“ดีเอสไอ” เตรียมส่งหลักฐานที่ร่วมสืบสวนกับเอฟบีไอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ พร้อมสอบสวนคดีฮั้วประมูลจัดงาน บางกอกฟิล์ม ด้านททท.ระบุคดีรับสินบน”จุฑามาศ” ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กร อ้างเป็นเรื่องส่วนบุคคล เผยททท.ใช้วิธี “จ้างที่ปรึกษาด้วยวิธีตกลง” จึงเกิดปัญหา จุฑามาศ “ไขก๊อก” จากสมาชิกพรรค “เพื่อแผ่นดิน” กรณี “สินบน ททท. 60 ล้าน” โฆษกพรรค ปฏิเสธ ไม่อยากมองเป็นเรื่องทางการเมือง "หมอเลี๊ยบ" มั่นใจไม่กระทบ พปช.อ้างอดีต รมต.ท่องเที่ยว ย้ายไปอยู่พรรคอื่นหมด "สุรยุทธ์" ลั่นกรณี"จุฑามาศ" ต้องดำเนินการตามกฎหมาย “สุเมธ”ระบุ จุฑามาศ ลาออกจากสมาชิกทำให้ขาดคุณสมบัติเป็นผู้สมัคร
วานนี้ (20 ธ.ค.) นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีนักธุรกิจชาวอเมริกัน ติดสินบนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการจัดงานบางกอกฟิล์ม เฟสติวัล อินเตอร์เนชั่นแนล ว่า ในเบื้องต้นคดีเจ้าพนักงานของรัฐรับสินบนไม่อยู่ในอำนาจการสอบสวนของดีเอสไอ การดำเนินการที่ผ่านมาของดีเอสไอ เป็นการให้ความร่วมมือกับเอฟบีไอ
ทั้งนี้ เมื่อมีการจับกุมดำเนินคดีในสหรัฐฯ และคดีเกี่ยวพันถึงผู้บริหารระดับสูง ททท.ดีเอสไอจะเร่งตรวจสอบว่าผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งเกิน 2 ปีหรือไม่ หากไม่เกินเป็นอำนาจของ ป.ป.ช.อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะเร่งตรวจสอบรายละเอียดว่า บริษัท บางกอกฟิล์ม มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อรัฐ (ฮั้วประมูล) หรือไม่ เนื่องจากบริษัทดังกล่าวได้รับว่าจ้างให้เป็นผู้จัดงานบางกอกฟิล์มทุกปี ดังนั้น จะต้องตรวจสอบว่า ขั้นตอนการประมูลเป็นอย่างไร และมีการเสนอราคาเบื้องต้นอย่างไร แต่ในชั้นนี้ ดีเอสไอยังไม่มีอำนาจเรียกบุคคลใดเข้าให้การ จนกว่าจะได้หลักฐานชัดเจนว่ามีการฮั้วประมูล
นายสุนัย กล่าวว่า ตนได้หารือกับ นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.โดยดีเอสไอ จะจัดส่งข้อมูลที่ได้สืบสวนร่วมกับเอฟบีไอให้ ป.ป.ช.รับไปดำเนินการ ซึ่งเป็นอำนาจของ ป.ป.ช.ที่จะขอให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมเป็นคณะอนุกรรมการสอบสวนความผิดดังกล่าว
พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ส่วนคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบร่วมกับเอฟบีไอยังไม่พบว่ามีข้อมูลที่ชี้ชัดว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยการกระทำความผิด ดังนั้น จึงต้องสืบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงมากขึ้น
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยินดีช่วยเหลือ ในการเป็นสื่อกลางประสานขอข้อมูลจาก หน่วยงานตำรวจสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ของสหรัฐ โดยใช้ช่องทางของตำรวจสากล หากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องการข้อมูลในส่วนนี้เราก็ยินดี ส่วนทางเอฟบีไอจะให้หรือไม่ให้ก็เป็นสิทธิของเขา เพราะเรื่องนี้ข้อมูลบางส่วนถือเป็นข้อมูลลับ
ททท.ยันไม่เกี่ยวข้องกับองค์กร
นายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการ ด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เป็นข่าวว่ากระทรวงยุติธรรม และตำรวจสอบสวนกลางสหรัฐฯหรือเอฟบีไอจับกุมผู้บริหารฟิล์ม เฟสติวัล แมเนจเมนท์ นครลอสแองเจอลิส รัฐแคลิเฟอร์เนีย ที่กล่าวหา 2 สามีภรรยาชาวอเมริกันในคดีร่วมกันติดสินบนผู้บริหารระดับสูงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระหว่างปี 2546-2550 เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กรุงเทพ หรือบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล คิดเป็นเงินจำนวน 56 ล้านบาท ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับองค์กรของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แต่น่าจะเกี่ยวข้องกับตัวบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างมากกว่า โดยขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กร
ดังนั้นสิ่งที่ ททท.ดำเนินการอยู่ขณะนี้ คือการจัดเตรียมข้อมูลรายละเอียด และวิธีการ การจัดทำโครงการบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ตั้งแต่ปี 2546-2550 ทั้งหมด รวบรวมให้แก่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ที่ ททท.ตั้งขึ้น เพื่อชี้แจงกับกับกระทรวงการท่องเที่ยวและหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นลำดับต่อไป นอกจากนั้น ยังเตรียมทำหนังสือทำความเข้าใจภายในองค์กร เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจที่ตรงกัน
นายสุรพล กล่าวว่า หากพูดถึงวิธีการจัดทำงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม
เฟสติวัล นี้เป็นโครงการที่ใช้วิธีจัดจ้างแบบ “วิธีจ้างที่ปรึกษาด้วยวิธีตกลง” ซึ่งจะเป็นกรณีพิเศษที่นอกเหนือจากวิธีการจัดจ้างแบบพิเศษ กล่าวคือ เป็นการว่าจ้างโดยดูจากฝีมือการทำงาน และการจ้างเพื่อต้องการเทคนิคพิเศษของบริษัทนั้นๆมาใช้ในโครงการเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งในที่นี้จึงได้เลือกบริษัท ฟิล์ม เฟสติวัล แมเนจเมนต์ ที่อยู่ในนคร ลอส แอนเจลีส ซึ่งเป็นของ 2 สามีภรรยา ตามที่เป็นข่าว เป็นผู้ดำเนินการ
“การเตรียมงานของททท.มีการประชุมเชิงยุทธศาสตร์ แล้วจัดทำโครงการเพื่อบรรจุขอเป็นงบประมาณประจำปี โดยมีระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างที่ถูกต้องโปร่งใส ซึ่งเรามีการให้สำนักงาน ททท.ในต่างประเทศเป็นผู้ช่วยหาบริษัทที่ชำนาญการจัดงานด้านนี้ ซึ่งมีส่งมาหลายประเทศ แต่ที่ตัดสินใจเลือกบริษัทนี้เพราะเห็นว่าอยู่ในแอลเอ ซึ่งเป็นแหล่งของธุรกิจภาพยนตร์ระดับฮอลีวู๊ด”
ในกรณีนี้หากใครพาดพิงมาถึงตนก็จะขอฟ้องกลับให้ถึงที่สุดเช่นกัน เพราะ ตนมั่นใจว่าการทำงานของตนโปร่งใสแน่นอน และ การจ้าง บริษัทฟิล์ม เฟสติวัล แมเนจเมนต์ ต่อครั้งต่อปี ก็ใช้เงินจ้างประมาณ 50% ของงบประมาณการจัดงานทั้งหมดในแต่ละปีที่จะใช้ประมาณ 200-220 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การจัดจ้างแบบ “วิธีจ้างที่ปรึกษาด้วยวิธีตกลง” นั้นไม่จำเป็นต้องขอให้ที่ประชุมบอร์ดอนุมัติ ซึ่งที่ผ่านมา บอร์ด ททท. ได้มีการท้วงติงหลายครั้งแล้ว แต่ว่า ททท. ก็ยังไม่มีการปรับปรุงแต่อย่างใด ก็ยังคงใช้วิธีการเหมือนเดิม แต่ล่าสุดในยุค ผู้ว่า ททท. คนใหม่ ไม่ได้ใช้บริษัทเก่านี้แล้ว ซึ่งล่าสุดตามแผนงานปี 51 ททท.เตรียมจัดงานอีกแต่ได้เฟดตัวเอง ออกมาเป็นเพียงผู้สนับสนุนบางส่วน และให้ทางสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติเป็นผู้จัดทำ
ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จะพยายามดำเนินการตรวจสอบคดีนี้โดยโปร่งใสและยุติธรรมที่สุด พร้อมที่จะเผยแพร่ชี้แจงต่อสาธารณะชนอย่างโปร่งใส ทั้งสื่อในประเทศและสื่อต่างประเทศ และจะไม่กระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยในปีหน้าด้วย
