xs
xsm
sm
md
lg

วันมหามงคล “5 ธันวามหาราช”

เผยแพร่:   โดย: แสงแดด

“วันพุธที่ 5 ธันวาคม” เป็น “วันสำคัญ” สำหรับเราชาวไทยทุกคนตามปกติอยู่แล้ว ซึ่งเป็น “วันหยุดราชการ” และจะมีพระราชพิธี ตลอดจนพิธีการต่างๆ มากมายในการเฉลิมฉลองพระเกียรติ เนื่องในโอกาส “วันเฉลิมพระชนมพรรษา” ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “สมเด็จพ่อหลวง” ของเราทุกคน

แต่ “วันที่ 5 ธันวาคม” นี้เป็น “วันมหามงคล” ของเราคนไทยทั่วหล้า ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุ 80 พรรษา ที่จะมีการเฉลิมฉลองอย่างมโหฬาร ซึ่งเริ่มกันมาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม เป็นต้นมา โดยได้มีการเชิญชวนให้คนไทยทุกคนใส่เสื้อเหลืองกันตลอดสัปดาห์นี้

จริงๆ แล้ว คนไทยทุกคนต่างร่วมแสดงความจงรักภักดีด้วยการใส่เสื้อเหลือง พร้อมทั้งติดธงชาติไทยกับธงสัญลักษณ์เฉลิมฉลองพระชนมพรรษา 80 พรรษา มาตั้งแต่ปี 2549 มาโดยตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าปี 2550 นี้ ในส่วนของภาครัฐบาลได้มีการเชิญชวนและรณรงค์อย่างต่อเนื่องและมากกว่าทุกครั้ง ดังที่กล่าวไว้แล้วว่า ปีนี้เป็น “ปีมหามงคล” ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุ 80 พรรษา

อย่างไรก็ตาม ประชาชนโดยทั่วไปอาจจะไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างชัดเจนว่า “กิจกรรมพระราชพิธี” มีอะไรบ้าง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นมา จนมาถึงวันที่ 5 ธันวาคมนี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันนี้จะมีพระราชพิธีสำคัญๆ อะไรบ้าง และที่สำคัญที่สุด “พวกเราคนไทย” จะแสดงความจงรักภักดีอย่างไรบ้างกับวันสำคัญตลอดทั้งวันของวันที่ 5 ธันวาคมนี้

ทั้งนี้ เรามาเริ่มกันตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมกันก่อนว่า มีกิจกรรมใดบ้างที่เกิดขึ้นเนื่องในโอกาส วันสำคัญนี้

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2550

- นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิด “นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550” ณ อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งจะมีไปจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2550

- “การสาธยายพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกียรติฯ” 9 แห่ง ใน 9 จังหวัด กรุงเทพฯ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2550 ส่วนภูมิภาค ระหว่างวันที่ 1-5 ธันวาคม 2550 จังหวัดละ 1 วัด คือ วัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น , วัดชัยประสิทธิ์ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม , วัดพุทธาวาส อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ , วัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย , วัดป่าบ้านค้อ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี , วัดพระธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร , วัดพระธาตุดอยกองมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน และวัดสมานราษฎร์ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี

วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2550

- การจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ณ พระลานพระราชวังดุสิต

- โดยจัดกำลังพลสวนสนามรักษาพระองค์ 12 กองพันสวนสนามเดินเท้า และกองพันทหารม้า

- เชิญชวนประชาชนร่วมพิธี โดยแต่งกายสวมเสื้อสีเหลืองและยืนเฝ้าฯ รับส่งเสด็จฯ ตามเส้นทางเสด็จฯ ผ่าน

วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2550

- “การจัดพิธีเสกและอัญเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์”


- กระทรวงมหาดไทยได้ให้ทุกจังหวัดคัดเลือกแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนเคารพเลื่อมใส หรือแหล่งน้ำสำคัญของจังหวัด หรือแหล่งน้ำที่เคยใช้ทำน้ำศักดิ์สิทธิ์อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง เพื่อประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำ โดยสำนักพระราชวังได้กำหนดวันที่ประกอบพิธีตักน้ำและเสกน้ำพระพุทธมนต์ของจังหวัดต่างๆ พร้อมกันทั่วประเทศที่ผ่านมา

ฤกษ์ตักน้ำเมื่อวันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2550 ระหว่างเวลา 15.49 น. ถึงเวลา 16.19 น. และฤกษ์เสกน้ำพระพุทธมนต์ (ส่วนภูมิภาค) กำหนดวันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2550 ระหว่างเวลา 17.39 น. ถึงเวลา 18.09 น.

