พล.อ. สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เปิดเผยภายหลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการที่พรรคพลังประชาชนได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ว่า เราคงต้องยอมรับผลการตัดสินใจของประชาชน ทางคมช. คงไม่ทำอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าการปฏิวัติ 1 ปีที่ผ่านมาประชาชนไม่ยอมรับ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ แต่อาจะเป็นเพราะ 1 ปีที่ผ่านมา เรามีเวลาน้อยในการอธิบายให้กับประชาชนได้เข้าใจสิ่งที่เราทำ แต่เราก็หวังว่ารัฐบาลที่เข้ามาจะมาดูแลปัญหาของประชาชน เช่นเรื่องปัญหาปากท้องประชาชน เศรษฐกิจ
**รัฐบาลใหม่ต้องไม่ใช่เพื่อแม้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ว่าพรรคพลังประชาชนจะมาแก้แค้น พล.อ..สมเจตน์ กล่าวว่า กลัวอะไร ตนไม่กลัว เพราะเราไม่ได้ทำในสิ่งที่ผิด จะต้องไปกลัวอะไร ถ้ากลัวแสดงว่าเราทำความผิด ตนจึงไม่กลัวว่าเขาจะมาแก้แค้น และ ตนไม่ห่วงว่าพรรคพลังประชาชนจะได้เป็นรัฐบาล แต่ขอให้เป็นรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่รัฐบาลของคนอื่น
เมื่อถามย้ำว่า เป็นรัฐบาลของคนอื่นหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช่หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ใช่ ไม่ใช่มาเป็นรัฐบาลในพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร สิ่งนี้ต่างหากที่เรากลัว กลัวว่ารัฐบาลใหม่จะทำอะไรเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ กลัวจะคิดตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ทำทุกอย่างตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สั่ง ตรงนี้ที่น่ากลัวมากกว่า แต่หากพรรคพลังประชาชนมาเป็นรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำอะไร เพื่อประเทศชาติ เราไม่กลัว
ต่อข้อถามว่า เกรงว่าจะเกิดความไม่สงบหลังการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เราคงต้องรอดูสถานการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม นี่คือการตัดสินใจของประชาชน ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีประชาชนที่ต่อต้านและสนับสนุนมาเผชิญหน้ากันทำให้เกิดการนองเลือด พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ตอนนี้เราก็จับตามองอยู่ แต่คิดว่าอาจจะไม่เกิด เราต้องติดตามสถานการณ์ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากเกิดขึ้นมาทหารจะเข้ามาควบคุมสถานกาณ์หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เราต้องรอดูสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไรเราถึงจะตอบได้ "เอาไว้ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน"
ผู้สื่อข่าวถามว่านายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน บอกว่า หากได้เป็นที่ 1 จะนำพ.ต.ท. ทักษิณ กลับมา พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เห็นหรือไม่ว่า เขาเป็นรัฐบาลของใคร และที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กลับมาแล้วบอกว่ากลัวจะไม่ปลอดภัยนั้น ตนว่าเขาคิดไปเอง พูดเอง เออเอง ทำไมเขาจะกลับมาไม่ได้ เราอยากให้เขากลับมาสู้คดีตั้งนานแล้ว เขาไม่กลับมาเองต่างหาก เมื่อถามว่า ทหารต้องดูแลความปลอดภัยให้หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า การดูแลความปลอดภัยไม่ใช่หน้าที่ของทหาร แต่เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนที่กลัวว่าไม่ปลอดภัยเขาคิดไปเอง ของอย่างนี้พูดเองเออเอได้ ทหารต้องดูแลความปลอดภั้ยหรือไม่ พล.อ. สมเจตน์ กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของทหาร เป็นหน้าที่ของทางตำรวจ
