"หมัก"ส่งทนายยื้อยื่นชื่อพยานดับเพลิงฉาวหลังปีใหม่ อ้างติดวันหยุด เจอ"นาม"ติดเบรกห้ามเลื่อน เผย"หมัก" โบ้ยมหาดไทยสั่งให้ดำเนินการ ด้านโฆษก คตส. ยืดอกสู้"แม้ว" ยกรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ การันตีที่มาคตส. แจงทำงานคนละมาตรฐาน กับชุดยึดทรัพย์ของรสช. "ชลิต"ลั่นยุบคตส.ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อหมดวาระสามารถส่งเรื่องต่อให้อัยการสูงสุดดำเนินการต่อได้ ไม่ห่วงเรื่องถูกตามล้าง ท้าหากเห็นว่า คมช.ทำผิดก็เชิญมาเช็กบิลได้เลย
วานนี้ (26 ธ.ค.) นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่ทีมทนายความ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เตรียมยกปัญหาที่มาของ คตส.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเข้าต่อสู้ในชั้นศาล ว่า ยืนยันได้ว่าคตส. มีที่มาชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทั้งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 309 อีกทั้งการทำงานของ คตส.ก็ไม่เหมือนคณะกรรมการยึดทรัพย์ชุดรสช. ที่สั่งยึดทรัพย์เลยโดยไม่ผ่านศาล ทำให้ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยภายหลังให้คำสั่งยึดทรัพย์มิชอบ แต่การทำงานของ คตส.เป็นเพียงการตั้งกรรมการสอบคดีต่างๆ ไม่ได้ตัดสินยึดทรัพย์ หรือชี้ว่าใครผิด แต่จะส่งให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งหากทีมทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ จะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาต่อสู้ ก็สามารถทำได้ ซึ่งก็แล้วแต่ศาลจะตัดสิน
นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนคดีการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง กทม.ว่า ในวันนี้ (27 ธ.ค.) คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้นัดทนายความของนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาเข้ายื่นรายชื่อพยานบุคคล พร้อมประเด็นที่จะให้คณะอนุกรรมการไต่สวนสอบเพิ่ม แต่ถ้าทนายความจะขอเลื่อนออกไปอีก ก็คงจะไม่ได้ เพราะตามระเบียบจะให้เลื่อนได้ไม่เกิน 15 วัน และต้องมีเหตุผลควรเชื่อด้วย ทั้งนี้ จากการอ่านคำชี้แจงของนายสมัคร พบว่านายสมัคร อ้างเหตุผลหนึ่งว่า เป็นการทำตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย
นายนาม กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชน จะยุบคตส.ว่า ก็ดี ตนจะได้ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเครียด หากยุบจริงก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามขณะนี้บางทีตนก็รู้สึกเซ็งๆ เพราะบรรยากาศไม่ค่อยดี มันทำให้ไม่ค่อยกระฉับกระเฉง ดูแล้วบ้านเมืองจะไม่ค่อยสงบ แต่ก็ไม่รู้สึกกลัวอะไร ยังคงมุ่งหน้าทำงานตามปกติ การเปลี่ยนรัฐบาลไม่มีผลอะไรกับ คตส.
