นักการเมืองราชบุรี ชวรินทร์ ลัทธศักดิ์ศิริ ได้ออกมาขู่ฟอดๆ ว่า
หากมีการยุบพรรคพลังประชาชน แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ!
แต่นักการเมืองอาวุโสอย่าง บรรหาร ศิลปอาชา ผู้คร่ำหวอดการเมืองมายาวนานรู้ว่า นั่นเป็นแค่ลมปากที่ข่มขู่ผู้คนเท่านั้น “มังกรเติ้ง” เลยสวนทันควันในทำนองว่า
ไฟไม่ลุกแผ่นดินหรอก..ถ้าลุกก็เป็นเรื่องของคนรับผิดชอบบ้านเมืองเขาดับไฟกัน!
ผมเชื่อ “มังกรเติ้ง” แห่งสุพรรณบุรี มากกว่าคนเคยสร้างละครลวงโลกอย่างนายชวรินทร์ ที่นายกฯ หน้าเหลี่ยม ทักษิณ ชินวัตร เคยหลงลมปาก ถึงกับยกขบวนแห่ไปร่วมเชียร์การขุดทองจนถึงหน้าถ้ำลิเจีย คราครั้งนั้นอดีตนายกฯ ทักษิณหน้าแตกแหกกระเชอ ขายหน้าคนไทยกันไปทั่วโลกมาแล้วครับ
กรณีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีและผิดกฎหมายนั้น แทบไม่ต้องพูดในรายละเอียดอะไรกันอีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาสื่อมวลชนทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ และทีวี ได้เคยรายงานพฤติกรรมนี้มาเป็นลำดับแล้ว
เริ่มตั้งแต่อดีตนายกฯ หน้าเหลี่ยม ได้ประกาศชัดที่กรุงลอนดอน ด้วยการบันทึกภาพและเสียงลงในแผ่นวีซีดีถึง 2 ชุดว่า ได้ให้ ส.ส.พรรคไทยรักไทยย้ายมารวมกันอยู่ที่พรรคพลังประชาชน แถมยังเรียกร้องให้ประชาชนเทคะแนนเลือก ส.ส.ให้กับพรรคพลังประชาชนแบบยกพรรคเลย
วีซีดีที่เป็นหลักฐานชัดเจนของทักษิณชิ้นนี้ ได้ถูกนำออกแจกจ่ายนับล้านๆ แผ่น ไปทั่วทั้งภาคอีสานและเหนืออย่างเปิดเผย
เรียกว่ากระทำการหาเสียงโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายนอมินี แถม..หยามเหยียบหน้าแงของ 5 เสือ กกต.กันซึ่งๆ หน้าเลยครับ
ถูกหยามเหยียดและทำผิดกฎหมายกันต่อหน้าต่อตา แต่น่าแปลกที่ 5 เสือ กกต.กลับทำตนเป็นทองไม่รู้ร้อนได้อย่างหน้าตาเฉย!
เท่านั้นไม่พอ..นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ยอมรับต่อสื่อว่า ได้ต่อโทรศัพท์ให้ทักษิณคุยกับนายสมัคร เพื่อให้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคนอมินีพลังประชาชน แถมนายสมัคร สุนทรเวช ยังออกมายอมรับว่า เป็นนอมินีของทักษิณอย่างหน้าชื่นตาบาน
ที่สำคัญ..พรรคพลังประชาชนมาตายตอนจบ เมื่อนายวีระ สมความคิด นักต่อสู้ภาคประชาชนได้ร้องเรียนต่อ กกต. โดยนำวีซีดีที่มีภาพและเสียงของทักษิณ ชินวัตร ถ่ายภาพคู่กับผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเชียงราย โดยทักษิณได้เรียกร้องให้คนเชียงราย ลงคะแนนให้ผู้สมัคร ส.ส.ท่านนี้อย่างโจ่งแจ้งทีเดียวเชียวแหละ
โอ้ย..อีกมากมายสารพัดสุดจะเจียระไนได้หมด ที่พรรคพลังประชาชนแสดงออกอย่างไม่อ้อมค้อมว่า พรรคนี้เป็นพรรคนอมินีของทักษิณ โดยเฉพาะการหาเสียงของพรรคนี้ ทุกเวทีหาเสียง..ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน จะพูดและขายแต่ทักษิณสถานเดียว
พฤติกรรมความเป็นนอมินีของพรรคพลังประชาชนทั้งหมดนี้ สังคมไทยทั้งสังคมรับรู้และซึมซับแล้วอย่างชัดเจน แต่น่าประหลาดและชวนฉงนใจยิ่งนัก ที่ผู้รับผิดชอบในการทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์และยุติธรรม ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้งหลาย กลับปล่อยให้พรรคพลังประชาชน กระทำผิดกฎหมายนอมินีมานานนับเดือนๆ โดยไม่ทำอะไรเป็นโล้เป็นพายเป็นชิ้นเป็นอันทั้งสิ้น
โดยเฉพาะ 5 เสือ กกต. ที่เกี่ยวข้องโดยตรงต่อกรณีดังกล่าวข้างต้น?
