาชน เน้นที่อีสานและภาคเหนือ คือ วางตัวบุคคลของ พปช.ไว้ในจุดสำคัญ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงที่ดูแลสื่อของรัฐ กระทรวงที่มีอิทธิพลและผลในทางบวกต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า
กระทรวงที่สำคัญที่สุดที่ต้องคุมไว้ในกำมือ คือ กระทรวงที่ดูแลตำรวจและทหารครับ
ตำรวจนั้นรู้ๆ กันมาแล้วสมัยทักษิณเรืองอำนาจ ว่าประเทศไทยกลายเป็นรัฐตำรวจไปเลยครับ ตำรวจทำทั้งข่มขู่และสกัดคู่แข่งทางการเมือง รวมทั้งบุคคลที่ไม่เห็นด้วยกับพวกตน
ทหาร คือ เป้าหมายสำคัญที่สุด เพราะรัฐบาล พปช.จะโยกย้ายทหาร ที่เคยทำรัฐประหารล้มรัฐบาลเก่า ก่อนจะตั้งทหารที่เป็นพรรคพวกอดีตนายกฯ ทักษิณและพวกพ้อง มาคุมกำลังสำคัญๆในกองทัพโดยเร็วที่สุด
รัฐบาล พปช.ที่จะอยู่ไม่นานนี้ หากมีสถานการณ์ไม่ดี..ก็จะยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เงินถุงเงินถังและระบบจัดการที่ดี จะนำ พปช.กลับเข้าสู่สภาอีกครั้งอย่างถล่มทลายครับ และหากทหารอีกฝ่ายหือ..หรือออกอาการไม่ดี ทหารของรัฐบาล พปช.อาจจะทำอะไร ที่พวกเราคาด (ถึง) ไม่ถึงก็ได้นะครับ
นี่ยังไม่รวมสถานการณ์หาก พปช.เป็นรัฐบาล ที่ คตส.และองค์กรอิสระมากมาย จะถูกกระทำไม่เหมาะไม่ควรกับนโยบายหลักของ พปช.นั่นคือ..ทวงความยุติธรรมคืนให้กับคนเพียงคนเดียวไงล่ะครับ
สถานการณ์อย่างนี้ ไม่ดีเลย..ไม่ดีจริงๆสำหรับบ้านนี้เมืองนี้ ผมยังมองไม่เห็นเลยว่าจะเกิดความสุขสงบ และความปรองดองทางการเมืองในประเทศนี้ได้อย่างไร?
นั่นคือ..วัฏจักรน้ำเน่าทางการเมืองของไทยแลนด์แดนสยามครับ อ้อ..บทความนี้ขอจบลงตรงที่ผมอยากให้ท่านผู้อ่านศึกษาการเมืองในประเทศเนปาลครับ..!!!
ปรัชญานี้เอง ที่ทำให้นักการเมืองไทยกลายเป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ มนุษย์เห็นแก่ตัว มนุษย์หน้าไหว้หลังหลอก มนุษย์พูดอย่างทำอย่าง มนุษย์ปากว่าตาขยิบ และมนุษย์อะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย แต่ที่สำคัญที่สุดเป็นมนุษย์ขี้โกงหน้าด้านๆ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีสำหรับสังคมมนุษย์ด้วยกันเองครับ
การที่สภาผู้แทนราษฎรของประเทศไทย ทั้งในอดีตและปัจจุบันได้แต่นักการเมืองห่วยแตก ที่สมองคิดจะได้เพียงอำนาจและเงินตรานั้น
ความผิดพลาดเหล่านี้..อันดับแรกต้องกล่าวโทษ พวกผู้ปกครองทั้งในอดีตและปัจจุบันครับ
ผู้ปกครองที่ผ่านมาและปัจจุบัน มิได้ให้การศึกษากับประชาชนคนไทยเลย แถมมิได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในชนบท ดังนั้นระบบอุปถัมภ์กับเงินตรา รวมทั้งการหลอกลวงด้วยเล่ห์ที่ประชาชนตามไม่ทัน มีบทบาทสำคัญต่อการเลือกตั้งในประเทศไทยทุกครั้ง
ความผิดอันดับสอง หนีไม่พ้นองค์กร กกต.ครับ เพราะ กกต.มีหน้าที่คัดกรองคนดีให้เข้าสู่สภาฯ เพื่อสภาจะได้ออกกฎหมายดีๆ เพื่อประชาชน รวมทั้งเอาคนดีๆ ขึ้นบริหารประเทศชาติ แต่หากได้ ส.ส.จำนวนมากไร้ซึ่งคุณธรรมขาดจริยธรรมล่ะ แน่นอน..องค์กร กกต.ต้องรับผิดชอบโดยตรงครับ
โดยเฉพาะ กกต.ใหญ่ทั้ง 5 คน หนีไม่พ้นที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน และที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง คือ 1เสือ กกต.ที่ชื่อ สมชัย จึงประเสริฐ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลด้านการสืบสวนสอบสวนนั่นเอง
