ช่อง 5 ประกาศผังใหม่ คงสัดส่วนเดิม เพิ่มแถบบริการสังคม กีฬา และเด็ก
ยึดผู้จัดรายเก่า เสริมผู้จัดรายใหม่ ช่วงนอนไพร์มไทม์ วางผังเสาร์-อาทิตย์เข้มข้น เพื่อเพิ่มเรตติ้ง เตรียมเปิดตัว ปลาย ธ.ค.นี้
พลโท กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เปิดเผยถึง ผังรายการใหม่ ประจำปี 2551 ว่า ภาพรวมของผังรายการในช่วงไพร์มไทม์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะลงตัว และเรตติ้งดีอยู่แล้ว ส่วนช่วงที่มีการปรับจะเป็นรายการทั่วไป และในวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งจะตัดรายการสั้นให้น้อยลง เน้นความต่อเนื่องของรายการใหญ่ เพื่อดึงความนิยมจากผู้ชมให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผังใหม่ครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนประมาณ 20% - 30% วันเสาร์และอาทิตย์ ช่วงนอนไพร์มไทม์ โดยยังคงสัดส่วนผังรายการเหมือนเดิม คือ รายการประเภทข่าว 30 % สาระความรู้ 40 % และบันเทิง 30% โดยเพิ่มแถบรายการเด็กและเยาวชน ไว้ในช่วง 17.30 น. ของทุกวัน และ แถบกีฬาที่ เวลา 15.00 น. ทุกวันเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการร่วมผลิตรายการบริการสังคม กับ "สถานีสนามเป้า" ทุกเช้าวันจันทร์ ถึง ศุกร์ เวลา 07.00น.-08.30 น. จัดเป็นช่วง "ช่อง 5 บริการชาวบ้าน" โดยมีพิธีกรจากฝ่ายข่าว เป็นผู้ดำเนินรายการ
ผู้อำนวยการ ททบ.5 กล่าวต่อว่า จะยังคงเน้นนโยบาย "นำคุณค่าสู่สังคมไทย" ซึ่งเป็นสโลแกนที่ปรับใหม่ ให้เข้ากับความต้องการของสังคม และเป็นการฉลองโอกาส ครบรอบ 50 ปี ททบ.5 ในปีหน้าด้วย โดยเน้นให้ทุกรายการ เพิ่มสาระความรู้ และการช่วยเหลือสังคมผ่านในทุกรายการ ไม่เว้นแม้แต่รายการ "บันเทิง" ก็ต้องเป็น "บันเทิงเชิงสาระ"
นอกจากนี้ ททบ. 5 มีแผนจัดกิจกรรมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมตลอดปีหน้า เช่น การปลูกป่าฯ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกสถานการณ์ เป็นต้น ซึ่งเป็นการขานรับกระแสนิยม CSR [Coperate Social Responsibility] คือการเป็นสถาบันที่รับผิดชอบต่อสังคม
สำหรับผู้จัดรายการที่เข้ามาในผังใหม่ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้จัดรายเดิม เช่น เจเอสแอล กันตนา เวิร์คพอยท์ แกรมมี่ เอ็กแซกท์ อาร์เอส โพลีพลัส และ โน้ตพับลิชชิ่ง เป็นต้น ส่วนผู้จัดที่ย้ายค่ายจากทีวีช่องอื่น ยังไม่มีมากนัก เนื่องจากทางสถานีต้องให้โอกาสผู้จัดรายเดิมที่ยังมีผลงานดีเด่นก่อน แต่ในอนาคตสามารถพิจารณาใหม่ได้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่มีและความเหมาะสม ส่วนผู้จัดรายการรายย่อย ก็ยังได้รับโอกาสจาก ททบ.5 มากเช่นเคย ซึ่งมีกว่า 100 ราย
ส่วนเรื่องการปรับค่าเวลา และโฆษณา ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากต้องการให้ผู้จัดรายการใช้งบประมาณมาทุ่มเทผลิตรายการคุณภาพให้เต็มที่ ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะทบทวนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเพื่อพิจารณาค่าเวลาอีกครั้ง ใน 6 เดือนข้างหน้า
