xs
xsm
sm
md
lg

"อ๋อย-อดิศร"บุกท่าน้ำนนท์ เปิดปราศรัยกระทบชิ่งทหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (25 พ.ย.) ที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ประกอบด้วย นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายอดิศร เพียงเกษ และนพ.ทศพร เสรีรักษ์ ได้จัดเวทีปราศรัย "111 พบประชาชน" โดยมีประชาชนให้ความสนใจรับฟังประมาณ 500 คน โดย นพ.ทศพร เป็นพิธีกรบนเวที ระบุว่า แกนนำปราศรับมีแค่ นายจาตุรนต์ และนายอดิศร จะมาเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนรับทราบ ถึงกรณีที่ กกต. สั่งห้ามไม่ให้ อดีตกรรมการบริหาร 111 คนที่ถูกตัดสิทธิ ปราศรัยช่วยนักการเมืองหาเสียง
ในการปราศรัย นายอดิศร ได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจ และมาฟังข้อมูล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต้องยกเลิกการปราศรัยที่สวนลุมพินี เนื่องจาก กทม.ไม่อนุญาต แต่เมื่อมาขออนุญาตเทศบาลเมืองนนทบุรี ก็ได้รีบอนุญาต จึงขอรายงานตัวว่า ตนชื่อ ด.ช.อดิศร เพียงเกษ อายุ 13 ปี คนที่จะมาปราศรัยต่อจากตนชื่อ ด.ช.จาตุรนต์ ฉายแสง จะมาพูดเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้
"ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่มีบัตรประชาชน แต่ไม่มีสิทธิมีเสียง ทั้งที่รัฐบาลเก็บภาษี 100 % เต็ม ทั้ง สมัยผมเป็นนักการเมืองก็แสดงบัญชีทรัพย์สิน การการเสียภาษีครบถ้วนสมบูรณ์ และเงินดังกล่าวก็นำไปจ้างข้าราชการทหารเข้ามาดูแลประชาชน แต่ขณะนี้ผมเหมือนไม่ได้เป็นประชาชนชาวไทย วันนี้ถ้าไม่เกรงใจผมจะกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาตาย เพราะขนาดไปขอพื้นที่ปราศรัยที่สวนลุม โดยขอกับนายอภิรักษ์ ผู้ว่าฯ กทม. และรองหัวหน้าพรรค ปชป. กลับไม่ได้รับอนุญาต ทั้งที่นายอภิรักษ์ ก็มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้มาจากกระบอกปืน แต่กลับไม่สนับสนุนให้ประชาชนใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งในวันที่ 30 พ.ย.นี้ 111 คนจะไปพิจารณาหาพื้นที่ปราศรัยใน กทม.อีกครั้ง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นสถานที่ใด หากไม่อนุญาต ก็จะไปใช้อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย พร้อมจะปราศรัยไป จ่ายค่าปรับไป"
นายอดิศร กล่าวว่า พวกตนไม่มีสิทธิเลือกตั้ง จึงฝากประชาชนใช้สิทธิแทน แต่เลือกพรรคไหนคงไม่ต้องบอก พูดมากไปจะถูกยุบพรรค อยากถามหน่อย ประเทศไหนในโลกนี้ยุบพรรคเป็นกิจวัตร ระบอบประชาธิปไตย ที่ไหนยุบพรรคการเมือง แถมยุบอยู่พรรคเดียว
ด้านนายจาตุรนต์ ให้สัมภาษณ์ ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยว่า เป็นการยืนยันที่จะใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และมองว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ประชาชนจำเป็นต้องรับทราบข้อมูลให้หลากหลายรอบด้าน เพราะเป็นที่น่าสังเกตุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ มีการติดป้ายหาเสียง การโฆษณา การแนะนำตัวในรูปแบบการสื่อสารต่างๆ ของพรรคการเมืองน้อยมาก ดังนั้น กกต. ควรหาทางแก้ไขในเรื่องนี้ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ เราสามารถทำได้ เพราะเป็นการดำเนินการที่ไม่ผิดกฎหมาย และควรใช้สิทธิตามระบอบประชาชธิปไตยให้เป็นประโยชน์กับประชาชน และเราจะออกมาผลักดันให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่าง บริสุทธิ์ ยุติธรรม โดยไม่ได้มีเจตนาจะเป็นการเคลื่อนไหวให้เกิดความวุ่นวาย หรือความไม่สงบทางการเมือง
