ผบ.ตร.เตรียมตั้งกรรมการสอบ“็วิสุทธ์ วานิชบุตร” ฐานพูดให้ร้าย ตำรวจท้องที่รับส่วยซีดี ระบุ ปากดี ชักจะเวอร์มากไป แถมชอบทำตัวเป็นพระเอก
วานนี้(23 พ.ย.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)กล่าวถึงกรณีที่ นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ เสี่ยเจียง ออกมาเปิดเผยว่า ตำรวจที่ดูแลพื้นที่ย่านตลาดคลองถม และบ้านหม้อ ไม่จับกุมซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ และมีการรับส่วยถึง 40 ล้าน จากกลุ่มผู้ค้าซีดี ว่าพวกนี้ไม่ใช่นักกฎหมายพูดอะไรไม่อาศัยข้อเท็จจริง เป็นหลัก ชอบฟังเขาเล่าแล้วเอามาพูด ถ้าพลั้งเผลอก็จะถูกฟ้อง ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองจะพูดต้องพูดแค่ไหน สิ่งที่เขาคิดเอาความรู้สึกมาหรือเปล่า เห็นท้องที่มีซีดีเถื่อนก็หาว่าเขารับส่วย สิ่งที่คุณคิด คุณเอาความรู้สึกมาพูดหรือเปล่า เห็นท้องที่มี ก็สงสัยว่ารับส่วย รับผลประโยชน์ ถามจริงๆ ถ้าเขาไปจ่าย ไปรับ จริงๆ จะบอกใคร ใครจะเห็นถ้าไม่มีหลักฐานอย่างพูด เขาเสียหาย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตำรวจก็ช่วยในการปราบปราม พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วาณิชบุตร ผบก.ปศท.ตนเองก็ตั้งมาให้ไปปราบ ขอลูกน้องไปปราบตนเองก็ให้ แต่คนพวกนี้ไม่เคยดัง ก็อยากดังก็พูดไปเรื่อย ซึ่งตนเตรียมตั้งกรรมการสอบสวน ผบก.ปศท.กรณีที่พูดอะไรไม่มีเหตุผล เป็นตำรวจพูดจาขาดหลักการ ขาดหลักฐานได้อย่างไร อยู่ๆ ก็พูดลอยๆ เป็นตำรวจพูดแบบนี้ไม่ได้ ไปออกทีวีกล่าวหาคนโน้นคนนี้เพราะอยากดัง
“เมื่อก่อนให้ไปปราบปรามพูดก็ดี แต่ตอนนี้มันชักจะเวอร์ไปแล้ว จะเป็นพระเอกอยู่คนเดียวไม่ไหว ปากดีก็ดีไปแต่ชักจะมาก พูดจาให้คนอื่นเสียหายไม่ได้ ที่ทำได้ก็เพราะผมให้ไปทำ อย่างนักร้องก็ไปเป็นเครื่องมือให้เขาจูงจมูกทั้งนั้น วงการซีดีมันสกปรก ทำเอง ปั้มซีดีเองแล้วก็ส่งนักกฎหมายไปตีกิน พวกพ่อค้าซีดีก็เหมือนกันพูดอะไรก็อย่าไม่เชื่อมาก พวกนี้เป็นเรื่องของผลประโยชน์ทั้งนั้นบางครั้งพูดเองขายเองพิมพ์ปลอมเอง จะได้ไม่ต้องจ่ายมา เป็นเล่ห์เหลี่ยม บางทีก็มอบอำนาจให้นักกฎหมาย ไปตีกินทั่วประเทศที่ไหนยอมก็รับเงินมาก็เลิก อย่าไปฟังเขามาก มาวัดกับตนเองว่าใครมีความซื่อสัตย์สุจริตมากกว่ากับ” ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสอบสวนในส่วนของ บก.6 ด้วยหรือไม่หลังจากถูกกล่าวหาว่ารับส่วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า คุณแน่จริงไปหาหลักฐานที่ไหน คุณไปรับเงินใครคุณบอกใครหรือเปล่า ไม่มีหรอก เพียงแต่ว่าถ้าปล่อยปละละเลยมากๆ ก็ลงโทษกันไป แต่คนที่พูดเวอร์เกินไปอยากดัง ไปพูดจาใส่ความคนอื่นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน เอาหลักฐานอะไร ไปพูดคนโน้นคนนี้รับส่วย พูดอะไรต้องมีหลักฐานมีเหตุผล เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว
