สตช.เจรจา กกต. ขอเพิ่มงบสนับสนุนเลือกตั้ง ยันต้องได้ 197 ล้าน บีบ กกต.ยื่นขอเพิ่มจากรัฐบาลเอามาจ่ายให้ ขณะที่สันติบาล ยื่นขออีกต่างหาก 10 ล้าน เพื่อใช้หาข่าว ส่งผลค่าจัดเลือกตั้งใกล้ทะลุ 2,500 ล้าน มากกว่าเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ด้าน กกต. บอกงบที่ได้รับมาใช้หมดแล้ว ตอนนี้ต้องใช้งบกลาง จึงไม่มีให้แล้ว
วานนี้ (29 พ.ย.) พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ นายศักดาพินิจ ณรงค์ชาติโสภณ และพล.ต.ท.จิโรจน์ ไชยชิต ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นตัวแทนไปเจรจากับกกต. เพื่อขอพิ่มงบประมาณสนับสนุนในการช่วยเหลือการเลือกตั้งแก่สตช. เพิ่มอีก 156 ล้านบาท จากเดิมที่ได้รับการจัดสรรไป 41 ล้านบาท เพื่อให้ได้ตามจำนวนที่ สตช. ทำเรื่องขอมาคือ 197 ล้านบาท กับเลขาธิการ กกต. ปรากฎว่ามีรายงานว่า ในการหารือทางผู้แทน สตช. ยังคงยืนยันว่าต้องได้รับงบประมานสนับสนุนในจำนวนดังกล่าว โดยอ้างว่า การหารือระหว่าง กกต. กับนายกรัฐมนตรี เมื่อกลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
กกต.ได้ขอให้ตำรวจเข้ามาช่วยเหลืองานการเลือกตั้ง ทำให้สตช. ได้ไปทำแผนโดยมีระยะเวลาในการปฏิบัติงานสนับสนุนการเลือกตั้ง ตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง จนถึงวันเลือกตั้งรวม 45 วัน และได้มีการปฏิบัติงานไปแล้ว ประกอบกับในคราวที่ สตช. ทำเรื่องของบประมานประจำปี 51 ไปยัง ครม. ก็ไม่ได้มีการของบฯเตรียมไว้สำหรับการเลือกตั้ง
การที่ กกต.อ้างว่าได้จัดสรรงบประมาณให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในหน่วยเลือกตั้ง และชุดป้องปรามหาข่าวโดยจ่ายตรงให้พื้นที่ในวงเงิน 106 ล้านบาทแล้วนั้น ถือว่าเป็นคนละส่วนกัน เพราะภารกิจที่ทำให้ทางตำรวจต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มอีก 156 ล้านบาท เป็นเรื่องของการจัดชุดสืบสวนหาข่าว การรักษาความสงบเรียบร้อยในการจัดการเลือกตั้งระดับกองบัญชาการ และสถานีตำรวจ 1,500 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีการตั้งงบประมาณขอรับการจัดสรร 174 ล้านบาท การรักษาความปลอดภัย การพิมพ์ ส่ง และ เก็บรักษาบัตรเลือกตั้ง 3.5 ล้านบาท กิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการออกเสียงเลือกตั้ง เช่นการให้ความรู้กฎหมายเลือกตั้ง ค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมประชาสัมพันธ์ในการปฏิบัติงาน 5 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินที่ขอสนับสนุน 197 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทางเลขาฯ กกต. ได้พยายามเจรจาว่า กกต. ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล มาเพียง 1,900 ล้านบาท และ กกต. ก็ได้นำงบประมาณเหลือจ่ายจากการเลือกตั้งในอดีตมาสมทบอีก 600 ล้านบาท รวมเป็นงบประมาณในการเลือกตั้ง 2,500 ล้านบาท และขณะนี้มีการจัดสรรให้หน่วยงานสนับสนุนต่างๆไปหมดแล้ว แม้จะเห็นความจำเป็นของตำรวจ แต่ก็ไม่สามารถจัดสรรเพิ่มให้ ตามวงเงินที่ขอมา รวมทั้งภารกิจที่ตำรวจอ้างนั้น ถือเป็นภารกิจปกติ และอาจจะซ้ำซ้อนกับงานที่ กกต. ได้มีการอนุมัติงบประมาณให้กับตำรวจไปแล้ว