เผยทำโครงการสนองนโยบาย”แม้ว”
นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการททท.ระหว่างปี 2545-2549 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้เซ็นสัญญาว่าจ้างพร้อมกับเงื่อนไขว่าจะต้องมีการประเมินผลงานทุก 6 เดือน ซึ่งตลอดอายุการทำงานในตำแหน่งผู้ว่าการ ททท. นางจุฑามาศ ได้เปิดโครงการใหม่ๆหลายโครงการ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว เพราะถือเป็นกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด ที่นอกเหนือจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ตามปกติทั่วไป โดยอีเว้นต์ขนาดใหญ่ที่ใช้เงินจำนวนมาก ที่ผุดขึ้นในยุดนี้ได้แก่
เทศกาลเคานต์ดาวน์ “สวัสดีปีใหม่ พี่น้องคนไทย และ สวัสดีปีใหม่ข้ามโลก” ซึ่งจัดขึ้นในปี 2545 ที่สนามศุภชลาศัย โดยร่วมกับสถานนี้โทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี ซึ่งขณะนั้นมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นผู้อำนวยการอสมท. ซึ่งงานนี้ใช้งบมากกว่า 20 ล้านบาท ทั้งนี้ไม่รวมงบจากภาคเอกชน
นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการจัดจ้างบริษัทโฆษณาภายในประเทศ และ การคิดสโลแกนใหม่ๆในแต่ละปี ซึ่งใช้งบเฉียดปีละ 100 ล้านบาท ส่วนโครงการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นนอกจากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ยังมีโครงการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวTATV ใช้งบประมาณ 120 ล้านบาท แบ่งจ่ายปีละ 20 ล้านบาท โดยมี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น เป็นประธานการเปิดงาน และแถลงข่าว
ส่วนการลงทุนภายนอกองค์กร เช่น การลงทุนในบริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ ในวงเงิน 30 ล้านบาท รวมถึงการก่อตั้งบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ตามแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายใต้งบลงทุน 1,000 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจริง 500 ล้านบาท
นักการเมืองร่วมตรวจสอบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง เรื่องการทุจริต ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) ว่า เป็นการตอกย้ำว่า เรายังต้องการการเมืองที่มีการทุจริต อีกต่อไปหรือไม่ ถือเป็นการทำให้ประเทศชาติเสียหาย ต่อจากซีทีเอ็กซ์ 9000 ซึ่งตนเห็นว่า นี่เป็นเหตุผล ที่ทำไมถึง เน้นว่า อยากให้บ้านเมืองดีขึ้น และการเมืองต้อง กรณีของ ททท. พรรคเสนอว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริจ แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการได้ทันที
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เมื่อมีข้อมูลออกมา ก็ต้องมีการตรวจสอบให้เกิดความกระจ่าง มีใครได้รับประโยชน์อย่างไร ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เรื่องนี้คงไม่กระทบกับพรรคพลังประชาชน เท่าที่จำได้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก่อตั้งเมื่อเดือนต.ค. 45 โดยรัฐมนตรีเรียงตามลำดับได้แก่นายสนธยา คุณปลื้ม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายประชา มาลีนนท์ นายสุวิทย์ คุณกิตติ ซึ่งขณะนี้ได้ไปอยู่พรรคอื่นกันหลายคนแล้ว