ต้องยอมรับ ณ วันนี้ว่า หากแผ่นดินไทยลุกเป็นไฟขึ้นมาล่ะก็ คนที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงและเน้นๆหนีไม่พ้นคนพวกนี้ครับ
หนึ่ง-รัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ร้อนรนกับการเร่งวันเวลาให้มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 23 ธันวาคม 255 โดยมิได้มีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเท่าที่ควร
สอง-บุรุษหน้าเหลี่ยม ทักษิณ ชินวัตร ที่นำพรรคพลังประชาชนมาเป็นนอมินี นายสมัคร สุนทรเวช ที่ยอมเป็นหัวหน้าพรรคนอมินี นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายปองพล อดิเรกสาร และผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน รวมผู้ปฏิบัติงานของพรรคพลังประชาชนทุกคน ที่รู้เห็นเป็นใจและสมยอมกับการเป็นนอมินีให้ทักษิณครับ
สาม-5 เสือ กกต.และคนทำงานใน กกต.ทุกคน โดยเฉพาะประธาน กกต.นายอภิชาต สุขัคคานนท์ นี่แหละตัวดี เพราะเป็นนายทะเบียนพรรคการเมืองของ กกต.ครับ อ้อ..รวมทั้งหน่วยราชการทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และเกี่ยวข้องกับตัวบทกฎหมายของการเลือกตั้งทั้งปวงด้วย
สุดท้าย..คนไทยทุกคนผู้เป็นเจ้าของประเทศ ที่วางเฉยกับปัญหาการผิดกฎหมายนอมินี ของพรรคพลังประชาชนมาโดยตลอดครับ
แน่นอน..หากเน้นว่าใครผิดมากผิดน้อย ผมคงต้องขอจัดอันดับดังนี้
ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนผิดอย่างมหันต์อันดับแรกครับ เพราะคนหน้าเหลี่ยมคนนี้นี่แหละ ที่ใช้ความพยายามสารพัดวิธีไม่ว่าลับหรือเปิดเผย ไม่ว่าถูกหรือผิด เพียงเพื่อหวังจะกลับมามีอำนาจอีกครั้งในประเทศไทย คนคนนี้ได้สร้างพรรคนอมินี ชื่อพรรคพลังประชาชนให้เกิดขึ้นในการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 นี้ครับ
กลุ่มที่ผิดเป็นอันดับ 2 ก็คือ พลพรรคพลังประชาชนทั้งหมด เพราะทั้งที่รู้อยู่แก่ใจแล้วว่า พรรคพลังประชาชนเป็นพรรคนอมินีของทักษิณ และของพรรคไทยรักไทย แต่ก็ยังดันทุรังทำกิจกรรมทางการเมือง ลงสมัคร ส.ส.กันอย่างหน้าด้านๆ อีก
พวกผิดตามมาติดๆ ก็คือ 5 เสือ กกต. ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และหรือล่าช้าต่อการลงโทษพรรคนอมินี (ที่รู้กันทั่วทั้งเมืองแล้ว) ตามตัวบทกฎหมาย จนอาจหรือทำให้เกิดแผ่นดินลุกเป็นไฟไงล่ะครับ..
ส่วนคนไทยนั้น..ต้องยกประโยชน์ให้จำเลย เพราะในเมื่อคนที่รับผิดชอบตามกฎหมายอย่าง กกต.โดยตรง กลับปล่อยให้พรรคพลังประชาชนที่ผิดต่อกฎหมายนอมินี ยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมไทยแบบนี้ ประชาชนจะทำอย่างไรได้ล่ะ?
5 เสือ กกต.รู้ทั้งรู้แล้วว่า พรรคพลังประชาชนเป็นพรรคนอมินีของพรรคไทยรักไทยและทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกตุลาการรัฐธรรมนูญพิพากษาแล้วว่า พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคที่เป็นภัยอันตรายยิ่ง ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงถูกยุบพรรคและกรรมการบริหารพรรค 111 คน ถูกตัดสิทธิ์ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองถึง 5 ปี หนึ่งใน 111คนนี้..รวมอดีตนายกฯ หน้าเหลี่ยม ทักษิณ ชินวัตร อยู่ด้วยนะครับ
ต้องถาม 5 เสือ กกต.ว่า พวกคุณทำอะไรกันอยู่? อีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้งแล้ว ไฉนไยปล่อยให้คนพวกนี้ทำผิดกฎหมายซ้ำแล้วซ้ำอีก? ทำผิดกฎหมายอยู่ได้จนทุกวันนี้ โดยไม่มีทั้งใบแดง-ใบเหลือง คนพวกนี้มีอภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมายหรือไร?
