ฉบับวันที่ 4-12-50
ผู้จัดการรายวัน – แอมเวย์ ประกาศ 5 ปี สู่รายได้ 2 หมื่นล้านบาท ควักกลยุทธ์สร้างนักธุรกิจระดับเวิลด์คลาสควบตำแหน่งแอมบาสเดอร์ นำเสนอสินค้าใหม่บุกค้าปลีกมูลค่า 3 ล้านล้านบาท เทงบ 190 ล้านบาท ลุยการตลาดผุดชอปใหม่ หวังรายได้โตเฉลี่ย 10-15% ทุกปี วอนรัฐบาลใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจ โชว์รายได้ปีนี้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท
นายปรีชา ประกอบกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายการทำตลาดเมื่อย่างก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 เพื่อให้บริษัทฯมีอัตราการเติบโต 10-15% ต่อเนื่องตลอด 5 ปี สู่ผลประกอบการตามเป้าหมายคือ 20,000 ล้านบาท ได้วางกลยุทธ์ 3 รูปแบบ ได้แก่ มุ่งไปที่ความต้องการลูกค้า มีแผนงานที่มุ่งเน้นผลลัพธ์และประสิทธิภาพทั้งในส่วนการดำเนินงานของบริษัทฯและองค์กรนักธุรกิจแอมเวย์ และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ การให้บริการ รวมไปถึงรูปแบบการทำงานที่พร้อมปรับเปลี่ยนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด อีกทั้งยังเตรียมนำเสนอสินค้าสู่ค้าปลีก เนื่องจากเป็นช่องทางใหญ่โดยมีมูลค่าร่วม 3 ล้านล้านบาท
บริษัทฯจะขยายเครือข่ายนักธุรกิจแอมเวย์ โดยการสร้างนักธุรกิจแอมเวย์ระดับเวิลด์คลาส พร้อมเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่ออกไปให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ ไม่จำเป็นต้องโปรโมตสินค้ามากเกินไป เพราะแอมเวย์เป็นแบรนด์ที่ติดตลาดและได้รับการยอมรับจากลูกค้าอยู่แล้ว เพราะนักขายปัจจุบันส่วนใหญ่โปรโมตสินค้าเกินความจริง ปัจจุบันบริษัทฯมีนักธุรกิจแอมเวย์ระดับผู้นำอยู่กว่า 3,000 องค์กร เฉลี่ยแล้วมียอดจำหน่ายองค์กรละ 3 ล้านบาทต่อปี โดยบริษัทฯปรับผลตอบแทนให้ 5-10% สำหรับนักธุรกิจ
ในปีหน้าบริษัทฯทุ่มงบตลาด 100 ล้านบาท เน้นสร้างแบรนด์แอมเวย์ให้แข็งแกร่ง ภายใต้แนวคิด “คุณภาพเวิลด์คลาส เพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” มุ่งวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และรายการส่งเสริมการขายให้ตรงเป้าหมายและขยายบริการ เริ่มจากการขยายสาขาแอมเวย์เพิ่มอีก 3 แห่ง พร้อมทยอยปรับชอปแอมเวย์ทั้งหมด 4 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้การใช้งบ 90 ล้านบาท
“หลังจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ ในฐานะเป็นผู้ประกอบการภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลเร่งการลงทุน เพื่อกระตุ้นภาพรวมของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังต้องการให้เข้ามาพัฒนากฎหมายขายตรงให้มีมาตรฐานดีขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนนักธุรกิจรายย่อย เช่น การพิจารณาเก็บภาษีอากรพิเศษ แทนการเก็บภาษีรายได้ส่วนบุคคล เนื่องจากมองว่าอาชีพขายตรงเป็นการหารายได้เสริมมากกว่า”
ภาพรวมธุรกิจขายตรงประเทศไทยมีมูลค่า 40,000 ล้านบาท ในปีนี้เติบโตเป็นตัวเลขสองหลักแต่เป็นอัตราที่ลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง อย่างไรก็ตามทิศทางการเติบโตของธุรกิจขายตรงยังคงเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่อง โดยประมาณการณ์ว่าอนาคตของธุรกิจขายตรงไทยยังสามารถเติบโตได้ 2-3 เท่าตัว อย่างไรก็ตามในปีหน้าบริษัทฯกำลังพิจารณาต้นทุนการผลิตในปีหน้า แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผนปรับราคาสินค้า ซึ่งบริษัทฯไม่ได้ปรับมา 3 ปีแล้ว
สำหรับผลประกอบการปีนี้คาดว่าทะลุ 10,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 9,700 ล้านบาท ดังนั้นในปลายปีนี้ได้เปิดตัวแคมเปญ “ไม่มีคุณ ไม่มีเรา ไม่มีวันนี้” เพื่อสื่อสารถึงผู้บริโภคและนักธุรกิจแอมเวย์ สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯในปีนี้ แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนูทริไลท์ 34% เครื่องสำอางอาร์ทิสตี้ 23% เครื่องกรองน้ำและกรองอากาศ 21% ที่เหลือ 22% อื่นๆ