ต่อข้อถามที่ว่าในส่วนของดารานักร้องไปพูดกล่าวหาตำรวจรับส่วยจะดำเนินการฟ้องร้องหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เขาพูด ตนเองไม่ได้ยินหรอก ที่จะซวยคือหนังสือพิมพ์ที่เอาคำพูดเขาไปลง เพราะถ้าจะฟ้องก็ฟ้องหนังสือพิมพ์ ซึ่งพวกคุณเองต้องระวังว่าทำอะไรต้องมีเหตุผลมีหลักการ จะวิเคราะห์วิจารณ์อะไรก็ต้องมีเหตุผล
ด้าน พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วาณิชบุตร ผบก.ปศท.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ไปออก รายการตาสว่างทางช่อง 9 ซึ่งในรายการผู้ดำเนินรายการถามว่าเชื่อหรือไม่ว่า ตำรวจในพื้นที่ บก.น.6 รับส่วย 40 ล้าน ซึ่งในรายการตนเองบอกไปว่าไม่เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ซึ่งสามารถไปถอดเทปรายการมาฟังได้ เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงที่โกหกกันไม่ได้ ซึ่งหากถอดเทปรายการมาก็จะรู้ความจริงว่าตนเองไม่ได้พูด แต่ปัญหาคือมีคนไปรายงาน ผบ.ตร.ว่าตนเองพูดในรายการว่ามีการรับส่วย 40 ล้านจริง ทำให้ ผบ.ตร.เข้าใจตนเองผิด
“ขอยืนยันว่าผมไม่ได้พูดหรือพาดพิงว่าในพื้นที่ บก.น.6 รับส่วย และในรายการผมยังพูดว่าท้องที่มีภาระอย่างอื่นปัญหาอาชญากรรมที่ต้องดูแล ขณะเดียวกันก็ไม่เคยตอบโต้ ผบก.น.6 เพียงแต่ทาง ผบก.น.6 ออกมาแถลงข่าวว่ามีการจับกุมซีดีเถื่อน ซึ่งที่ผ่านมาผมจับซีดีทุกพื้นที่ไม่ได้เลือกว่าพื้นที่ไหน มีคนมาร้องหรือไม่มีคนมาร้องก็จับหมด ผมยืนยันว่าไม่เคยพูดว่าพื้นที่บก.น.6 รับส่วยเพียงแต่มีกลุ่มดารานักร้องที่ไปประท้วงพูดในวันที่ไปประท้วงซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลย” ผบก.ปศท.กล่าว
วานนี้(23 พ.ย.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)กล่าวถึงกรณีที่ นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ เสี่ยเจียง ออกมาเปิดเผยว่า ตำรวจที่ดูแลพื้นที่ย่านตลาดคลองถม และบ้านหม้อ ไม่จับกุมซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ และมีการรับส่วยถึง 40 ล้าน จากกลุ่มผู้ค้าซีดี ว่าพวกนี้ไม่ใช่นักกฎหมายพูดอะไรไม่อาศัยข้อเท็จจริง เป็นหลัก ชอบฟังเขาเล่าแล้วเอามาพูด ถ้าพลั้งเผลอก็จะถูกฟ้อง ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองจะพูดต้องพูดแค่ไหน สิ่งที่เขาคิดเอาความรู้สึกมาหรือเปล่า เห็นท้องที่มีซีดีเถื่อนก็หาว่าเขารับส่วย สิ่งที่คุณคิด คุณเอาความรู้สึกมาพูดหรือเปล่า เห็นท้องที่มี ก็สงสัยว่ารับส่วย รับผลประโยชน์ ถามจริงๆ ถ้าเขาไปจ่าย ไปรับ จริงๆ จะบอกใคร ใครจะเห็นถ้าไม่มีหลักฐานอย่างพูด เขาเสียหาย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตำรวจก็ช่วยในการปราบปราม พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วาณิชบุตร ผบก.ปศท.ตนเองก็ตั้งมาให้ไปปราบ ขอลูกน้องไปปราบตนเองก็ให้ แต่คนพวกนี้ไม่เคยดัง ก็อยากดังก็พูดไปเรื่อย ซึ่งตนเตรียมตั้งกรรมการสอบสวน ผบก.ปศท.กรณีที่พูดอะไรไม่มีเหตุผล เป็นตำรวจพูดจาขาดหลักการ ขาดหลักฐานได้อย่างไร อยู่ๆ ก็พูดลอยๆ เป็นตำรวจพูดแบบนี้ไม่ได้ ไปออกทีวีกล่าวหาคนโน้นคนนี้เพราะอยากดัง