นายวชิรมนต์ คุณเกษมธนาวัฒน์ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน แถลงข่าวถึงการลาออกจากการเป็นสมาชิกเพื่อแผ่นดินของ นางจุฑามาศ ศิริวรรณ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน และผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน กลุ่มที่ 6 ว่า นางจุฑามาศ ยังบริสุทธิ์ เพราะยังไม่มีการดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรมโดยที่การลาออกนั้นไม่อยากทำให้พรรคเดือดร้อน และทางพรรคเพื่อแผ่นดินได้กล่าวชมว่าเป็นการแสดงถึงการมีสปิริต ทางพรรคไม่บีบให้นางจุฑามาศ ลาออก และก็ไม่ได้ลาออกเพราะหลักฐานชัดเจน
นายวัชระ พรรณเชษฐ์ เลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า เพื่อให้พรรคเกิดความสบายใจ นางจุฑามาศ จึงลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค แต่ก็ทำให้พรรคสะดุดไปบ้างในการทำงาน เพราะใกล้จะถึงวันเลือกตั้งแล้ว
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้พบกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เมื่อวานนี้ก็สอบถามว่า ได้มีการประสานงานกันอย่างไรบ้างกับทางสหรัฐฯ และคิดว่าน่าจะมีข้อมูลที่ทางสหรัฐฯ สามารถที่จะส่งให้ทางไทยได้ต่อไป เมื่อมีการพาดพิงคนของประเทศไทย เราก็ต้องดำเนินการ ขั้นแรกคือ ขอข้อมูลจากเขาเพื่อที่จะได้ดำเนินการต่อไป
นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณี นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าฯ ททท. แถลงลาออกจากการเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน และรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน จากเหตุเกี่ยวโยงรับสินบนจัดงานบางกอกฟิล์ม ว่า หากลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว ก็ถือว่าขาดคุณสมบัติที่จะรับเลือกตั้ง ซึ่งเบื้องต้นพรรคการเมืองต้องรายงานให้กกต. ก่อนที่ กกต.จะนำเข้ารายงานต่อที่ประชุมใหญ่รับทราบ ส่วนเรื่องเกี่ยวกับลำดับการเป็นผู้สมัครส.ส.สัดส่วนนั้น ไม่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง และผู้สมัครในกลุ่มที่เหลืออีก 9 คน สามารถเลือกตั้งได้ตามปกติ
วานนี้ (20 ธ.ค.) นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีนักธุรกิจชาวอเมริกัน ติดสินบนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการจัดงานบางกอกฟิล์ม เฟสติวัล อินเตอร์เนชั่นแนล ว่า ในเบื้องต้นคดีเจ้าพนักงานของรัฐรับสินบนไม่อยู่ในอำนาจการสอบสวนของดีเอสไอ การดำเนินการที่ผ่านมาของดีเอสไอ เป็นการให้ความร่วมมือกับเอฟบีไอ
ทั้งนี้ เมื่อมีการจับกุมดำเนินคดีในสหรัฐฯ และคดีเกี่ยวพันถึงผู้บริหารระดับสูง ททท.ดีเอสไอจะเร่งตรวจสอบว่าผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งเกิน 2 ปีหรือไม่ หากไม่เกินเป็นอำนาจของ ป.ป.ช.อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะเร่งตรวจสอบรายละเอียดว่า บริษัท บางกอกฟิล์ม มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อรัฐ (ฮั้วประมูล) หรือไม่ เนื่องจากบริษัทดังกล่าวได้รับว่าจ้างให้เป็นผู้จัดงานบางกอกฟิล์มทุกปี ดังนั้น จะต้องตรวจสอบว่า ขั้นตอนการประมูลเป็นอย่างไร และมีการเสนอราคาเบื้องต้นอย่างไร แต่ในชั้นนี้ ดีเอสไอยังไม่มีอำนาจเรียกบุคคลใดเข้าให้การ จนกว่าจะได้หลักฐานชัดเจนว่ามีการฮั้วประมูล