ฤกษ์เสกน้ำพระพุทธมนต์ (ส่วนกลาง) มีพิธีแห่อัญเชิญโถน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของทุกจังหวัด จากกระทรวงมหาดไทยไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในเวลา 16.19 น. ถึง 16.49 น.

กระทรวงมหาดไทยได้ขอความร่วมมือสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เป็นผู้ออกแบบโถบรรจุน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนี้ เพื่อให้โถบรรจุน้ำของทุกจังหวัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสวยงาม และมีรูปแบบเดียวกันทุกจังหวัด โดยโถบรรจุน้ำมีลักษณะเป็นโถเซรามิกเคลือบประดับตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ และตราประจำจังหวัด กระทรวงมหาดไทยจะมอบให้ทุกจังหวัด เพื่อนำไปบรรจุน้ำพระพุทธมนต์ของจังหวัด แล้วนำมาเข้าร่วมพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในวันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2550

“การจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน” ณ ทำเนียบรัฐบาล เริ่มเวลา 08.00 น. มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นำร้องเพลงชาติไทย โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กล่าวรายงาน นายกรัฐมนตรีกล่าวถวายพระพรชัยมงคล และถวายเครื่องราชสักการะหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล และนำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ พร้อมทั้งนำร้องเพลง “ภูมิแผ่นดิน นวมินทร์มหาราชา” กับเพลง “สรรเสริญพระบารมี” เสร็จพิธี

ในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดที่หน้าศาลากลางจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแกนกลางในการจัดพิธี และหน่วยงานอื่นๆ ให้จัดตามสถานที่ตั้งของหน่วยงาน

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม 2550

“การลงนามถวายพระพร”
สำนักพระราชวังจะได้จัดที่สำหรับลงพระนามลงนามถวายพระพรไว้ที่ในพระบรมมหาราชวัง ระหว่างวันที่ 4 และ 6 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ส่วนในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ตั้งแต่เวลา 13.00-17.00 น.

และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปิดปราสาทพระเทพบิดร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง เพื่อให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนได้ถวายบังคมสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช

“ศาสนพิธี” การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 9 ครั้ง ดำเนินการเสร็จแล้ว 8 ครั้ง ครั้งสุดท้ายกำหนดในวันที่ 4 ธันวาคม 2550 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

“กิจกรรมเฉลิมฉลอง การแสดงพลุและดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติ” กำหนดการจัดแสดงโดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า “เกริกฟ้า ก้องปฐพี สดุดีมหาราชา” มุ่งเน้นรูปแบบ “พลุ เพลง พอเพียงเพื่อพ่อ” กำหนดการแสดงระหว่างวันที่ 4-8 ธันวาคม 2550 โดยได้มีนิทรรศการเทิดพระเกียรติ การแสดงศิลปวัฒนธรรม ดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์ และการสดุดีเทิดพระเกียรติในทุกๆ วัน กำหนดจัดแสดงดังนี้

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม 2550 เวลา 21.00 น. จัดแสดงที่ราชตฤนมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) เป็นพลุที่ผลิตโดยสมาคมและดอกไม้ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยการออกแบบเป็นพิเศษ ศิลปินพลุจำนวน 12 คน เพื่อนำมาแสดงในวันนี้ โดยบริษัท Seiko Holdings Corporation ประเทศญี่ปุ่น และบริษัท Seiko ประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินการ โดยใช้ชื่อการแสดงคืนนี้ว่า “ดอกไม้ไฟแห่งความจงรักภักดี 80 พรรษามหาราชา” จะเป็นพลุประเภทสวยงาม ขนาดใหญ่ จัดเป็นชุดการแสดงจำนวน 14 ชุด ประมาณ 1,017 นัด

วันพุธที่ 5 ธันวาคม 2550

“งานพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคล”
เวลา 10.30 น. ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาประสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยจะมีพิธีการดังนี้

เวลา 07.30 น. จะมีขบวนอิสริยยศอัญเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในขบวนแห่อัญเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จะประกอบด้วยวงดุริยางค์ ขบวนธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ผู้อัญเชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน เป็นผู้แทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้แทนจากรัฐสภา และผู้แทนจากศาลฎีกา ส่วนผู้อัญเชิญพานพุ่มดอกไม้ทองและเงิน เป็นผู้แทนจากทุกจังหวัด 76 จังหวัด และข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ

เวลา 09.30 น. พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ข้าราชการทหาร พลเรือน ผู้มีตำแหน่งเฝ้าฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พร้อมในมณฑลพระราชพิธีพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

เวลา 10.30 น. โดยเส้นทางที่เสด็จฯ จะมีประชาชน นักเรียนยืนเฝ้าฯ โดยพร้อมใจกันสวมเสื้อเหลือง ถือธงโบกซึ่งเป็นธงชาติไทยกับธงสีเหลืองมีตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติฯ รับส่งเสด็จฯ สองข้างทางตั้งแต่สวนจิตรลดา ตลอดจนถนนราชดำเนินนอก กลาง และใน รวมทั้งที่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ หรือสถานที่ใกล้เคียง

สำหรับผู้ที่ได้รับเชิญพร้อมคู่สมรสให้ร่วมเข้าเฝ้าภายในพระบรมมหาราชวังชั้นกลาง บริเวณหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

ส่วนบริเวณสนามหญ้าหน้าศาลาสหทัยสมาคม และภายในท้องสนามหลวง จะมีประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองไปร่วมเข้าเฝ้าพร้อมกันเต็มพื้นที่

มีการติดตั้งเครื่องรับโทรทัศน์ขนาดใหญ่จอ LED ตามจุดต่างๆ ภายในพระบรมมหาราชวัง และภายในท้องสนามหลวง จำนวน 19 จุด และบริเวณสองข้างทางถนนราชดำเนินกลาง

และให้มีการติดตั้งเต็นท์โอเอซีสเป็นจุดให้บริการต่างๆ ภายในพระบรมมหาราชวัง และภายในท้องสนามหลวง

รวมทั้งในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดทั่วประเทศจัดสถานที่หน้าศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสมพร้อมทั้งติดตั้งเครื่องรับโทรทัศน์ และเชิญชวนประชาชนที่ไม่มีโอกาสได้เข้ามาในกรุงเทพมหานคร สวมเสื้อสีเหลืองไปพร้อมกันตามสถานที่ที่กำหนด เพื่อร่วมกิจกรรมและชมการถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีและร่วมถวายพระพรชัยมงคลพร้อมกับในกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสตอบเสร็จแล้ว ให้ประชาชนทั่วประเทศ ทั้งที่อยู่ในทุกจังหวัด กับในกรุงเทพมหานครได้เปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” ให้กึกก้อง

โดยตลอดงานจะได้มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และผ่านทาง Global Network กว่า 176 ประเทศใน 6 ทวีป

“การจัดงานถวายพระพรและงานมหรสพสมโภช” ในภาคค่ำ การจัดงานแบ่งเป็น 2 ส่วน

ในส่วนกลาง ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีมูลนิธิ 5 ธันวามหาราชเป็นแกนหลักในการประสานงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆ ร่วมกันดำเนินการจัดงานให้เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และที่สวนสาธารณะ 16 แห่งจะมีการจัดงานโดย กทม.เป็นแกนหลักร่วมกับสำนักงานเขตและชุมชนในพื้นที่

โดยเฉพาะเวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จฯ ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย และเมื่อเสด็จฯ ผ่านเรียบร้อยแล้ว จะมีขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะไปยังท้องสนามหลวงเพื่อร่วมพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยในขณะที่เสด็จฯ กลับ จะมีประชาชนเฝ้าส่งเสด็จฯ ตามเส้นทางที่เสด็จฯ ผ่านบริเวณท้องสนามหลวง ตลอดจนถนนราชดำเนินถึงสวนจิตรลดา ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ และจุดเทียนชัยถวายพระพรระหว่างเสด็จกลับ 1 รอบ และจุดเทียนชัยถวายพระพรพร้อมกันทั่วประเทศอีก 1 รอบ โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!
...................................
กำลังโหลดความคิดเห็น