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และรักษาการประธาน คมช. กล่าวว่า ผลการทำปฏิรูปการปกครองตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.49 มาถึงวันนี้ ที่มีการเลือกตั้งรู้สึกว่าน่าจะพอใจ ซึ่งจุดเริ่มต้นนั้น คมช. ต้องการยุติคณะบริหารประเทศ เนื่องจากมีการบริหารงานที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งเรามีการแก้รัฐธรรมนูญที่มีข้อบกพร่อง เพื่อไม่ต้องการให้คนใช้ช่องว่างของกฎหมายเป็นผลประโยชน์ของคนกลุ่มหนึ่ง
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง จะเกิดเหตุวุ่นวายหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า อย่าไปมองในแง่ร้าย เป็นเรื่องของประชาชน ไม่ใช่ คมช. ใครได้ฉันทานุมัติก็ให้เขาได้ทำหน้าที่ ส่วนคมช. ก็จะหมดภาระหน้าที่ไปตามวาระ เมื่อถามว่า ไม่มีการปฏิวัติซ้ำหลังเลือกตั้ง พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่มีมูลเหตุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากประชาชนส่วนหนึ่งไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ออกมาเคลื่อนไหวจะเกิดเหตุวุ่นวายหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า เราทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎ กติกา และยอมรับเสียงข้างมากที่ได้รับจากประชาชน
เมื่อถามว่า แกนนำพรรคพลังประชาชนระบุว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศในวันที่ 14 ก.พ .51 ทาง คมช. ยินดีให้กลับหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่สนใจ ความจริงควรมาก่อนเวลานั้นด้วยซ้ำ เพื่อมาต้อสู้ข้อกล่าวหา คมช. ไม่ห้ามที่จะให้กลับประเทศ ส่วนการเดินทางกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะส่งผลกระทบต่อการเมืองหรือไม่นั้น ก็อาจจะมี เพราะไม่ว่าพรรคการเมืองใด ก็ต้องการคะแนนเสียง
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และสมาชิก คมช. กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท. ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยว่า ไม่น่าห่วงอะไร เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน และมีเจ้าหน้าที่หลายสายงาน ดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว และถ้าทุกคนทำตามหน้าที่ของตัวเอง เชื่อว่า สถานการณ์หลังเลือกตั้งจะไม่มีอะไรวุ่นวาย
" ยิ่งเวลาคนกลัวความไม่สงบ จะยิ่งสงบดี โดยมากเหตุร้ายจะไม่เกิดในช่วงเวลาที่คนกลัว เหตุร้ายจะเกิดขึ้นช่วงที่คนเผลอ ดังนั้นไม่มีอะไร เมื่อทุกคนกลัวแล้วมันจะไม่เกิด แต่เจ้าหน้าที่ประมาทไม่ได้ ต้องพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ" พล.อ.บุญสร้าง กล่าว และว่าจนถึงขณะนี้ ไม่มีรายงานการก่อเหตุความไม่สงบในช่วงใกล้ปีใหม่ แต่กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว
ในฐานะที่เป็นสมาชิก คมช. เกรงหรือไม่ว่า กลุ่มอำนาจเก่าจะกลับมาเช็กบิล พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ยินดี คนที่ไม่มีอะไร ก็ไม่กลัวอะไร หลายคนจะได้มีโอกาสชี้แจง และขอยืนยันว่า การทำหน้าที่ที่ผ่านมาเป็นไปตามกฎหมาย
พล.อ. วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการ คมช. กล่าวถึง กรณีหลังการเลือกตั้งสถานการณ์จะวุ่นวาย มีการแบ่งแยกทางความคิดว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่คิดว่าทุกคนจะเห็นแก่ความสงบเรียบร้อยของประเทศเป็นที่ตั้ง จึงไม่น่าจะมีอะไรมาก
พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกคนอยากให้มีการเลือกตั้ง แต่เมื่อผ่านวันนี้ไปแล้ว ก็เป็นเรื่องของ กกต. ที่ว่าจะสามารถเปิดสภาได้ภายใน 30 วัน จะเร็วหรือช้าอย่างไร นี้ก็เป็นจุดหนึ่ง เพราะต้องมีเรื่องที่รอคอยกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใบเหลืองใบแดง คดียุบพรรค ซึ่งเป็นเรื่องของ กกต. อยากให้ทุกฝ่ายยึดและเคารพกติกาต่างๆ ตนเชื่อมั่นว่าต้องมีหลักฐานจริงๆ ถึงจะตัดสินอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจเกิดความวุ่นวาย แต่ถ้าประชาชนน้อมนำพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวมาใส่เกล้าใส่กระหม่อม ปฎิบัติตาม จะทำให้ลดกระแสลงไปบ้าง
ส่วนผลการเลือกตั้งที่ออกมาจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่นั้น พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ทุกพรรคได้พูดออกมาแล้วว่า จะยอมรับผลการเลือกตั้ง จึงอยากฝากเอาไว้ว่า ปากกับใจให้ตรงหัน ไม่ใช่พูดออกมาแล้วมาทีหลังไม่ยอมรับ ถือว่าปากกับใจไม่ตรงกัน ก็ฝากไปถึงพรรคการเมืองว่า ผลออกมาอย่างไรต้องยอมรับ และให้อยู่ในวิจารณญาณในการจับกลุ่มจัดตั้งรัฐบาล เพราะทุกคนก็เข้าใจดีแล้วว่า ถ้าต้องการให้บ้านเมืองก้าวหน้าไปได้ด้วยความสงบสุขควรจะทำอย่างไร
**คาด7 ก.พ. 51 ครม.ใหม่ถวายสัตย์ฯ
เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรกับรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ยังไม่ฝาก เอาไว้ให้เปิดสภาได้ก่อนและมีการตั้งรัฐบาลได้และวันที่ 7 ก.พ. ตรงกับวันพฤหัสบดี เป็นวันที่รัฐบาลใหม่ นำรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฎิญาณตน เป็นวันนั้นที่ทางรัฐบาลจะจบภารกิจ และรัฐบาลได้เตรียมเอกสารของคณะรัฐมนตรีที่ทำเอาไว้ของกระทรวงต่างๆ เป็นเรื่องผลงานให้รัฐบาลใหม่มาศึกษาว่าสิ่งใดควรดำเนินต่อไป หรือควรจะมีใหม่ นอกจากนั้นรัฐบาลก็จะทำสรุปผลงานเป็นเล่มเล็กๆ ที่อ่านแล้วเข้าใจว่าในช่วงที่เข้ามาดำเนินงานมีผลงานคืบหน้าอย่างไรและฝากในนามรัฐบาลเก่าไปยังรัฐบาลใหม่ต่อไป
เมื่อถามว่า จากนี้ไปจะมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าทางฝ่ายข้าราชการ พลเรือน ตำรวจทหารที่ได้รับฟังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลายโอกาส พยายามที่จะตั้งมั่นอยู่ในผลประโยชน์ของชาติยึดถือความมั่นคงของชาติเป็นหลักเพราะฉะนั้นสิ่งที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายเราก็ไม่พึงประสงค์ ไม่ต้องการให้เกิด
ต่อข้อถามว่าจะมีกี่เปอร์เซ็นที่จะนำไปสู่การปะทะกัน พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ยากที่จะพยากรณ์ เพราะว่าต้องดูว่าวันนี้ผ่านพ้นไป และคืนนี้จะมีเรื่องอะไรบ้างที่จออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง ใบเหลืองใบแดง การกล่าวโทษคนนั้นคนนี้ ซึ่งทาง กกต. จะต้องทำงานหนัก ถ้า กกต. มีคุณธรรม นำพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวเรื่องความเที่ยงตรงก็จะทำให้ประเทศชาติผ่านเรื่องนี้ไปได้ ซึ่งตนเชื่อว่า จะต้องผ่านไปได้ เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวออกมาพูดหลายโอกาส ส่วนใหญ่นำไปปฎิบัติกันทั้งนี้
เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งจะมีการเมืองภาคประชาชนมาเคลื่อนไหวมากขึ้น หรือไม่ พล.อ บุญรอด กล่าวว่า มันก็มีทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายไหนชนะ อีกฝ่ายก็ไม่ค่อยพอใจ เป็นธรรมดาขึ้นอยู่กับการประชาสัมพันธ์ การรณรงค์ต่อเนื่องกันไปอีก