เช่น ชุดสืบสวนหาข่าว ป้องปรามที่ กกต. ได้จ่ายตรงให้กับตำรวจในพื้นที่ แต่หาก ตำรวจยืนยันถึงความจำเป็น เป็นไปได้หรือไม่ที่ตำรวจจะลดเวลาในการปฏิบัติหน้าที่จาก 45 วัน เหลือ 15 วันก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งจะใช้งบประมาณเพียง 65 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ กกต. ก็จัดสรรให้ไปแล้ว 41 ล้าน จึงเหลืองบที่จะจัดสรรเพิ่มเพียง 25 ล้านบาท ซึ่ง กกต. ก็พอที่หางบประมาณมาสนับสนุนได้
และหากทาง สตช. ยังเห็นว่าไม่เพียงพอต่อความจำเป็นก็อยากให้ สตช. เสนอต่อ ครม.โดยตรง ปรากฏว่าผู้แทนสตช. ก็ยืนยันว่า งานการเลือกตั้งไม่ใช่ภารกิจหลักที่จะให้ สตช.ไปยื่นของบประมาณโดยตรงจาก ครม.ได้ จึงขอให้เลขาฯ กกต. ทำเรื่องเข้าที่ประชุม กกต. ว่าทางสตช. มีความจำเป็นต้องขอรับงบประมาณเพิ่มเติมอีก 156 ล้านบาท จากที่ได้รับไปแล้ว 41 ล้านบาท เพื่อให้ได้งบประมาณ 197 ล้านบาท ตามที่ สตช.เสนอมา เพื่อให้ กกต. มีมติ และทำเรื่องให้สำนักงบประมาณว่า สตช. ควรจะได้งบประมานเท่าใด
ทั้งนี้ หากมีการจัดสรรงบประมาณให้กับตำรวจตามที่ขอ เมื่อรวมกับงบประมาณที่ กกต.จัดสรรให้ตำรวจโดยตรงในพื้นที่ รวมแล้วตำรวจจะได้รับงบประมาณไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท และขณะนี้ทางกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ก็มีหนังสือของบประมาณในการเข้ามาร่วมสืบสวนหาข่าวอีก 10 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก กกต. ระบุว่าการจ่ายงบประมานสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ มียอดใกล้จะทะลุ 2,500 ล้านบาทแล้ว ทั้งจากการที่ สตช. ของบประมานเพิ่ม และการที่ประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดถึง 2 ล้านคน ทำให้ ต้องเตรียมสถานที่รองรับคนที่จะมาลงคะแนนล่วงหน้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้เงินมากกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณี สตช.ขอสนับสนุนงบเลือกตั้งเพิ่มว่า กกต. คงต้องยืนยันว่า ไม่ได้จัดสรรงบให้กับ สตช.แค่ 41 ล้านบาท อย่างที่ สตช.ระบุ แต่ยังมีงบอีกจำนวนหนึ่งที่ กกต.มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรง ที่มาทำหน้าที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ชุดป้องกันและปราบปราม และมาทำหน้าเป็นคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน รวมแล้วงบที่ตำรวจได้มากกว่า 140 ล้านบาท
นายสุทธิพล กล่าวว่า งบประมาณที่กกต.ได้รับการจัดสรรมาจำนวน 1,900 ล้านบาทนั้น ถูกใช้หมดแล้ว และตอนนี้กำลังใช้เงินกองกลางของ กกต.เองจำนวน 500 ล้านบาท รวมทั้งหมดประมาณ 2,500 ล้านบาท กกต.จึงต้องพิจารณาก่อนว่า สตช. มีภารกิจเพิ่มเติมหรือไม่ หากเป็นภารกิจหลักอยู่แล้ว ก็อยากให้สตช. ช่วย กกต.ด้วย แต่หากเดือดร้อนจริงๆ ก็อยากให้หารือกัน เพราะอยากให้ช่วยกันประหยัดงบประมาณของประเทศชาติ
"ขอยืนยันว่า กกต.ยังเคารพ และเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความสำคัญ ที่ว่าตำรวจได้คนละแค่ 4 บาท คงไม่จริง เพราะ กกต.ได้มอบงบประมาณจำนวน 41 ล้านบาทให้ก่อนที่ตำรวจจะเริ่มภารกิจด้วยซ้ำไป ส่วนอีกประมาณ 140 ล้านบาทนั้น กกต.ได้ส่งงบประมาณดังกล่าวให้ กกต.จังหวัดต่างๆ เพื่อให้สั่งจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่อไปแล้วำ"