รู้ๆ กันอยู่ว่า..สถานการณ์เลือกตั้งที่กลุ่มอำนาจเก่า จะต้องทุ่มเทเงินทองและสรรพกำลังเพื่อทวงคืนอำนาจรัฐนั้น ย่อมมีเหตุไม่ชอบมาพากลที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายให้เห็นทุกหัวระแหง ที่โจ่งแจ้งที่สุด คือ การแจกวีซีดีทักษิณที่ยอมรับว่าพรรคพลังประชาชน คือ พรรคนอมินีของพรรคไทยรักไทย ที่โดนตุลาการรัฐธรรมนูญยุบพรรค ตัดสิทธิผู้บริหารพรรคอีก 111 คน
ความผิดหลักที่ตุลาการรัฐธรรมนูญระบุในคำพิพากษานั้น ฉกาจฉกรรจ์จริงๆ คือ พรรคไทยรักไทยเป็นภัยร้ายแรงอย่างยิ่ง ต่อคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขครับ
เท่านั้นไม่พอ..วีซีดีที่ทักษิณอัดภาพและเสียงด้วยตนเอง ยังประกาศหาเสียงให้พรรคพลังประชาชนอย่างเปิดเผย ทั้งที่เป็นภาษากลางและภาษาเหนือ กระทั่งวีซีดีหาเสียงบางแผ่นยังหาเสียงให้ผู้แทนเชียงรายโดยเฉพาะเจาะจงอีกด้วย ซึ่งนายวีระ สมความคิด ได้นำเสนอต่อ กกต.ก่อนจะมีการเลือกตั้ง
แต่ กกต. 5 คน ก็ทำได้แค่ตั้งคณะกรรมการไม่กี่คน เพื่อสอบสวนสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องการแจกวีซีดี แล้วทุกอย่างก็เงียบเป็นเป่าสากกะเบือ การเลือกตั้งที่มีทั้งพรรคและผู้สมัคร ส.ส.ที่เป็นปัญหา ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
แถมก่อนการเลือกตั้งก็ไม่มีการป้องปรามการซื้อสิทธิขายเสียงเลย เพราะไม่มีทั้งใบเหลืองและใบแดงสักใบให้เห็น ทำราวกับการเลือกตั้งครั้งนี้บริสุทธิ์ยุติธรรมเสียเหลือเกิน
ความไม่ชอบมาพากลของ กกต.สมชัย จึงประเสริฐ มาแสดงออกอย่างชัดเจนว่า อยากให้มีการเปิดสภาฯ เสียก่อน แล้วจึงค่อยแจกใบเหลืองใบแดงให้กับคนที่ทำผิดกฎหมาย แถมยังให้สัมภาษณ์ในเวลาเดียวกันในทำนองว่า การแจกใบแดงใบเหลืองนั้นไม่ใช่สาระสำคัญอะไรนักหนา
อืมมม..กกต.ใหญ่ สมชัย จึงประเสริฐ ไปกินอะไรผิดสำแดงหรือเปล่าครับ???
นี่ยังไม่รวมถึงพฤติกรรมบางอย่างในที่ประชุม ที่มีข่าวแพลมๆ ออกมาว่า กกต.สมชัยออกอาการไม่พอใจอย่างออกนอกหน้า เมื่อถูก กกต.บางคนเสนอให้ กกต.อีก 4 คน เข้ามามีส่วนร่วมในการดูเรื่องร้องเรียน และดูแลสำนวนการสอบสวนสืบสวนเรื่องที่มีการร้องเรียนเข้ามา
เพราะมีการสงสัยว่า ทำไมสารพัดสำนวนมันไม่เรียบร้อย และอ่อนปวกเปียกไปเสียหมด จนกกต.ไม่อาจให้ใบเหลืองใบแดงก่อนการเลือกตั้งได้ แถมเจ้าหน้าที่ กกต.ในฝ่ายสืบสวนสอบสวน ที่ทั้งแอบและไม่แอบวางยา กักงานร้องเรียนให้ล่าช้า บางเรื่องหายไปอย่างไร้ร่องรอย ข่มขู่พยาน บิดเบือนสำนวน ทำสำนวนผิดให้ถูก ทำสำนวนให้อ่อน โอ้ย..สารพัดวิชามารที่คนเหล่านี้กระทำ
แต่คนเหล่านี้..กลับยังลอยหน้าลอยตามีอิทธิพล ไม่ถูกย้ายเลยครับ
นั่นจึงไม่น่าแปลกใจที่วันนี้ ประเทศไทยเรายังคงได้ว่าที่ ส.ส.หน้าเดิมๆ มีทั้งพวกฝักถั่ว พวกสากกะเบือ พวกไม่รู้ดีรู้ชั่ว พวกร่วมกระทำชั่ว พวกเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง อืมมม..กกต.สมชัยอยากให้คนพวกนี้นั่งใน “สภาที่ทรงเกียรติ” ก่อน แล้วค่อยสอยด้วยใบเหลืองใบแดงน่ะ..ถูกหรือ?