ด้าน นายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากนายสมัครให้ดูแลคดีรถดับเพลิง เปิดเผยว่า เบื้องต้นทีมทนายอาจจะเข้ายื่นหนังสือต่อ คตส. เพื่อขอเลื่อนการส่งรายชื่อและประเด็นกลุ่มแรกที่จะให้คตส.สอบเพิ่มเติม ไปในช่วงหลังปีใหม่ เนื่องจากในช่วงใกล้ปีใหม่มีวันหยุดหลายวัน ทำให้ยากต่อการติดต่อบุคคลต่างๆ แต่จากการประสานพยานบุคคล เบื้องต้นได้ให้การตอบรับว่าพร้อมให้ความร่วมมือ แต่ต้องพูดคุยกันในรายละเอียดเพิ่มเติมก่อน
พล.อ.อชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.และรักษาการประธานคมช. กล่าวถึงการทำงานของ คตส. ว่า คตส.เป็นหน่วยงานที่เราร้องขอให้ทุกท่านทำตามภาระหน้าที่ที่กำหนดในรัฐธรรมนูญปี 2549 เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในบ้านเมือง ทุกท่านคงต้องปฎิบัติตามกฎหมาย ไม่มีอะไรที่เกินเลย ดังนั้นทุกอย่างที่องค์กรนี้ดำเนินงานก็ทำตามภาระหน้าที่ให้กับประชาชน ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2550 กำหนดให้ คตส. สิ้นสุดการทำงานในเดือนมิ.ย.51 คือสะสางทุกเรื่องให้เรียบร้อย ซึ่งปฎิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ สิ่งใดเป็นความผิดไม่ถูกต้องก็ถูกดำเนินการ
การที่พรรคพลังประชาชนระบุว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะยุบ คตส. จะส่งผลกระทบต่อคดีที่ยังไม่เสร็จหรือไม่นั้น พล.อ.อ ชลิต กล่าวว่า เรื่องที่มีอยู่ คตส. จะส่งไปให้สำนักงานอัยการสูงสุด ถือเป็นภาระหน้าที่ของอัยการสูงสุดที่จะเป็นตัวแทนของชาติ ทำให้เรื่องต่างๆ เป็นไปตามระบบศาลยุติธรรมต่อไป
"ความนึกคิดแต่ละคนคงเป็นจุดขาย หรืออะไรแล้วแต่ ซึ่งการยุบ คตส. ไม่ใช่จะยุบง่ายๆ เพราะกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนมากกว่า 70 % ที่ไปลงประชามติให้ผ่าน เพราะหากจะยุบก็ต้องมีเหตุผล และความเหมาะสม" รักษาการประธานคมช. กล่าว
เมื่อถามว่า หากไม่มีการยุบ คตส. แต่เปลี่ยนตัวบุคคล จะทำได้หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า การแต่งตั้งเป็นภาระของคณะกรรมการสรรหา หรือของ ส.ว.และ ส.ส. ซึ่งมีคณะกรรมการเป็นไปตามระเบียบ ไม่มีปัญหาอะไร คนที่รับมอบหมายให้รับผิดชอบมาทำเรื่องนี้ ก็คงต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่เพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งต้องทำเพื่อสังคมและส่วนรวม
เมื่อถามว่า มองการจับขั้วของพรรคการเมืองที่ยังไม่มีความลงตัวอย่างไร พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า เป็นเรื่องของการเมืองผู้ที่อาสาเข้ามารับเลือกตั้ง ส่วนการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ส่วนเรื่องอื่นๆ คมช. คงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวให้การเมืองเข้าไปปรับแก้กันเอง ไม่มีปัญหา ทุกอย่างไม่มีอะไรอับจนในโลกนี้ ซึ่งคมช. จะไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่ใช่เรื่องของ คมช.
"เพราะคมช. ดูภาพรวมทั้งหมด ขณะนี้เกือบจะเสร็จครบตามเป้าหมายของ คมช. ที่ได้ตั้งไว้ เราสามารถทำการเลือกตั้งที่เรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรง แต่สิ่งที่ต้องการและคิดว่าเป็นความต้องการของประชาชนคือ ความบริสุทธิ์ยุติธรรมของการเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบเรื่องความถูกต้องว่ามีการกระทำสิ่งใดที่เป็นการเอาเปรียบและผิดกฎหมายหรือไม่ คงจะต้องไปว่ากัน"พล.อ.อ.ชลิต กล่าว
เมื่อถามว่า คมช. ห่วงถูกอำนาจเก่าเช็คบิลหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ตนไม่มีคำตอบ คิดว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้องให้กับประเทศ เราไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นว่าไปตามกฎหมาย คมช. ต้องรับผิดชอบในส่วนที่ คมช. ปฎิบัติในกรณีขององค์กรกลางหรือองค์กรต่างๆที่ คมช. แต่งตั้งได้ดำเนินการไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศในปี 2549 เป็นความรับผิดชอบของ คมช. ไม่ต้องไปเช็คบิลกับใคร ถ้าจะเช็คบิลก็มาเช็คบิลกับ คมช.