นายสุนัย กล่าวว่า ตนได้หารือกับ นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.โดยดีเอสไอ จะจัดส่งข้อมูลที่ได้สืบสวนร่วมกับเอฟบีไอให้ ป.ป.ช.รับไปดำเนินการ ซึ่งเป็นอำนาจของ ป.ป.ช.ที่จะขอให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมเป็นคณะอนุกรรมการสอบสวนความผิดดังกล่าว
พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ส่วนคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบร่วมกับเอฟบีไอยังไม่พบว่ามีข้อมูลที่ชี้ชัดว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยการกระทำความผิด ดังนั้น จึงต้องสืบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงมากขึ้น
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยินดีช่วยเหลือ ในการเป็นสื่อกลางประสานขอข้อมูลจาก หน่วยงานตำรวจสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ของสหรัฐ โดยใช้ช่องทางของตำรวจสากล หากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องการข้อมูลในส่วนนี้เราก็ยินดี ส่วนทางเอฟบีไอจะให้หรือไม่ให้ก็เป็นสิทธิของเขา เพราะเรื่องนี้ข้อมูลบางส่วนถือเป็นข้อมูลลับ
ททท.ยันไม่เกี่ยวข้องกับองค์กร
นายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการ ด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เป็นข่าวว่ากระทรวงยุติธรรม และตำรวจสอบสวนกลางสหรัฐฯหรือเอฟบีไอจับกุมผู้บริหารฟิล์ม เฟสติวัล แมเนจเมนท์ นครลอสแองเจอลิส รัฐแคลิเฟอร์เนีย ที่กล่าวหา 2 สามีภรรยาชาวอเมริกันในคดีร่วมกันติดสินบนผู้บริหารระดับสูงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระหว่างปี 2546-2550 เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กรุงเทพ หรือบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล คิดเป็นเงินจำนวน 56 ล้านบาท ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับองค์กรของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แต่น่าจะเกี่ยวข้องกับตัวบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างมากกว่า โดยขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กร
ดังนั้นสิ่งที่ ททท.ดำเนินการอยู่ขณะนี้ คือการจัดเตรียมข้อมูลรายละเอียด และวิธีการ การจัดทำโครงการบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ตั้งแต่ปี 2546-2550 ทั้งหมด รวบรวมให้แก่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ที่ ททท.ตั้งขึ้น เพื่อชี้แจงกับกับกระทรวงการท่องเที่ยวและหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นลำดับต่อไป นอกจากนั้น ยังเตรียมทำหนังสือทำความเข้าใจภายในองค์กร เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจที่ตรงกัน
นายสุรพล กล่าวว่า หากพูดถึงวิธีการจัดทำงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม
เฟสติวัล นี้เป็นโครงการที่ใช้วิธีจัดจ้างแบบ “วิธีจ้างที่ปรึกษาด้วยวิธีตกลง” ซึ่งจะเป็นกรณีพิเศษที่นอกเหนือจากวิธีการจัดจ้างแบบพิเศษ กล่าวคือ เป็นการว่าจ้างโดยดูจากฝีมือการทำงาน และการจ้างเพื่อต้องการเทคนิคพิเศษของบริษัทนั้นๆมาใช้ในโครงการเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งในที่นี้จึงได้เลือกบริษัท ฟิล์ม เฟสติวัล แมเนจเมนต์ ที่อยู่ในนคร ลอส แอนเจลีส ซึ่งเป็นของ 2 สามีภรรยา ตามที่เป็นข่าว เป็นผู้ดำเนินการ