วานนี้ (29 พ.ย.) พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ นายศักดาพินิจ ณรงค์ชาติโสภณ และพล.ต.ท.จิโรจน์ ไชยชิต ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นตัวแทนไปเจรจากับกกต. เพื่อขอพิ่มงบประมาณสนับสนุนในการช่วยเหลือการเลือกตั้งแก่สตช. เพิ่มอีก 156 ล้านบาท จากเดิมที่ได้รับการจัดสรรไป 41 ล้านบาท เพื่อให้ได้ตามจำนวนที่ สตช. ทำเรื่องขอมาคือ 197 ล้านบาท กับเลขาธิการ กกต. ปรากฎว่ามีรายงานว่า ในการหารือทางผู้แทน สตช. ยังคงยืนยันว่าต้องได้รับงบประมานสนับสนุนในจำนวนดังกล่าว โดยอ้างว่า การหารือระหว่าง กกต. กับนายกรัฐมนตรี เมื่อกลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
กกต.ได้ขอให้ตำรวจเข้ามาช่วยเหลืองานการเลือกตั้ง ทำให้สตช. ได้ไปทำแผนโดยมีระยะเวลาในการปฏิบัติงานสนับสนุนการเลือกตั้ง ตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง จนถึงวันเลือกตั้งรวม 45 วัน และได้มีการปฏิบัติงานไปแล้ว ประกอบกับในคราวที่ สตช. ทำเรื่องของบประมานประจำปี 51 ไปยัง ครม. ก็ไม่ได้มีการของบฯเตรียมไว้สำหรับการเลือกตั้ง
การที่ กกต.อ้างว่าได้จัดสรรงบประมาณให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในหน่วยเลือกตั้ง และชุดป้องปรามหาข่าวโดยจ่ายตรงให้พื้นที่ในวงเงิน 106 ล้านบาทแล้วนั้น ถือว่าเป็นคนละส่วนกัน เพราะภารกิจที่ทำให้ทางตำรวจต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มอีก 156 ล้านบาท เป็นเรื่องของการจัดชุดสืบสวนหาข่าว การรักษาความสงบเรียบร้อยในการจัดการเลือกตั้งระดับกองบัญชาการ และสถานีตำรวจ 1,500 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีการตั้งงบประมาณขอรับการจัดสรร 174 ล้านบาท การรักษาความปลอดภัย การพิมพ์ ส่ง และ เก็บรักษาบัตรเลือกตั้ง 3.5 ล้านบาท กิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการออกเสียงเลือกตั้ง เช่นการให้ความรู้กฎหมายเลือกตั้ง ค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมประชาสัมพันธ์ในการปฏิบัติงาน 5 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินที่ขอสนับสนุน 197 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทางเลขาฯ กกต. ได้พยายามเจรจาว่า กกต. ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล มาเพียง 1,900 ล้านบาท และ กกต. ก็ได้นำงบประมาณเหลือจ่ายจากการเลือกตั้งในอดีตมาสมทบอีก 600 ล้านบาท รวมเป็นงบประมาณในการเลือกตั้ง 2,500 ล้านบาท และขณะนี้มีการจัดสรรให้หน่วยงานสนับสนุนต่างๆไปหมดแล้ว แม้จะเห็นความจำเป็นของตำรวจ แต่ก็ไม่สามารถจัดสรรเพิ่มให้ ตามวงเงินที่ขอมา รวมทั้งภารกิจที่ตำรวจอ้างนั้น ถือเป็นภารกิจปกติ และอาจจะซ้ำซ้อนกับงานที่ กกต. ได้มีการอนุมัติงบประมาณให้กับตำรวจไปแล้ว เช่น ชุดสืบสวนหาข่าว ป้องปรามที่ กกต. ได้จ่ายตรงให้กับตำรวจในพื้นที่ แต่หาก ตำรวจยืนยันถึงความจำเป็น เป็นไปได้หรือไม่ที่ตำรวจจะลดเวลาในการปฏิบัติหน้าที่จาก 45 วัน เหลือ 15 วันก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งจะใช้งบประมาณเพียง 65 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ กกต. ก็จัดสรรให้ไปแล้ว 41 ล้าน จึงเหลืองบที่จะจัดสรรเพิ่มเพียง 25 ล้านบาท ซึ่ง กกต. ก็พอที่หางบประมาณมาสนับสนุนได้