ผมมองอนาคตต่างจากคุณบรรหาร ศิลปอาชา นิดหน่อยตรงที่
หลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 หากพรรคพลังประชาชนได้รับเลือกเป็นอันดับ 1 แล้วมีการยุบพรรคล่ะก็..มีโอกาสที่แผ่นดินจะลุกเป็นไฟครับ
ทำไมคนที่รับผิดชอบ “ดับไฟ” ต้องให้ไฟลุกติดเสียก่อน แล้วทำไมไม่คิดดับไฟเสียแต่ต้นลมล่ะครับ การเป็นนอมินีของพรรคพลังประชาชนนั้น มันผิดกฎหมายมาแต่ต้นแล้ว จึงยากหรือไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้เลยที่ กกต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะละเลยหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ครับ
ดังนั้น มีทางเลือก 2 ทาง หนึ่งเลื่อนการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ไปก่อน เพื่อจัดการปัญหาผิดกฎหมายนอมินีของพรรคพลังประชาชนให้เรียบร้อย แล้วจึงกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่หรืออีกหนทางหนึ่งที่ต้องใช้ความกล้าหาญ นั่นคือ ยกเลิกหรือเพิกถอนผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมดของพรรคพลังประชาชน เพราะผิดกฎหมายนอมินี ก่อนการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ครับ
อืม..จะเป็น “มือเพลิง” ที่ร่วมสุมไฟให้ลุกท่วมเมืองยิ่งขึ้น หรือจะเป็น “นักดับเพลิง” ดับไฟเสียแต่ต้นลม นั่นเป็นสิ่งที่ 5 เสือ กกต.ต้องเลือกด้วยตนเองครับ!
วันนี้ต้องถือว่า..ชะตากรรมของชาติและประชาชนคนไทย ขึ้นอยู่กับความกล้าหาญและการตัดสินใจที่ถูกต้องของ 5 เสือ กกต.แล้วครับ!!!
หากมีการยุบพรรคพลังประชาชน แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ!
แต่นักการเมืองอาวุโสอย่าง บรรหาร ศิลปอาชา ผู้คร่ำหวอดการเมืองมายาวนานรู้ว่า นั่นเป็นแค่ลมปากที่ข่มขู่ผู้คนเท่านั้น “มังกรเติ้ง” เลยสวนทันควันในทำนองว่า
ไฟไม่ลุกแผ่นดินหรอก..ถ้าลุกก็เป็นเรื่องของคนรับผิดชอบบ้านเมืองเขาดับไฟกัน!
ผมเชื่อ “มังกรเติ้ง” แห่งสุพรรณบุรี มากกว่าคนเคยสร้างละครลวงโลกอย่างนายชวรินทร์ ที่นายกฯ หน้าเหลี่ยม ทักษิณ ชินวัตร เคยหลงลมปาก ถึงกับยกขบวนแห่ไปร่วมเชียร์การขุดทองจนถึงหน้าถ้ำลิเจีย คราครั้งนั้นอดีตนายกฯ ทักษิณหน้าแตกแหกกระเชอ ขายหน้าคนไทยกันไปทั่วโลกมาแล้วครับ
กรณีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีและผิดกฎหมายนั้น แทบไม่ต้องพูดในรายละเอียดอะไรกันอีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาสื่อมวลชนทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ และทีวี ได้เคยรายงานพฤติกรรมนี้มาเป็นลำดับแล้ว
เริ่มตั้งแต่อดีตนายกฯ หน้าเหลี่ยม ได้ประกาศชัดที่กรุงลอนดอน ด้วยการบันทึกภาพและเสียงลงในแผ่นวีซีดีถึง 2 ชุดว่า ได้ให้ ส.ส.พรรคไทยรักไทยย้ายมารวมกันอยู่ที่พรรคพลังประชาชน แถมยังเรียกร้องให้ประชาชนเทคะแนนเลือก ส.ส.ให้กับพรรคพลังประชาชนแบบยกพรรคเลย
วีซีดีที่เป็นหลักฐานชัดเจนของทักษิณชิ้นนี้ ได้ถูกนำออกแจกจ่ายนับล้านๆ แผ่น ไปทั่วทั้งภาคอีสานและเหนืออย่างเปิดเผย
เรียกว่ากระทำการหาเสียงโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายนอมินี แถม..หยามเหยียบหน้าแงของ 5 เสือ กกต.กันซึ่งๆ หน้าเลยครับ
ถูกหยามเหยียดและทำผิดกฎหมายกันต่อหน้าต่อตา แต่น่าแปลกที่ 5 เสือ กกต.กลับทำตนเป็นทองไม่รู้ร้อนได้อย่างหน้าตาเฉย!
