xs
xsm
sm
md
lg

ติง พปช.เอาผลเลือกตั้งฟอกแม้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครป.ชี้ พปช.เอาผลเลือกตั้งมาฟอกความผิด “ทักษิณ” และเครือข่ายกลุ่มอำนาจเก่า จะทำให้ระบบการเมืองล่มสลาย เชื่อสังคมไทยไม่ยอมแน่ แนะ “แม้ว” เลิกดิ้นแล้วกลับมาสู้คดีทุจริตอย่างถูกต้อง เตรียมเปิดเวทีรณรงค์ให้ประชาชนเลือกนักการเมืองที่เลวน้อยที่สุด อย่าเลือกเพื่อฟอกผิดให้ใครบางคน “สุริยะใส” ท้าแน่จริง พปช.ต้องให้ได้ 240 เสียงแล้วจะขอนั่งดูเฉยๆ “ไทกร” แฉแผนเครือข่ายอำนาจเก่า

ที่สำนักงานคณะกรรมการรณณงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) วานนี้ (2 ธ.ค.) นายพิภพ ธงไชย ที่ปรึกษา ครป. นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป. และนายสมควร พรหมทอง รองเลขาธิการ ครป. ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัว โครงการรณรงค์เลือกตั้ง “พาคนไทย เลือกอนาคตที่สดใส อย่าเลือกอดีตที่ขมขื่น”

นายสุริยะใส กล่าวว่าเนื่องจากมีความพยายามของพรรคการเมืองบางพรรค รณรงรงค์และสร้างกระแสในสังคมว่าหากชนะเลือกตั้งจะนิรโทษกรรมให้ผู้ที่กระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คนที่โดนตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี และยุบเลิกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ( คตส.) และกระบวนการไต่สวนตรวจสอบความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย

ครป.จึงเป็นห่วงว่าหากนักการเมืองเอาผลการเลือกตั้งมาอวดอ้างหรือฟอกผิด ให้กับตัวเองได้ จะทำให้ระบบการเมืองล่มสลายการเลือกตั้งจะเป็นการชี้ขาดพฤติกรรม นักการเมืองไปทุกๆ เรื่อง ไม่เว้นแม้แต่คนโกงและกระทำความผิดทางอาญา ทั้งที่บางคนชนะเลือกตั้งมาจากการทุจริตเลือกตั้งหรือซื้อเสียงก็มีจำนวนมากเช่นกัน

นายสุริยะใส กล่าวว่า กระแสเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 กำลังบดบังวิกฤติของประเทศอย่างน้อย 10 เรื่องที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลายไม่ว่าจะเป็น การอุ้มฆ่าชาวบ้านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงครามฆ่าตัดตอน การคอรัปชั่นทางนโยบาย วิกฤติจริยธรรม ฯลฯ วิกฤติเหล่านี้เกิดขึ้นและดำรงอยู่ต่อเนื่อง แต่แทบจะไม่มีพรรคการเมืองใดใส่ใจให้ความสำคัญในการหาข้อยุติ หรือคลี่คลายวิกฤติเหล่านี้อย่างจริงจัง

ด้าน นายพิภพ กล่าวว่าสังคมไทยจะไม่ยอมให้พรรคการเมืองที่เข้ามาเป็นรัฐบาลแทรกแซงหรือทำลายกระบวนการตรวจสอบความผิดของรัฐบาลที่แล้ว อย่างแน่นอน ต้องไม่ลืมว่า คตส.นั้นมีผู้พิพากษาหลายคน และมีบุคคลที่สังคมไว้วางใจ เชื่อถือเข้ามาทำงาน อยู่ๆ จะเอาผลการเลือกตั้งมาบิดเบือนความผิดคงไม่ได้

“ผมอยากแนะนำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดดิ้นและเข้ามาตั้งทีมทนายสู้คดีในศาล เพราะศาลหรือกระบวนการยุติธรรมเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้แก้ตัวหรือปฏิเสธ ข้อกล่าวหาได้อยู่แล้ว หากทุกฝ่ายไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมสังคมก็ไม่มีทางออก มีแต่วิกฤติเรื้อรัง เสียงข้างมากจะไม่มีความหมายหากอำนาจตุลาการถูกแทรกแซง”

นายสุริยะใส กล่าวเสริมว่า หากพรรคพลังประชาชนจะเดินหน้ายุทธศาสตร์ คืนอำนาจให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องชนะเลือกตั้งให้ได้มากกว่า 240 ที่นั่ง ถึงจะเรียกว่า เป็นเสียงส่วนใหญ่การได้รับเลือกตั้งชนะเป็นพรรคอันดับหนึ่งไม่ได้หมายความว่า ได้เสียงข้างมากจากประชาชน อย่าลืมว่าในสมัยพรรคไทยรักไทยเดิมมีเสียงข้างมาก 376 เสียงพรรคเดียวในสภา ยังไม่สามารถอุ้ม พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นข้อครหาคดีซื้อขายหุ้นชินฯ ได้เลย