และหากทาง สตช. ยังเห็นว่าไม่เพียงพอต่อความจำเป็นก็อยากให้ สตช. เสนอต่อ ครม.โดยตรง ปรากฏว่าผู้แทนสตช. ก็ยืนยันว่า งานการเลือกตั้งไม่ใช่ภารกิจหลักที่จะให้ สตช.ไปยื่นของบประมาณโดยตรงจาก ครม.ได้ จึงขอให้เลขาฯ กกต. ทำเรื่องเข้าที่ประชุม กกต. ว่าทางสตช. มีความจำเป็นต้องขอรับงบประมาณเพิ่มเติมอีก 156 ล้านบาท จากที่ได้รับไปแล้ว 41 ล้านบาท เพื่อให้ได้งบประมาณ 197 ล้านบาท ตามที่ สตช.เสนอมา เพื่อให้ กกต. มีมติ และทำเรื่องให้สำนักงบประมาณว่า สตช. ควรจะได้งบประมานเท่าใด
ทั้งนี้ หากมีการจัดสรรงบประมาณให้กับตำรวจตามที่ขอ เมื่อรวมกับงบประมาณที่ กกต.จัดสรรให้ตำรวจโดยตรงในพื้นที่ รวมแล้วตำรวจจะได้รับงบประมาณไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท และขณะนี้ทางกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ก็มีหนังสือของบประมาณในการเข้ามาร่วมสืบสวนหาข่าวอีก 10 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก กกต. ระบุว่าการจ่ายงบประมานสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ มียอดใกล้จะทะลุ 2,500 ล้านบาทแล้ว ทั้งจากการที่ สตช. ของบประมานเพิ่ม และการที่ประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดถึง 2 ล้านคน ทำให้ ต้องเตรียมสถานที่รองรับคนที่จะมาลงคะแนนล่วงหน้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้เงินมากกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณี สตช.ขอสนับสนุนงบเลือกตั้งเพิ่มว่า กกต. คงต้องยืนยันว่า ไม่ได้จัดสรรงบให้กับ สตช.แค่ 41 ล้านบาท อย่างที่ สตช.ระบุ แต่ยังมีงบอีกจำนวนหนึ่งที่ กกต.มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรง ที่มาทำหน้าที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ชุดป้องกันและปราบปราม และมาทำหน้าเป็นคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน รวมแล้วงบที่ตำรวจได้มากกว่า 140 ล้านบาท
นายสุทธิพล กล่าวว่า งบประมาณที่กกต.ได้รับการจัดสรรมาจำนวน 1,900 ล้านบาทนั้น ถูกใช้หมดแล้ว และตอนนี้กำลังใช้เงินกองกลางของ กกต.เองจำนวน 500 ล้านบาท รวมทั้งหมดประมาณ 2,500 ล้านบาท กกต.จึงต้องพิจารณาก่อนว่า สตช. มีภารกิจเพิ่มเติมหรือไม่ หากเป็นภารกิจหลักอยู่แล้ว ก็อยากให้สตช. ช่วย กกต.ด้วย แต่หากเดือดร้อนจริงๆ ก็อยากให้หารือกัน เพราะอยากให้ช่วยกันประหยัดงบประมาณของประเทศชาติ
"ขอยืนยันว่า กกต.ยังเคารพ และเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความสำคัญ ที่ว่าตำรวจได้คนละแค่ 4 บาท คงไม่จริง เพราะ กกต.ได้มอบงบประมาณจำนวน 41 ล้านบาทให้ก่อนที่ตำรวจจะเริ่มภารกิจด้วยซ้ำไป ส่วนอีกประมาณ 140 ล้านบาทนั้น กกต.ได้ส่งงบประมาณดังกล่าวให้ กกต.จังหวัดต่างๆ เพื่อให้สั่งจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่อไปแล้วำ"