เท่านั้นไม่พอ..นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ยอมรับต่อสื่อว่า ได้ต่อโทรศัพท์ให้ทักษิณคุยกับนายสมัคร เพื่อให้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคนอมินีพลังประชาชน แถมนายสมัคร สุนทรเวช ยังออกมายอมรับว่า เป็นนอมินีของทักษิณอย่างหน้าชื่นตาบาน
ที่สำคัญ..พรรคพลังประชาชนมาตายตอนจบ เมื่อนายวีระ สมความคิด นักต่อสู้ภาคประชาชนได้ร้องเรียนต่อ กกต. โดยนำวีซีดีที่มีภาพและเสียงของทักษิณ ชินวัตร ถ่ายภาพคู่กับผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเชียงราย โดยทักษิณได้เรียกร้องให้คนเชียงราย ลงคะแนนให้ผู้สมัคร ส.ส.ท่านนี้อย่างโจ่งแจ้งทีเดียวเชียวแหละ
โอ้ย..อีกมากมายสารพัดสุดจะเจียระไนได้หมด ที่พรรคพลังประชาชนแสดงออกอย่างไม่อ้อมค้อมว่า พรรคนี้เป็นพรรคนอมินีของทักษิณ โดยเฉพาะการหาเสียงของพรรคนี้ ทุกเวทีหาเสียง..ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน จะพูดและขายแต่ทักษิณสถานเดียว
พฤติกรรมความเป็นนอมินีของพรรคพลังประชาชนทั้งหมดนี้ สังคมไทยทั้งสังคมรับรู้และซึมซับแล้วอย่างชัดเจน แต่น่าประหลาดและชวนฉงนใจยิ่งนัก ที่ผู้รับผิดชอบในการทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์และยุติธรรม ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้งหลาย กลับปล่อยให้พรรคพลังประชาชน กระทำผิดกฎหมายนอมินีมานานนับเดือนๆ โดยไม่ทำอะไรเป็นโล้เป็นพายเป็นชิ้นเป็นอันทั้งสิ้น
โดยเฉพาะ 5 เสือ กกต. ที่เกี่ยวข้องโดยตรงต่อกรณีดังกล่าวข้างต้น?
ต้องยอมรับ ณ วันนี้ว่า หากแผ่นดินไทยลุกเป็นไฟขึ้นมาล่ะก็ คนที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงและเน้นๆหนีไม่พ้นคนพวกนี้ครับ
หนึ่ง-รัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ร้อนรนกับการเร่งวันเวลาให้มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 23 ธันวาคม 255 โดยมิได้มีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเท่าที่ควร
สอง-บุรุษหน้าเหลี่ยม ทักษิณ ชินวัตร ที่นำพรรคพลังประชาชนมาเป็นนอมินี นายสมัคร สุนทรเวช ที่ยอมเป็นหัวหน้าพรรคนอมินี นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายปองพล อดิเรกสาร และผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน รวมผู้ปฏิบัติงานของพรรคพลังประชาชนทุกคน ที่รู้เห็นเป็นใจและสมยอมกับการเป็นนอมินีให้ทักษิณครับ
สาม-5 เสือ กกต.และคนทำงานใน กกต.ทุกคน โดยเฉพาะประธาน กกต.นายอภิชาต สุขัคคานนท์ นี่แหละตัวดี เพราะเป็นนายทะเบียนพรรคการเมืองของ กกต.ครับ อ้อ..รวมทั้งหน่วยราชการทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และเกี่ยวข้องกับตัวบทกฎหมายของการเลือกตั้งทั้งปวงด้วย
สุดท้าย..คนไทยทุกคนผู้เป็นเจ้าของประเทศ ที่วางเฉยกับปัญหาการผิดกฎหมายนอมินี ของพรรคพลังประชาชนมาโดยตลอดครับ
แน่นอน..หากเน้นว่าใครผิดมากผิดน้อย ผมคงต้องขอจัดอันดับดังนี้
ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนผิดอย่างมหันต์อันดับแรกครับ เพราะคนหน้าเหลี่ยมคนนี้นี่แหละ ที่ใช้ความพยายามสารพัดวิธีไม่ว่าลับหรือเปิดเผย ไม่ว่าถูกหรือผิด เพียงเพื่อหวังจะกลับมามีอำนาจอีกครั้งในประเทศไทย คนคนนี้ได้สร้างพรรคนอมินี ชื่อพรรคพลังประชาชนให้เกิดขึ้นในการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 นี้ครับ
กลุ่มที่ผิดเป็นอันดับ 2 ก็คือ พลพรรคพลังประชาชนทั้งหมด เพราะทั้งที่รู้อยู่แก่ใจแล้วว่า พรรคพลังประชาชนเป็นพรรคนอมินีของทักษิณ และของพรรคไทยรักไทย แต่ก็ยังดันทุรังทำกิจกรรมทางการเมือง ลงสมัคร ส.ส.กันอย่างหน้าด้านๆ อีก
พวกผิดตามมาติดๆ ก็คือ 5 เสือ กกต. ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และหรือล่าช้าต่อการลงโทษพรรคนอมินี (ที่รู้กันทั่วทั้งเมืองแล้ว) ตามตัวบทกฎหมาย จนอาจหรือทำให้เกิดแผ่นดินลุกเป็นไฟไงล่ะครับ..