“ผมขอท้าพรรคพลังประชาชนถ้าอยากฟอกผิดคุณทักษิณจริงต้องทำให้ได้ 240 เสียง ถ้าทำได้จริง คุณจะทำอะไรก็เชิญ ผมจะนั่งดูอยู่เฉยๆ”

นายสุริยะใส กล่าวว่าสำหรับการชุมนุมประชาชนหรืออดีตพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น เป็นรูปแบบเวทีประชาชนประวาระประเทศ เพื่อเป็นสัญญาในหมู่ประชาชนว่าเราจะร่วมกันผลักดันให้สังคมการเมืองเป็นประชาธิปไตย และต่อต้านการกระทำที่มิชอบของทุกรัฐบาลไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ตาม โดยเฉพาะการพยายามเข้ามาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม คาดว่าสัปดาห์คงจะได้คำตอบว่าจะจัดวันไหน

ด้านนายสมควร พรหมทอง รองเลขาธิการ ครป. กล่าวว่ากิจกรรมรณรงค์ของ ครป.ร่วมกับสมัชชาประชาชนเพื่อการปฏิรูปการเมือง หรือ สปป.นั้น เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนใช้ดุลพินิจไตร่ตรองให้รอบคอบ ตรวจสอบนโยบายและพฤติกรรม 10 ต้อง 12 ไม่ เพื่อให้ได้นักการเมืองและพรรคการเมืองที่เลวน้อยที่สุดเข้าสภาฯ และทำให้ การเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 เป็นการเลือกอนาคตที่สดใส ไม่ใช่เลือกอดีตที่ขมขื่น

โดยมีการจัดพิมพ์ สติกเกอร์ 3 แบบๆ ละ 100,000 ชุด มีข้อความ ดังนี้ “23 ธันวา 50 เลือก...ให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า อย่าเลือก...เพื่อฟอกผิดใครบางคน” , “23 ธันวา 50 เลือก...ให้สังคมไทยก้าวพ้นความแตกแยก อย่าเลือกพรรคที่สร้างเงื่อนไขเผชิญหน้า” และ “23 ธันวา 50 อย่าเลือก เพื่อฟอกผิดใครบางคน” โปสเตอร์ 10 ต้อง 12 ไม่ จำนวน 100,000 ชุด และคู่มือ เลือกตั้ง 500,000 ชุดและจะมีการจัดขบวนรถรณรงค์ตามจังหวัดต่างๆ ทุกสัปดาห์

“ตอนนี้ ครป.ร่วมกับหลายองค์กรในหลายๆ จังหวัดจัดเวทีประชาชนพบผู้สมัครพรรคการเมืองเพื่อเชิญผู้สมัครในแต่ละจังหวัดมาร่วมกันดีเบตเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาท้องถิ่นในแต่ละจังหวัด”

นายไทกร พลสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ของแก่น พรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวว่า การซื้อเสียงรูปแบบใหม่ที่คาดว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคอยู่เบื้องหลัง โดยการใช้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.)ที่มีการนำสมาชิกทั่วประเทศกว่า 30,000 คนไปอบรมที่ตึกอิมพีเรียม แล้วลงพื้นที่ในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ กล่าวโจมตีการทำงานของ คมช.

“วิธีการซื้อเสียงแบบใหม่ที่ กกต.คงเอาผิดยาก มีพรรคการเมืองจากขั้วอำนาจเก่าบางพรรค ใช้ นปก.ที่เป็นสมาชิกกว่า 30,000 คน ทั่วประเทศ ลงพื้นที่กล่าวโจมการทำงานของ คมช.แล้วมีการแจกเงินให้กับชาวบ้านที่มาฟังหัวละ 200 บาท มันเป็นการซื้อเสียงแบบใหม่ที่อยากจะถามว่า กกต.จะทำอย่างไร เนื่องจาก นปก.ไม่ได้กล่าวโจมตีพรรคประชาธิปัติย์ ไม่ได้กล่าวโจมตีผม หรือพรรคการเมืองอื่นๆ แต่ไปโจมตีการทำงานของ คมช.อย่างเดียว แล้วคนที่จ่ายเงินให้ก็เป็นหัวคะแนนของพรรคการเมืองพรรคดังกล่าว แล้วถามว่าพรรคใดจะได้ประโยชน์กับการที่ นปก.ออกมาโจมตี คมช.และ กกต.จะทำและแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างไรได้”

นายไทกร ยังกล่าวอีกว่า ในจ.ขอนแก่น มีทีม นปก.ลงพื้นที่มาแล้วทั้งหมด 4 ทีม คาดว่าน่าจะลงมา เขตละ 1 ทีม โดยลงในพื้นที่ ที่เสียงของพรรคขั้วอำนาจเก่าเข้มแข็ง แล้วยุยงให้ชาวบ้านเกลียด คมช.และคล้ายกับว่าให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาบริหารประเทศ ประเทศจะได้สงบสุข และตอนนี้ได้ส่งรายชื่อหัวคะแนน ของพรรคนั้นให้กับ ทางกกต.ขอนแก่นแล้วบางส่วน และดูว่า กกต.จะทำอย่างไร เมื่อกฎหมายไม่ได้ระบุในเรื่องนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น