"ผมมีข้อสังเกตุถึงสถานการณ์บางอย่างที่อยากเสนอให้พรรคการเมืองบางพรรค ประพฤติให้อยู่กับร่องกับรอย ไม่ใช่อยู่ต่างจังหวัดพูดอย่าง อยู่ กทม.พูดอีกอย่าง ควรบอกให้ชัดเจนไปเลยว่า จุดยืนเป็นอยางไร ไม่ใช่ถูกผู้มีอำนาจหักหลัง ก็มาบอกว่าจะไม่ร่วมพรรคนั้น พรรคนี้ หรืออย่างพรรค ปชป. ที่ นายอภิสิทธิ์ ออกมาพูดทำนองว่า นายบรรหาร ไม่ควรทำให้ ผู้ใหญ่บางคนผิดหวัง ตรงนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า แท้จริงแล้ว ปชป. ไม่ได้มีหลักการ ประชาชนต้องมาก่อน แต่ยึดหลักการ ผู้ใหญ่บางคนต้องมาก่อน จึงอยากให้ พรรค ปชป. ออกมาพูดให้ชัดๆ ว่าใครจะร่วมกับใครกันแน่ "
ส่วนกรณีที่ล่าสุดที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และอดีตกก.บห. 111 คน ที่ไปอยู่พรรคอื่นๆ ออกมาบอกว่า จะหยุดบทบาททางการเมือง หลัง กตต.ห้าม ตนอยากบอกว่า พวกตนและนายสมคิด มาจากคนละที่กัน เพราะพวกตนยืนยันว่าจะไม่หยุดการเคลื่อนไหว ตามสิทธิที่พึงมีตามระบอบประชาธิปไตย เพราะเราต่อสู้ทางการเมืองกว่า 30 ปี แต่ต้องมาถูกตัดสิทธิอย่างไม่เป็นธรรมจึงต้องต่อสู้ เพื่อเรียกร้องสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่า การปราศรัย เป็นการท้าทาย หรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะการชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่การแสดงพลัง แต่จะทำเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นธรรม โดยเฉพาะเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเป็นอยางไร ทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับ ไม่ใช่มาใช้กฎหมู่ หรือใช้ทหาร ออกมายึดอำนาจอีกตรงนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเราเชื่อว่าการเลือกตั้งเป็นทางออกจริงๆ ที่จะแก้ปัญหาการเมือง
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า หลังการจัดเวทีปราศรัยครั้งนี้ก็ จะมีการจัดปราศรัยต่อไปเป็นระยะ ที่ผ่านมา กกต. ข่มขู่ว่าไม่ให้พูดพาดพิง ช่วยเหลือพรรคการเมือง ไม่เช่นนั้น อาจเข้าข่ายถูกยุบพรรค ทำให้เราต้องระวัง ซึ่งพรรคการเมืองหลายพรรครู้สึกหวาดกลัว ส่วนที่ กกต. บอกว่า พวกเราไม่มีสิทธิมาขึ้นเวที เรามองว่า กกต. พูดกลับไป กลับมา และมีลักษณะเหมือนการข่มขู่ ทำให้ผู้สมัคร อดีต กก.บห.พรรคหวาดกลัว แต่ไม่มีผลทางกฎหมาย
นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. กล่าวถึง กรณีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เปิดเวทีปราศรัยที่ท่าน้ำนนท์ ในช่วงเย็น (25 พ.ย.) ว่า ทาง กกต.จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบเนื้อหาการปราศรัย หากมีการพูดให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งได้ประโยชน์ ก็จะต้องดูว่าเข้าข่ายความผิด มาตรา 97 หรือไม่ หากเข้าข่ายความผิด ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ
"หาก 111 คน ต้องการแกล้งประชาธิปัตย์ ก็บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ดี จึงต้องแยกแยะให้ออก เพราะอาจจะมีการกลั่นแกล้งกันได้ ถ้าแสดงความคิดเห็นอย่างสุจริตในฐานะประชาชน ก็ไม่มีปัญหา" นายสุเมธ กล่าว และเห็นว่าการปราศัยของคนกลุ่มนี้สามารถทำได้ เพราะเป็นการใช้สิทธิ์ขั้นพื้นฐาน แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น