ส่วนคนไทยนั้น..ต้องยกประโยชน์ให้จำเลย เพราะในเมื่อคนที่รับผิดชอบตามกฎหมายอย่าง กกต.โดยตรง กลับปล่อยให้พรรคพลังประชาชนที่ผิดต่อกฎหมายนอมินี ยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมไทยแบบนี้ ประชาชนจะทำอย่างไรได้ล่ะ?
5 เสือ กกต.รู้ทั้งรู้แล้วว่า พรรคพลังประชาชนเป็นพรรคนอมินีของพรรคไทยรักไทยและทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกตุลาการรัฐธรรมนูญพิพากษาแล้วว่า พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคที่เป็นภัยอันตรายยิ่ง ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงถูกยุบพรรคและกรรมการบริหารพรรค 111 คน ถูกตัดสิทธิ์ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองถึง 5 ปี หนึ่งใน 111คนนี้..รวมอดีตนายกฯ หน้าเหลี่ยม ทักษิณ ชินวัตร อยู่ด้วยนะครับ
ต้องถาม 5 เสือ กกต.ว่า พวกคุณทำอะไรกันอยู่? อีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้งแล้ว ไฉนไยปล่อยให้คนพวกนี้ทำผิดกฎหมายซ้ำแล้วซ้ำอีก? ทำผิดกฎหมายอยู่ได้จนทุกวันนี้ โดยไม่มีทั้งใบแดง-ใบเหลือง คนพวกนี้มีอภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมายหรือไร?
ผมมองอนาคตต่างจากคุณบรรหาร ศิลปอาชา นิดหน่อยตรงที่
หลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 หากพรรคพลังประชาชนได้รับเลือกเป็นอันดับ 1 แล้วมีการยุบพรรคล่ะก็..มีโอกาสที่แผ่นดินจะลุกเป็นไฟครับ
ทำไมคนที่รับผิดชอบ “ดับไฟ” ต้องให้ไฟลุกติดเสียก่อน แล้วทำไมไม่คิดดับไฟเสียแต่ต้นลมล่ะครับ การเป็นนอมินีของพรรคพลังประชาชนนั้น มันผิดกฎหมายมาแต่ต้นแล้ว จึงยากหรือไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้เลยที่ กกต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะละเลยหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ครับ
ดังนั้น มีทางเลือก 2 ทาง หนึ่งเลื่อนการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ไปก่อน เพื่อจัดการปัญหาผิดกฎหมายนอมินีของพรรคพลังประชาชนให้เรียบร้อย แล้วจึงกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่หรืออีกหนทางหนึ่งที่ต้องใช้ความกล้าหาญ นั่นคือ ยกเลิกหรือเพิกถอนผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมดของพรรคพลังประชาชน เพราะผิดกฎหมายนอมินี ก่อนการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ครับ
อืม..จะเป็น “มือเพลิง” ที่ร่วมสุมไฟให้ลุกท่วมเมืองยิ่งขึ้น หรือจะเป็น “นักดับเพลิง” ดับไฟเสียแต่ต้นลม นั่นเป็นสิ่งที่ 5 เสือ กกต.ต้องเลือกด้วยตนเองครับ!
วันนี้ต้องถือว่า..ชะตากรรมของชาติและประชาชนคนไทย ขึ้นอยู่กับความกล้าหาญและการตัดสินใจที่ถูกต้องของ 5 เสือ กกต.แล้วครับ!!!