“การเตรียมงานของททท.มีการประชุมเชิงยุทธศาสตร์ แล้วจัดทำโครงการเพื่อบรรจุขอเป็นงบประมาณประจำปี โดยมีระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างที่ถูกต้องโปร่งใส ซึ่งเรามีการให้สำนักงาน ททท.ในต่างประเทศเป็นผู้ช่วยหาบริษัทที่ชำนาญการจัดงานด้านนี้ ซึ่งมีส่งมาหลายประเทศ แต่ที่ตัดสินใจเลือกบริษัทนี้เพราะเห็นว่าอยู่ในแอลเอ ซึ่งเป็นแหล่งของธุรกิจภาพยนตร์ระดับฮอลีวู๊ด”
ในกรณีนี้หากใครพาดพิงมาถึงตนก็จะขอฟ้องกลับให้ถึงที่สุดเช่นกัน เพราะ ตนมั่นใจว่าการทำงานของตนโปร่งใสแน่นอน และ การจ้าง บริษัทฟิล์ม เฟสติวัล แมเนจเมนต์ ต่อครั้งต่อปี ก็ใช้เงินจ้างประมาณ 50% ของงบประมาณการจัดงานทั้งหมดในแต่ละปีที่จะใช้ประมาณ 200-220 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การจัดจ้างแบบ “วิธีจ้างที่ปรึกษาด้วยวิธีตกลง” นั้นไม่จำเป็นต้องขอให้ที่ประชุมบอร์ดอนุมัติ ซึ่งที่ผ่านมา บอร์ด ททท. ได้มีการท้วงติงหลายครั้งแล้ว แต่ว่า ททท. ก็ยังไม่มีการปรับปรุงแต่อย่างใด ก็ยังคงใช้วิธีการเหมือนเดิม แต่ล่าสุดในยุค ผู้ว่า ททท. คนใหม่ ไม่ได้ใช้บริษัทเก่านี้แล้ว ซึ่งล่าสุดตามแผนงานปี 51 ททท.เตรียมจัดงานอีกแต่ได้เฟดตัวเอง ออกมาเป็นเพียงผู้สนับสนุนบางส่วน และให้ทางสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติเป็นผู้จัดทำ
ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จะพยายามดำเนินการตรวจสอบคดีนี้โดยโปร่งใสและยุติธรรมที่สุด พร้อมที่จะเผยแพร่ชี้แจงต่อสาธารณะชนอย่างโปร่งใส ทั้งสื่อในประเทศและสื่อต่างประเทศ และจะไม่กระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยในปีหน้าด้วย
เผยทำโครงการสนองนโยบาย”แม้ว”
นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการททท.ระหว่างปี 2545-2549 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้เซ็นสัญญาว่าจ้างพร้อมกับเงื่อนไขว่าจะต้องมีการประเมินผลงานทุก 6 เดือน ซึ่งตลอดอายุการทำงานในตำแหน่งผู้ว่าการ ททท. นางจุฑามาศ ได้เปิดโครงการใหม่ๆหลายโครงการ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว เพราะถือเป็นกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด ที่นอกเหนือจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ตามปกติทั่วไป โดยอีเว้นต์ขนาดใหญ่ที่ใช้เงินจำนวนมาก ที่ผุดขึ้นในยุดนี้ได้แก่
เทศกาลเคานต์ดาวน์ “สวัสดีปีใหม่ พี่น้องคนไทย และ สวัสดีปีใหม่ข้ามโลก” ซึ่งจัดขึ้นในปี 2545 ที่สนามศุภชลาศัย โดยร่วมกับสถานนี้โทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี ซึ่งขณะนั้นมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นผู้อำนวยการอสมท. ซึ่งงานนี้ใช้งบมากกว่า 20 ล้านบาท ทั้งนี้ไม่รวมงบจากภาคเอกชน
นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการจัดจ้างบริษัทโฆษณาภายในประเทศ และ การคิดสโลแกนใหม่ๆในแต่ละปี ซึ่งใช้งบเฉียดปีละ 100 ล้านบาท ส่วนโครงการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นนอกจากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ยังมีโครงการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวTATV ใช้งบประมาณ 120 ล้านบาท แบ่งจ่ายปีละ 20 ล้านบาท โดยมี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น เป็นประธานการเปิดงาน และแถลงข่าว
ส่วนการลงทุนภายนอกองค์กร เช่น การลงทุนในบริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ ในวงเงิน 30 ล้านบาท รวมถึงการก่อตั้งบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ตามแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายใต้งบลงทุน 1,000 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจริง 500 ล้านบาท