ผู้จัดการรายวัน – แอมเวย์ ประกาศ 5 ปี สู่รายได้ 2 หมื่นล้านบาท ควักกลยุทธ์สร้างนักธุรกิจระดับเวิลด์คลาสควบตำแหน่งแอมบาสเดอร์ นำเสนอสินค้าใหม่บุกค้าปลีกมูลค่า 3 ล้านล้านบาท เทงบ 190 ล้านบาท ลุยการตลาดผุดชอปใหม่ หวังรายได้โตเฉลี่ย 10-15% ทุกปี วอนรัฐบาลใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจ โชว์รายได้ปีนี้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท
นายปรีชา ประกอบกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายการทำตลาดเมื่อย่างก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 เพื่อให้บริษัทฯมีอัตราการเติบโต 10-15% ต่อเนื่องตลอด 5 ปี สู่ผลประกอบการตามเป้าหมายคือ 20,000 ล้านบาท ได้วางกลยุทธ์ 3 รูปแบบ ได้แก่ มุ่งไปที่ความต้องการลูกค้า มีแผนงานที่มุ่งเน้นผลลัพธ์และประสิทธิภาพทั้งในส่วนการดำเนินงานของบริษัทฯและองค์กรนักธุรกิจแอมเวย์ และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ การให้บริการ รวมไปถึงรูปแบบการทำงานที่พร้อมปรับเปลี่ยนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด อีกทั้งยังเตรียมนำเสนอสินค้าสู่ค้าปลีก เนื่องจากเป็นช่องทางใหญ่โดยมีมูลค่าร่วม 3 ล้านล้านบาท
บริษัทฯจะขยายเครือข่ายนักธุรกิจแอมเวย์ โดยการสร้างนักธุรกิจแอมเวย์ระดับเวิลด์คลาส พร้อมเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่ออกไปให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ ไม่จำเป็นต้องโปรโมตสินค้ามากเกินไป เพราะแอมเวย์เป็นแบรนด์ที่ติดตลาดและได้รับการยอมรับจากลูกค้าอยู่แล้ว เพราะนักขายปัจจุบันส่วนใหญ่โปรโมตสินค้าเกินความจริง ปัจจุบันบริษัทฯมีนักธุรกิจแอมเวย์ระดับผู้นำอยู่กว่า 3,000 องค์กร เฉลี่ยแล้วมียอดจำหน่ายองค์กรละ 3 ล้านบาทต่อปี โดยบริษัทฯปรับผลตอบแทนให้ 5-10% สำหรับนักธุรกิจ
ในปีหน้าบริษัทฯทุ่มงบตลาด 100 ล้านบาท เน้นสร้างแบรนด์แอมเวย์ให้แข็งแกร่ง ภายใต้แนวคิด “คุณภาพเวิลด์คลาส เพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” มุ่งวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และรายการส่งเสริมการขายให้ตรงเป้าหมายและขยายบริการ เริ่มจากการขยายสาขาแอมเวย์เพิ่มอีก 3 แห่ง พร้อมทยอยปรับชอปแอมเวย์ทั้งหมด 4 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้การใช้งบ 90 ล้านบาท
“หลังจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ ในฐานะเป็นผู้ประกอบการภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลเร่งการลงทุน เพื่อกระตุ้นภาพรวมของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังต้องการให้เข้ามาพัฒนากฎหมายขายตรงให้มีมาตรฐานดีขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนนักธุรกิจรายย่อย เช่น การพิจารณาเก็บภาษีอากรพิเศษ แทนการเก็บภาษีรายได้ส่วนบุคคล เนื่องจากมองว่าอาชีพขายตรงเป็นการหารายได้เสริมมากกว่า”
ภาพรวมธุรกิจขายตรงประเทศไทยมีมูลค่า 40,000 ล้านบาท ในปีนี้เติบโตเป็นตัวเลขสองหลักแต่เป็นอัตราที่ลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง อย่างไรก็ตามทิศทางการเติบโตของธุรกิจขายตรงยังคงเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่อง โดยประมาณการณ์ว่าอนาคตของธุรกิจขายตรงไทยยังสามารถเติบโตได้ 2-3 เท่าตัว อย่างไรก็ตามในปีหน้าบริษัทฯกำลังพิจารณาต้นทุนการผลิตในปีหน้า แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผนปรับราคาสินค้า ซึ่งบริษัทฯไม่ได้ปรับมา 3 ปีแล้ว
สำหรับผลประกอบการปีนี้คาดว่าทะลุ 10,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 9,700 ล้านบาท ดังนั้นในปลายปีนี้ได้เปิดตัวแคมเปญ “ไม่มีคุณ ไม่มีเรา ไม่มีวันนี้” เพื่อสื่อสารถึงผู้บริโภคและนักธุรกิจแอมเวย์ สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯในปีนี้ แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนูทริไลท์ 34% เครื่องสำอางอาร์ทิสตี้ 23% เครื่องกรองน้ำและกรองอากาศ 21% ที่เหลือ 22% อื่นๆ