ยึดผู้จัดรายเก่า เสริมผู้จัดรายใหม่ ช่วงนอนไพร์มไทม์ วางผังเสาร์-อาทิตย์เข้มข้น เพื่อเพิ่มเรตติ้ง เตรียมเปิดตัว ปลาย ธ.ค.นี้
พลโท กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เปิดเผยถึง ผังรายการใหม่ ประจำปี 2551 ว่า ภาพรวมของผังรายการในช่วงไพร์มไทม์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะลงตัว และเรตติ้งดีอยู่แล้ว ส่วนช่วงที่มีการปรับจะเป็นรายการทั่วไป และในวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งจะตัดรายการสั้นให้น้อยลง เน้นความต่อเนื่องของรายการใหญ่ เพื่อดึงความนิยมจากผู้ชมให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผังใหม่ครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนประมาณ 20% - 30% วันเสาร์และอาทิตย์ ช่วงนอนไพร์มไทม์ โดยยังคงสัดส่วนผังรายการเหมือนเดิม คือ รายการประเภทข่าว 30 % สาระความรู้ 40 % และบันเทิง 30% โดยเพิ่มแถบรายการเด็กและเยาวชน ไว้ในช่วง 17.30 น. ของทุกวัน และ แถบกีฬาที่ เวลา 15.00 น. ทุกวันเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการร่วมผลิตรายการบริการสังคม กับ "สถานีสนามเป้า" ทุกเช้าวันจันทร์ ถึง ศุกร์ เวลา 07.00น.-08.30 น. จัดเป็นช่วง "ช่อง 5 บริการชาวบ้าน" โดยมีพิธีกรจากฝ่ายข่าว เป็นผู้ดำเนินรายการ
ผู้อำนวยการ ททบ.5 กล่าวต่อว่า จะยังคงเน้นนโยบาย "นำคุณค่าสู่สังคมไทย" ซึ่งเป็นสโลแกนที่ปรับใหม่ ให้เข้ากับความต้องการของสังคม และเป็นการฉลองโอกาส ครบรอบ 50 ปี ททบ.5 ในปีหน้าด้วย โดยเน้นให้ทุกรายการ เพิ่มสาระความรู้ และการช่วยเหลือสังคมผ่านในทุกรายการ ไม่เว้นแม้แต่รายการ "บันเทิง" ก็ต้องเป็น "บันเทิงเชิงสาระ"
นอกจากนี้ ททบ. 5 มีแผนจัดกิจกรรมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมตลอดปีหน้า เช่น การปลูกป่าฯ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกสถานการณ์ เป็นต้น ซึ่งเป็นการขานรับกระแสนิยม CSR [Coperate Social Responsibility] คือการเป็นสถาบันที่รับผิดชอบต่อสังคม
สำหรับผู้จัดรายการที่เข้ามาในผังใหม่ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้จัดรายเดิม เช่น เจเอสแอล กันตนา เวิร์คพอยท์ แกรมมี่ เอ็กแซกท์ อาร์เอส โพลีพลัส และ โน้ตพับลิชชิ่ง เป็นต้น ส่วนผู้จัดที่ย้ายค่ายจากทีวีช่องอื่น ยังไม่มีมากนัก เนื่องจากทางสถานีต้องให้โอกาสผู้จัดรายเดิมที่ยังมีผลงานดีเด่นก่อน แต่ในอนาคตสามารถพิจารณาใหม่ได้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่มีและความเหมาะสม ส่วนผู้จัดรายการรายย่อย ก็ยังได้รับโอกาสจาก ททบ.5 มากเช่นเคย ซึ่งมีกว่า 100 ราย
ส่วนเรื่องการปรับค่าเวลา และโฆษณา ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากต้องการให้ผู้จัดรายการใช้งบประมาณมาทุ่มเทผลิตรายการคุณภาพให้เต็มที่ ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะทบทวนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเพื่อพิจารณาค่าเวลาอีกครั้ง ใน 6 เดือนข้างหน้า