**เงินยังเป็นปัจจัยชี้ขาดทางการเมือง
เมื่อถามย้ำว่า จะเกิดการปะทะกันจนทำให้ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินหรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า เราไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่กับประชาชน กับสื่อมวลชนว่ามาถึงจุดนี้แล้วควรจะทำอย่างไร ถ้าใครทำไม่ดี ก็จะเห็นว่าเป็นคนไม่ดี ทั้งนี้ประชาชนจะต้องยอมรับผลที่ออกมา ซึ่งประชาชนธรรมดาทั่วไปไม่มีอะไร เพราะเลือกตั้งจบก็จบไป แต่ผู้แทนที่มีความหวังมากกว่านั้นต้องลดทิฐิ ลดอคติลงมา ถึง จะเกิดความปรองดองสมานฉันท์กันได้ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย จะต้องมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป ถ้าหากทำอะไรที่รุนแรงเลือดตกยางออกมันคงไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว
"ผมยังเชื่อว่า ประชาชนมีสติ และการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคการเมืองแสดงวิสัยทัศน์มาเยอะ เราจะเห็นได้ว่า ใครเป็นคนดี หรือคนไม่ดี ก็ต้องว่าไปตามนั้น ต่อไปก็เป็นเรื่องของ กกต. ในส่วนของผมก็ภาวนาไม่ให้เกิดอะไรขึ้น แต่รัฐบาลนี้จะอยู่เลยกว่ากำหนดที่คิดกันไว้ว่าประมาณ 7 ก.พ. หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับ ใบแดง และขึ้นอยู่กับผลการสอบสวนของ กกต. ที่เห็นว่าวันนี้เขาบอกว่ามีข้อมูลหลักฐานเป็นสิบๆ อย่างคดียุบพรรคฯ ที่เขาบอกว่าประมาณ 1 เดือน ก็ประมาณช่วงเดือนหน้า ก็น่าจะมีอะไรความคืบหน้า แต่ถ้าผ่านทุกอย่างได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร"
เมื่อถามว่า เงินเป็นปัจจัยสำคัญหรือไม่ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ก็ยังเป็นอยู่ อย่างที่สุภาษิตที่เขาบอกว่า เงินสามารถง้างทุกสิ่งทุกอย่างได้ เคยได้ยินหรือเปล่าว่า เงินจ้างผีโม่แป้งได้ ทั้งที่จริงๆ ผีไม่มี ขนาดไม่มียังจ้างผีไปโม่ได้
**ผบ.ทบ.ยันไม่มีใบสั่งให้ทหารเลือกใคร
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหาร (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการนำคลิปเสียงของผู้บังคับการกรม และ ผู้บังคับกองพัน ที่พูดกับกำลังพลภายในกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ให้ไปเลือกพรรคประชาธิปัตย์ มาเผยแพร่ในเว็บไซต์ ว่า ทราบเพียงข่าว แต่ยังไม่เห็นรายละเอียด และหากพบว่ามีจริง ก็ต้องมีการสอบสวน ขณะนี้ยังไม่เห็น คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่รายงานมาก่อจึงจะดำเนินการได้
เมื่อถามว่าได้มีการสั่งการให้ทำเช่นนั้นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มีการสั่งการ และอย่าพูดอย่างนั้น กองทัพมีคำสั่งแน่ชัดว่าให้ทหารวางตัวเป็นกลาง
**อย่าเอาเรื่องทุจริตมาอ้างล้มเลือกตั้ง
นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานสภานิติบัญญัติ กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนไม่ห่วงว่า หากพรรคพลังประชาชนได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และจะทำให้สถานการณ์การเมืองเกิดความวุ่นวาย นอกจากนี้ ตนทราบมาว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีปัญหาเรื่องการทุจริตค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะตรวจสอบเอาผิดกับผู้ดำเนินการ ซึ่งอยากเรียกร้องว่า อย่านำปัญหาเรื่องการทุจริตมาเป็นข้ออ้างว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สุจริต ยุติธรรม