การให้ผู้สมัคร ส.ส.ที่มีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลเข้าสภาก่อนนั้น ก็เปรียบเสมือนให้โจรบุกเข้าบ้านก่อน..โจรที่มีปืนและอำนาจแลเห็นทรัพย์ศฤคาร โจรจะอดใจไม่ปล้นประชาชนได้หรือ? โถ..กกต.สมชัยคิดได้อย่างไร? คิด “เอาเนื้อไปฝากไว้กับเสือ” มีหรือเสือจะไม่ขย้ำกัดกินเนื้อ?
ผมต้องถือว่า..กกต.ชุดนี้ ทำงานไม่เข้าตาประชาชนครับ ระวัง..จะถูกโห่ฮาป่าและขับไล่เหมือน กกต.ยุควาสนานะครับ
จบเรื่อง กกต.มาเรื่องนี้ดีกว่า บัดนี้..พรรคพลังประชาชนแอบรวบรวมพรรคเล็กๆ ไว้ได้แล้ว พปช.ยอมให้ทั้งตำแหน่งและทุกอย่างกับบรรดาพรรคเหล่านี้ หากพรรคชาติไทยและเพื่อแผ่นดินไม่เข้าร่วมรัฐบาล พปช.จะฝืนตั้งรัฐบาลปริ่มน้ำที่ไร้เสถียรภาพทันที
รัฐบาลเฉพาะกิจนี้ไม่หวังอยู่นานครับ แต่มีภารกิจเฉพาะหน้าเพียงแค่ ใช้งบประมาณหลวงจัดโครงการที่ได้คะแนนเสียงลงสู่ประชาชน เน้นที่อีสานและภาคเหนือ คือ วางตัวบุคคลของ พปช.ไว้ในจุดสำคัญ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงที่ดูแลสื่อของรัฐ กระทรวงที่มีอิทธิพลและผลในทางบวกต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า
กระทรวงที่สำคัญที่สุดที่ต้องคุมไว้ในกำมือ คือ กระทรวงที่ดูแลตำรวจและทหารครับ
ตำรวจนั้นรู้ๆ กันมาแล้วสมัยทักษิณเรืองอำนาจ ว่าประเทศไทยกลายเป็นรัฐตำรวจไปเลยครับ ตำรวจทำทั้งข่มขู่และสกัดคู่แข่งทางการเมือง รวมทั้งบุคคลที่ไม่เห็นด้วยกับพวกตน
ทหาร คือ เป้าหมายสำคัญที่สุด เพราะรัฐบาล พปช.จะโยกย้ายทหาร ที่เคยทำรัฐประหารล้มรัฐบาลเก่า ก่อนจะตั้งทหารที่เป็นพรรคพวกอดีตนายกฯ ทักษิณและพวกพ้อง มาคุมกำลังสำคัญๆในกองทัพโดยเร็วที่สุด
รัฐบาล พปช.ที่จะอยู่ไม่นานนี้ หากมีสถานการณ์ไม่ดี..ก็จะยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เงินถุงเงินถังและระบบจัดการที่ดี จะนำ พปช.กลับเข้าสู่สภาอีกครั้งอย่างถล่มทลายครับ และหากทหารอีกฝ่ายหือ..หรือออกอาการไม่ดี ทหารของรัฐบาล พปช.อาจจะทำอะไร ที่พวกเราคาด (ถึง) ไม่ถึงก็ได้นะครับ
นี่ยังไม่รวมสถานการณ์หาก พปช.เป็นรัฐบาล ที่ คตส.และองค์กรอิสระมากมาย จะถูกกระทำไม่เหมาะไม่ควรกับนโยบายหลักของ พปช.นั่นคือ..ทวงความยุติธรรมคืนให้กับคนเพียงคนเดียวไงล่ะครับ
สถานการณ์อย่างนี้ ไม่ดีเลย..ไม่ดีจริงๆสำหรับบ้านนี้เมืองนี้ ผมยังมองไม่เห็นเลยว่าจะเกิดความสุขสงบ และความปรองดองทางการเมืองในประเทศนี้ได้อย่างไร?
นั่นคือ..วัฏจักรน้ำเน่าทางการเมืองของไทยแลนด์แดนสยามครับ อ้อ..บทความนี้ขอจบลงตรงที่ผมอยากให้ท่านผู้อ่านศึกษาการเมืองในประเทศเนปาลครับ..!!!