นักการเมืองร่วมตรวจสอบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง เรื่องการทุจริต ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) ว่า เป็นการตอกย้ำว่า เรายังต้องการการเมืองที่มีการทุจริต อีกต่อไปหรือไม่ ถือเป็นการทำให้ประเทศชาติเสียหาย ต่อจากซีทีเอ็กซ์ 9000 ซึ่งตนเห็นว่า นี่เป็นเหตุผล ที่ทำไมถึง เน้นว่า อยากให้บ้านเมืองดีขึ้น และการเมืองต้อง กรณีของ ททท. พรรคเสนอว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริจ แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการได้ทันที
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เมื่อมีข้อมูลออกมา ก็ต้องมีการตรวจสอบให้เกิดความกระจ่าง มีใครได้รับประโยชน์อย่างไร ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เรื่องนี้คงไม่กระทบกับพรรคพลังประชาชน เท่าที่จำได้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก่อตั้งเมื่อเดือนต.ค. 45 โดยรัฐมนตรีเรียงตามลำดับได้แก่นายสนธยา คุณปลื้ม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายประชา มาลีนนท์ นายสุวิทย์ คุณกิตติ ซึ่งขณะนี้ได้ไปอยู่พรรคอื่นกันหลายคนแล้ว
นายวชิรมนต์ คุณเกษมธนาวัฒน์ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน แถลงข่าวถึงการลาออกจากการเป็นสมาชิกเพื่อแผ่นดินของ นางจุฑามาศ ศิริวรรณ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน และผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน กลุ่มที่ 6 ว่า นางจุฑามาศ ยังบริสุทธิ์ เพราะยังไม่มีการดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรมโดยที่การลาออกนั้นไม่อยากทำให้พรรคเดือดร้อน และทางพรรคเพื่อแผ่นดินได้กล่าวชมว่าเป็นการแสดงถึงการมีสปิริต ทางพรรคไม่บีบให้นางจุฑามาศ ลาออก และก็ไม่ได้ลาออกเพราะหลักฐานชัดเจน
นายวัชระ พรรณเชษฐ์ เลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า เพื่อให้พรรคเกิดความสบายใจ นางจุฑามาศ จึงลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค แต่ก็ทำให้พรรคสะดุดไปบ้างในการทำงาน เพราะใกล้จะถึงวันเลือกตั้งแล้ว
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้พบกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เมื่อวานนี้ก็สอบถามว่า ได้มีการประสานงานกันอย่างไรบ้างกับทางสหรัฐฯ และคิดว่าน่าจะมีข้อมูลที่ทางสหรัฐฯ สามารถที่จะส่งให้ทางไทยได้ต่อไป เมื่อมีการพาดพิงคนของประเทศไทย เราก็ต้องดำเนินการ ขั้นแรกคือ ขอข้อมูลจากเขาเพื่อที่จะได้ดำเนินการต่อไป
นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณี นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าฯ ททท. แถลงลาออกจากการเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน และรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน จากเหตุเกี่ยวโยงรับสินบนจัดงานบางกอกฟิล์ม ว่า หากลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว ก็ถือว่าขาดคุณสมบัติที่จะรับเลือกตั้ง ซึ่งเบื้องต้นพรรคการเมืองต้องรายงานให้กกต. ก่อนที่ กกต.จะนำเข้ารายงานต่อที่ประชุมใหญ่รับทราบ ส่วนเรื่องเกี่ยวกับลำดับการเป็นผู้สมัครส.ส.สัดส่วนนั้น ไม่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง และผู้สมัครในกลุ่มที่เหลืออีก 9 คน สามารถเลือกตั้งได้ตามปกติ