นายมีชัย ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของ สนช.หลังจากมีสภาผู้แทนราษฏรว่า หลังจากนี้ สนช.จะแปรสภาพมาเป็นวุฒิสภา และจะทำหน้าที่เพื่อรอเปิดสภา และรัฐบาลแถลงนโยบาย และช่วงระยะเวลานี้ สนช.ยังคงทำหน้าที่แค่พิจารณาเรื่องราวต่างๆ เท่านั้น และเมื่อรัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จแล้ว อาจมีการส่งร่างกฎหมายมาให้พิจารณา แต่ทั้งนี้ ต้องผ่านการพิจารณาของสภาก่อน และเชื่อว่าเมื่อมีวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว เราก็คงจะหมดหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าการปฏิวัติ 1 ปีที่ผ่านมาประชาชนไม่ยอมรับ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ แต่อาจะเป็นเพราะ 1 ปีที่ผ่านมา เรามีเวลาน้อยในการอธิบายให้กับประชาชนได้เข้าใจสิ่งที่เราทำ แต่เราก็หวังว่ารัฐบาลที่เข้ามาจะมาดูแลปัญหาของประชาชน เช่นเรื่องปัญหาปากท้องประชาชน เศรษฐกิจ
**รัฐบาลใหม่ต้องไม่ใช่เพื่อแม้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ว่าพรรคพลังประชาชนจะมาแก้แค้น พล.อ..สมเจตน์ กล่าวว่า กลัวอะไร ตนไม่กลัว เพราะเราไม่ได้ทำในสิ่งที่ผิด จะต้องไปกลัวอะไร ถ้ากลัวแสดงว่าเราทำความผิด ตนจึงไม่กลัวว่าเขาจะมาแก้แค้น และ ตนไม่ห่วงว่าพรรคพลังประชาชนจะได้เป็นรัฐบาล แต่ขอให้เป็นรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่รัฐบาลของคนอื่น
เมื่อถามย้ำว่า เป็นรัฐบาลของคนอื่นหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช่หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ใช่ ไม่ใช่มาเป็นรัฐบาลในพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร สิ่งนี้ต่างหากที่เรากลัว กลัวว่ารัฐบาลใหม่จะทำอะไรเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ กลัวจะคิดตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ทำทุกอย่างตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สั่ง ตรงนี้ที่น่ากลัวมากกว่า แต่หากพรรคพลังประชาชนมาเป็นรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำอะไร เพื่อประเทศชาติ เราไม่กลัว
ต่อข้อถามว่า เกรงว่าจะเกิดความไม่สงบหลังการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เราคงต้องรอดูสถานการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม นี่คือการตัดสินใจของประชาชน ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีประชาชนที่ต่อต้านและสนับสนุนมาเผชิญหน้ากันทำให้เกิดการนองเลือด พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ตอนนี้เราก็จับตามองอยู่ แต่คิดว่าอาจจะไม่เกิด เราต้องติดตามสถานการณ์ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากเกิดขึ้นมาทหารจะเข้ามาควบคุมสถานกาณ์หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เราต้องรอดูสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไรเราถึงจะตอบได้ "เอาไว้ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน"
ผู้สื่อข่าวถามว่านายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน บอกว่า หากได้เป็นที่ 1 จะนำพ.ต.ท. ทักษิณ กลับมา พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เห็นหรือไม่ว่า เขาเป็นรัฐบาลของใคร และที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กลับมาแล้วบอกว่ากลัวจะไม่ปลอดภัยนั้น ตนว่าเขาคิดไปเอง พูดเอง เออเอง ทำไมเขาจะกลับมาไม่ได้ เราอยากให้เขากลับมาสู้คดีตั้งนานแล้ว เขาไม่กลับมาเองต่างหาก เมื่อถามว่า ทหารต้องดูแลความปลอดภัยให้หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า การดูแลความปลอดภัยไม่ใช่หน้าที่ของทหาร แต่เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนที่กลัวว่าไม่ปลอดภัยเขาคิดไปเอง ของอย่างนี้พูดเองเออเอได้ ทหารต้องดูแลความปลอดภั้ยหรือไม่ พล.อ. สมเจตน์ กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของทหาร เป็นหน้าที่ของทางตำรวจ