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไร ตอนที่เข้ามาปฎิวัติ และได้รับคำชื่นชม แต่ขณะนี้กำลังถูกโดดเดี่ยว พล.อ.อ ชลิต กล่าวว่า ไม่ได้ถูกโดดเดี่ยว ประชาชนกับสื่อคงจะเห็น และจะเป็นผู้ตัดสินว่า คมช. ทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง เมื่อถามว่า พรรคพลังประชาชนเหมาะสมที่จะเป็นรับบาลหรือไม่ พล.อ.อชลิต กล่าวว่า พรรคที่ได้เสียงข้างมากก็มีสิทธิทั้งนั้น
วานนี้ (26 ธ.ค.) นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่ทีมทนายความ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เตรียมยกปัญหาที่มาของ คตส.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเข้าต่อสู้ในชั้นศาล ว่า ยืนยันได้ว่าคตส. มีที่มาชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทั้งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 309 อีกทั้งการทำงานของ คตส.ก็ไม่เหมือนคณะกรรมการยึดทรัพย์ชุดรสช. ที่สั่งยึดทรัพย์เลยโดยไม่ผ่านศาล ทำให้ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยภายหลังให้คำสั่งยึดทรัพย์มิชอบ แต่การทำงานของ คตส.เป็นเพียงการตั้งกรรมการสอบคดีต่างๆ ไม่ได้ตัดสินยึดทรัพย์ หรือชี้ว่าใครผิด แต่จะส่งให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งหากทีมทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ จะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาต่อสู้ ก็สามารถทำได้ ซึ่งก็แล้วแต่ศาลจะตัดสิน
นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนคดีการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง กทม.ว่า ในวันนี้ (27 ธ.ค.) คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้นัดทนายความของนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาเข้ายื่นรายชื่อพยานบุคคล พร้อมประเด็นที่จะให้คณะอนุกรรมการไต่สวนสอบเพิ่ม แต่ถ้าทนายความจะขอเลื่อนออกไปอีก ก็คงจะไม่ได้ เพราะตามระเบียบจะให้เลื่อนได้ไม่เกิน 15 วัน และต้องมีเหตุผลควรเชื่อด้วย ทั้งนี้ จากการอ่านคำชี้แจงของนายสมัคร พบว่านายสมัคร อ้างเหตุผลหนึ่งว่า เป็นการทำตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย
นายนาม กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชน จะยุบคตส.ว่า ก็ดี ตนจะได้ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเครียด หากยุบจริงก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามขณะนี้บางทีตนก็รู้สึกเซ็งๆ เพราะบรรยากาศไม่ค่อยดี มันทำให้ไม่ค่อยกระฉับกระเฉง ดูแล้วบ้านเมืองจะไม่ค่อยสงบ แต่ก็ไม่รู้สึกกลัวอะไร ยังคงมุ่งหน้าทำงานตามปกติ การเปลี่ยนรัฐบาลไม่มีผลอะไรกับ คตส.
ด้าน นายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากนายสมัครให้ดูแลคดีรถดับเพลิง เปิดเผยว่า เบื้องต้นทีมทนายอาจจะเข้ายื่นหนังสือต่อ คตส. เพื่อขอเลื่อนการส่งรายชื่อและประเด็นกลุ่มแรกที่จะให้คตส.สอบเพิ่มเติม ไปในช่วงหลังปีใหม่ เนื่องจากในช่วงใกล้ปีใหม่มีวันหยุดหลายวัน ทำให้ยากต่อการติดต่อบุคคลต่างๆ แต่จากการประสานพยานบุคคล เบื้องต้นได้ให้การตอบรับว่าพร้อมให้ความร่วมมือ แต่ต้องพูดคุยกันในรายละเอียดเพิ่มเติมก่อน
พล.อ.อชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.และรักษาการประธานคมช. กล่าวถึงการทำงานของ คตส. ว่า คตส.เป็นหน่วยงานที่เราร้องขอให้ทุกท่านทำตามภาระหน้าที่ที่กำหนดในรัฐธรรมนูญปี 2549 เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในบ้านเมือง ทุกท่านคงต้องปฎิบัติตามกฎหมาย ไม่มีอะไรที่เกินเลย ดังนั้นทุกอย่างที่องค์กรนี้ดำเนินงานก็ทำตามภาระหน้าที่ให้กับประชาชน ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2550 กำหนดให้ คตส. สิ้นสุดการทำงานในเดือนมิ.ย.51 คือสะสางทุกเรื่องให้เรียบร้อย ซึ่งปฎิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ สิ่งใดเป็นความผิดไม่ถูกต้องก็ถูกดำเนินการ