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และรักษาการประธาน คมช. กล่าวว่า ผลการทำปฏิรูปการปกครองตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.49 มาถึงวันนี้ ที่มีการเลือกตั้งรู้สึกว่าน่าจะพอใจ ซึ่งจุดเริ่มต้นนั้น คมช. ต้องการยุติคณะบริหารประเทศ เนื่องจากมีการบริหารงานที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งเรามีการแก้รัฐธรรมนูญที่มีข้อบกพร่อง เพื่อไม่ต้องการให้คนใช้ช่องว่างของกฎหมายเป็นผลประโยชน์ของคนกลุ่มหนึ่ง
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง จะเกิดเหตุวุ่นวายหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า อย่าไปมองในแง่ร้าย เป็นเรื่องของประชาชน ไม่ใช่ คมช. ใครได้ฉันทานุมัติก็ให้เขาได้ทำหน้าที่ ส่วนคมช. ก็จะหมดภาระหน้าที่ไปตามวาระ เมื่อถามว่า ไม่มีการปฏิวัติซ้ำหลังเลือกตั้ง พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่มีมูลเหตุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากประชาชนส่วนหนึ่งไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ออกมาเคลื่อนไหวจะเกิดเหตุวุ่นวายหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า เราทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎ กติกา และยอมรับเสียงข้างมากที่ได้รับจากประชาชน
เมื่อถามว่า แกนนำพรรคพลังประชาชนระบุว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศในวันที่ 14 ก.พ .51 ทาง คมช. ยินดีให้กลับหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่สนใจ ความจริงควรมาก่อนเวลานั้นด้วยซ้ำ เพื่อมาต้อสู้ข้อกล่าวหา คมช. ไม่ห้ามที่จะให้กลับประเทศ ส่วนการเดินทางกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะส่งผลกระทบต่อการเมืองหรือไม่นั้น ก็อาจจะมี เพราะไม่ว่าพรรคการเมืองใด ก็ต้องการคะแนนเสียง
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และสมาชิก คมช. กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท. ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยว่า ไม่น่าห่วงอะไร เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน และมีเจ้าหน้าที่หลายสายงาน ดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว และถ้าทุกคนทำตามหน้าที่ของตัวเอง เชื่อว่า สถานการณ์หลังเลือกตั้งจะไม่มีอะไรวุ่นวาย
" ยิ่งเวลาคนกลัวความไม่สงบ จะยิ่งสงบดี โดยมากเหตุร้ายจะไม่เกิดในช่วงเวลาที่คนกลัว เหตุร้ายจะเกิดขึ้นช่วงที่คนเผลอ ดังนั้นไม่มีอะไร เมื่อทุกคนกลัวแล้วมันจะไม่เกิด แต่เจ้าหน้าที่ประมาทไม่ได้ ต้องพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ" พล.อ.บุญสร้าง กล่าว และว่าจนถึงขณะนี้ ไม่มีรายงานการก่อเหตุความไม่สงบในช่วงใกล้ปีใหม่ แต่กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว
ในฐานะที่เป็นสมาชิก คมช. เกรงหรือไม่ว่า กลุ่มอำนาจเก่าจะกลับมาเช็กบิล พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ยินดี คนที่ไม่มีอะไร ก็ไม่กลัวอะไร หลายคนจะได้มีโอกาสชี้แจง และขอยืนยันว่า การทำหน้าที่ที่ผ่านมาเป็นไปตามกฎหมาย
พล.อ. วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการ คมช. กล่าวถึง กรณีหลังการเลือกตั้งสถานการณ์จะวุ่นวาย มีการแบ่งแยกทางความคิดว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่คิดว่าทุกคนจะเห็นแก่ความสงบเรียบร้อยของประเทศเป็นที่ตั้ง จึงไม่น่าจะมีอะไรมาก
พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกคนอยากให้มีการเลือกตั้ง แต่เมื่อผ่านวันนี้ไปแล้ว ก็เป็นเรื่องของ กกต. ที่ว่าจะสามารถเปิดสภาได้ภายใน 30 วัน จะเร็วหรือช้าอย่างไร นี้ก็เป็นจุดหนึ่ง เพราะต้องมีเรื่องที่รอคอยกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใบเหลืองใบแดง คดียุบพรรค ซึ่งเป็นเรื่องของ กกต. อยากให้ทุกฝ่ายยึดและเคารพกติกาต่างๆ ตนเชื่อมั่นว่าต้องมีหลักฐานจริงๆ ถึงจะตัดสินอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจเกิดความวุ่นวาย แต่ถ้าประชาชนน้อมนำพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวมาใส่เกล้าใส่กระหม่อม ปฎิบัติตาม จะทำให้ลดกระแสลงไปบ้าง
ส่วนผลการเลือกตั้งที่ออกมาจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่นั้น พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ทุกพรรคได้พูดออกมาแล้วว่า จะยอมรับผลการเลือกตั้ง จึงอยากฝากเอาไว้ว่า ปากกับใจให้ตรงหัน ไม่ใช่พูดออกมาแล้วมาทีหลังไม่ยอมรับ ถือว่าปากกับใจไม่ตรงกัน ก็ฝากไปถึงพรรคการเมืองว่า ผลออกมาอย่างไรต้องยอมรับ และให้อยู่ในวิจารณญาณในการจับกลุ่มจัดตั้งรัฐบาล เพราะทุกคนก็เข้าใจดีแล้วว่า ถ้าต้องการให้บ้านเมืองก้าวหน้าไปได้ด้วยความสงบสุขควรจะทำอย่างไร
**คาด7 ก.พ. 51 ครม.ใหม่ถวายสัตย์ฯ
เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรกับรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ยังไม่ฝาก เอาไว้ให้เปิดสภาได้ก่อนและมีการตั้งรัฐบาลได้และวันที่ 7 ก.พ. ตรงกับวันพฤหัสบดี เป็นวันที่รัฐบาลใหม่ นำรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฎิญาณตน เป็นวันนั้นที่ทางรัฐบาลจะจบภารกิจ และรัฐบาลได้เตรียมเอกสารของคณะรัฐมนตรีที่ทำเอาไว้ของกระทรวงต่างๆ เป็นเรื่องผลงานให้รัฐบาลใหม่มาศึกษาว่าสิ่งใดควรดำเนินต่อไป หรือควรจะมีใหม่ นอกจากนั้นรัฐบาลก็จะทำสรุปผลงานเป็นเล่มเล็กๆ ที่อ่านแล้วเข้าใจว่าในช่วงที่เข้ามาดำเนินงานมีผลงานคืบหน้าอย่างไรและฝากในนามรัฐบาลเก่าไปยังรัฐบาลใหม่ต่อไป
เมื่อถามว่า จากนี้ไปจะมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าทางฝ่ายข้าราชการ พลเรือน ตำรวจทหารที่ได้รับฟังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลายโอกาส พยายามที่จะตั้งมั่นอยู่ในผลประโยชน์ของชาติยึดถือความมั่นคงของชาติเป็นหลักเพราะฉะนั้นสิ่งที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายเราก็ไม่พึงประสงค์ ไม่ต้องการให้เกิด
ต่อข้อถามว่าจะมีกี่เปอร์เซ็นที่จะนำไปสู่การปะทะกัน พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ยากที่จะพยากรณ์ เพราะว่าต้องดูว่าวันนี้ผ่านพ้นไป และคืนนี้จะมีเรื่องอะไรบ้างที่จออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง ใบเหลืองใบแดง การกล่าวโทษคนนั้นคนนี้ ซึ่งทาง กกต. จะต้องทำงานหนัก ถ้า กกต. มีคุณธรรม นำพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวเรื่องความเที่ยงตรงก็จะทำให้ประเทศชาติผ่านเรื่องนี้ไปได้ ซึ่งตนเชื่อว่า จะต้องผ่านไปได้ เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวออกมาพูดหลายโอกาส ส่วนใหญ่นำไปปฎิบัติกันทั้งนี้
เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งจะมีการเมืองภาคประชาชนมาเคลื่อนไหวมากขึ้น หรือไม่ พล.อ บุญรอด กล่าวว่า มันก็มีทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายไหนชนะ อีกฝ่ายก็ไม่ค่อยพอใจ เป็นธรรมดาขึ้นอยู่กับการประชาสัมพันธ์ การรณรงค์ต่อเนื่องกันไปอีก
**เงินยังเป็นปัจจัยชี้ขาดทางการเมือง
เมื่อถามย้ำว่า จะเกิดการปะทะกันจนทำให้ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินหรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า เราไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่กับประชาชน กับสื่อมวลชนว่ามาถึงจุดนี้แล้วควรจะทำอย่างไร ถ้าใครทำไม่ดี ก็จะเห็นว่าเป็นคนไม่ดี ทั้งนี้ประชาชนจะต้องยอมรับผลที่ออกมา ซึ่งประชาชนธรรมดาทั่วไปไม่มีอะไร เพราะเลือกตั้งจบก็จบไป แต่ผู้แทนที่มีความหวังมากกว่านั้นต้องลดทิฐิ ลดอคติลงมา ถึง จะเกิดความปรองดองสมานฉันท์กันได้ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย จะต้องมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป ถ้าหากทำอะไรที่รุนแรงเลือดตกยางออกมันคงไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว
"ผมยังเชื่อว่า ประชาชนมีสติ และการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคการเมืองแสดงวิสัยทัศน์มาเยอะ เราจะเห็นได้ว่า ใครเป็นคนดี หรือคนไม่ดี ก็ต้องว่าไปตามนั้น ต่อไปก็เป็นเรื่องของ กกต. ในส่วนของผมก็ภาวนาไม่ให้เกิดอะไรขึ้น แต่รัฐบาลนี้จะอยู่เลยกว่ากำหนดที่คิดกันไว้ว่าประมาณ 7 ก.พ. หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับ ใบแดง และขึ้นอยู่กับผลการสอบสวนของ กกต. ที่เห็นว่าวันนี้เขาบอกว่ามีข้อมูลหลักฐานเป็นสิบๆ อย่างคดียุบพรรคฯ ที่เขาบอกว่าประมาณ 1 เดือน ก็ประมาณช่วงเดือนหน้า ก็น่าจะมีอะไรความคืบหน้า แต่ถ้าผ่านทุกอย่างได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร"
เมื่อถามว่า เงินเป็นปัจจัยสำคัญหรือไม่ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ก็ยังเป็นอยู่ อย่างที่สุภาษิตที่เขาบอกว่า เงินสามารถง้างทุกสิ่งทุกอย่างได้ เคยได้ยินหรือเปล่าว่า เงินจ้างผีโม่แป้งได้ ทั้งที่จริงๆ ผีไม่มี ขนาดไม่มียังจ้างผีไปโม่ได้
**ผบ.ทบ.ยันไม่มีใบสั่งให้ทหารเลือกใคร
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหาร (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการนำคลิปเสียงของผู้บังคับการกรม และ ผู้บังคับกองพัน ที่พูดกับกำลังพลภายในกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ให้ไปเลือกพรรคประชาธิปัตย์ มาเผยแพร่ในเว็บไซต์ ว่า ทราบเพียงข่าว แต่ยังไม่เห็นรายละเอียด และหากพบว่ามีจริง ก็ต้องมีการสอบสวน ขณะนี้ยังไม่เห็น คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่รายงานมาก่อจึงจะดำเนินการได้
เมื่อถามว่าได้มีการสั่งการให้ทำเช่นนั้นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มีการสั่งการ และอย่าพูดอย่างนั้น กองทัพมีคำสั่งแน่ชัดว่าให้ทหารวางตัวเป็นกลาง
**อย่าเอาเรื่องทุจริตมาอ้างล้มเลือกตั้ง
นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานสภานิติบัญญัติ กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนไม่ห่วงว่า หากพรรคพลังประชาชนได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และจะทำให้สถานการณ์การเมืองเกิดความวุ่นวาย นอกจากนี้ ตนทราบมาว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีปัญหาเรื่องการทุจริตค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะตรวจสอบเอาผิดกับผู้ดำเนินการ ซึ่งอยากเรียกร้องว่า อย่านำปัญหาเรื่องการทุจริตมาเป็นข้ออ้างว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สุจริต ยุติธรรม
นายมีชัย ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของ สนช.หลังจากมีสภาผู้แทนราษฏรว่า หลังจากนี้ สนช.จะแปรสภาพมาเป็นวุฒิสภา และจะทำหน้าที่เพื่อรอเปิดสภา และรัฐบาลแถลงนโยบาย และช่วงระยะเวลานี้ สนช.ยังคงทำหน้าที่แค่พิจารณาเรื่องราวต่างๆ เท่านั้น และเมื่อรัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จแล้ว อาจมีการส่งร่างกฎหมายมาให้พิจารณา แต่ทั้งนี้ ต้องผ่านการพิจารณาของสภาก่อน และเชื่อว่าเมื่อมีวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว เราก็คงจะหมดหน้าที่