การที่พรรคพลังประชาชนระบุว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะยุบ คตส. จะส่งผลกระทบต่อคดีที่ยังไม่เสร็จหรือไม่นั้น พล.อ.อ ชลิต กล่าวว่า เรื่องที่มีอยู่ คตส. จะส่งไปให้สำนักงานอัยการสูงสุด ถือเป็นภาระหน้าที่ของอัยการสูงสุดที่จะเป็นตัวแทนของชาติ ทำให้เรื่องต่างๆ เป็นไปตามระบบศาลยุติธรรมต่อไป
"ความนึกคิดแต่ละคนคงเป็นจุดขาย หรืออะไรแล้วแต่ ซึ่งการยุบ คตส. ไม่ใช่จะยุบง่ายๆ เพราะกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนมากกว่า 70 % ที่ไปลงประชามติให้ผ่าน เพราะหากจะยุบก็ต้องมีเหตุผล และความเหมาะสม" รักษาการประธานคมช. กล่าว
เมื่อถามว่า หากไม่มีการยุบ คตส. แต่เปลี่ยนตัวบุคคล จะทำได้หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า การแต่งตั้งเป็นภาระของคณะกรรมการสรรหา หรือของ ส.ว.และ ส.ส. ซึ่งมีคณะกรรมการเป็นไปตามระเบียบ ไม่มีปัญหาอะไร คนที่รับมอบหมายให้รับผิดชอบมาทำเรื่องนี้ ก็คงต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่เพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งต้องทำเพื่อสังคมและส่วนรวม
เมื่อถามว่า มองการจับขั้วของพรรคการเมืองที่ยังไม่มีความลงตัวอย่างไร พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า เป็นเรื่องของการเมืองผู้ที่อาสาเข้ามารับเลือกตั้ง ส่วนการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ส่วนเรื่องอื่นๆ คมช. คงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวให้การเมืองเข้าไปปรับแก้กันเอง ไม่มีปัญหา ทุกอย่างไม่มีอะไรอับจนในโลกนี้ ซึ่งคมช. จะไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่ใช่เรื่องของ คมช.
"เพราะคมช. ดูภาพรวมทั้งหมด ขณะนี้เกือบจะเสร็จครบตามเป้าหมายของ คมช. ที่ได้ตั้งไว้ เราสามารถทำการเลือกตั้งที่เรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรง แต่สิ่งที่ต้องการและคิดว่าเป็นความต้องการของประชาชนคือ ความบริสุทธิ์ยุติธรรมของการเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบเรื่องความถูกต้องว่ามีการกระทำสิ่งใดที่เป็นการเอาเปรียบและผิดกฎหมายหรือไม่ คงจะต้องไปว่ากัน"พล.อ.อ.ชลิต กล่าว
เมื่อถามว่า คมช. ห่วงถูกอำนาจเก่าเช็คบิลหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ตนไม่มีคำตอบ คิดว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้องให้กับประเทศ เราไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นว่าไปตามกฎหมาย คมช. ต้องรับผิดชอบในส่วนที่ คมช. ปฎิบัติในกรณีขององค์กรกลางหรือองค์กรต่างๆที่ คมช. แต่งตั้งได้ดำเนินการไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศในปี 2549 เป็นความรับผิดชอบของ คมช. ไม่ต้องไปเช็คบิลกับใคร ถ้าจะเช็คบิลก็มาเช็คบิลกับ คมช.
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไร ตอนที่เข้ามาปฎิวัติ และได้รับคำชื่นชม แต่ขณะนี้กำลังถูกโดดเดี่ยว พล.อ.อ ชลิต กล่าวว่า ไม่ได้ถูกโดดเดี่ยว ประชาชนกับสื่อคงจะเห็น และจะเป็นผู้ตัดสินว่า คมช. ทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง เมื่อถามว่า พรรคพลังประชาชนเหมาะสมที่จะเป็นรับบาลหรือไม่ พล.อ.อชลิต กล่าวว่า พรรคที่ได้เสียงข้างมากก็มีสิทธิทั้งนั้น