“เมื่อก่อนให้ไปปราบปรามพูดก็ดี แต่ตอนนี้มันชักจะเวอร์ไปแล้ว จะเป็นพระเอกอยู่คนเดียวไม่ไหว ปากดีก็ดีไปแต่ชักจะมาก พูดจาให้คนอื่นเสียหายไม่ได้ ที่ทำได้ก็เพราะผมให้ไปทำ อย่างนักร้องก็ไปเป็นเครื่องมือให้เขาจูงจมูกทั้งนั้น วงการซีดีมันสกปรก ทำเอง ปั้มซีดีเองแล้วก็ส่งนักกฎหมายไปตีกิน พวกพ่อค้าซีดีก็เหมือนกันพูดอะไรก็อย่าไม่เชื่อมาก พวกนี้เป็นเรื่องของผลประโยชน์ทั้งนั้นบางครั้งพูดเองขายเองพิมพ์ปลอมเอง จะได้ไม่ต้องจ่ายมา เป็นเล่ห์เหลี่ยม บางทีก็มอบอำนาจให้นักกฎหมาย ไปตีกินทั่วประเทศที่ไหนยอมก็รับเงินมาก็เลิก อย่าไปฟังเขามาก มาวัดกับตนเองว่าใครมีความซื่อสัตย์สุจริตมากกว่ากับ” ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสอบสวนในส่วนของ บก.6 ด้วยหรือไม่หลังจากถูกกล่าวหาว่ารับส่วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า คุณแน่จริงไปหาหลักฐานที่ไหน คุณไปรับเงินใครคุณบอกใครหรือเปล่า ไม่มีหรอก เพียงแต่ว่าถ้าปล่อยปละละเลยมากๆ ก็ลงโทษกันไป แต่คนที่พูดเวอร์เกินไปอยากดัง ไปพูดจาใส่ความคนอื่นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน เอาหลักฐานอะไร ไปพูดคนโน้นคนนี้รับส่วย พูดอะไรต้องมีหลักฐานมีเหตุผล เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว
ต่อข้อถามที่ว่าในส่วนของดารานักร้องไปพูดกล่าวหาตำรวจรับส่วยจะดำเนินการฟ้องร้องหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เขาพูด ตนเองไม่ได้ยินหรอก ที่จะซวยคือหนังสือพิมพ์ที่เอาคำพูดเขาไปลง เพราะถ้าจะฟ้องก็ฟ้องหนังสือพิมพ์ ซึ่งพวกคุณเองต้องระวังว่าทำอะไรต้องมีเหตุผลมีหลักการ จะวิเคราะห์วิจารณ์อะไรก็ต้องมีเหตุผล
ด้าน พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วาณิชบุตร ผบก.ปศท.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ไปออก รายการตาสว่างทางช่อง 9 ซึ่งในรายการผู้ดำเนินรายการถามว่าเชื่อหรือไม่ว่า ตำรวจในพื้นที่ บก.น.6 รับส่วย 40 ล้าน ซึ่งในรายการตนเองบอกไปว่าไม่เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ซึ่งสามารถไปถอดเทปรายการมาฟังได้ เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงที่โกหกกันไม่ได้ ซึ่งหากถอดเทปรายการมาก็จะรู้ความจริงว่าตนเองไม่ได้พูด แต่ปัญหาคือมีคนไปรายงาน ผบ.ตร.ว่าตนเองพูดในรายการว่ามีการรับส่วย 40 ล้านจริง ทำให้ ผบ.ตร.เข้าใจตนเองผิด
“ขอยืนยันว่าผมไม่ได้พูดหรือพาดพิงว่าในพื้นที่ บก.น.6 รับส่วย และในรายการผมยังพูดว่าท้องที่มีภาระอย่างอื่นปัญหาอาชญากรรมที่ต้องดูแล ขณะเดียวกันก็ไม่เคยตอบโต้ ผบก.น.6 เพียงแต่ทาง ผบก.น.6 ออกมาแถลงข่าวว่ามีการจับกุมซีดีเถื่อน ซึ่งที่ผ่านมาผมจับซีดีทุกพื้นที่ไม่ได้เลือกว่าพื้นที่ไหน มีคนมาร้องหรือไม่มีคนมาร้องก็จับหมด ผมยืนยันว่าไม่เคยพูดว่าพื้นที่บก.น.6 รับส่วยเพียงแต่มีกลุ่มดารานักร้องที่ไปประท้วงพูดในวันที่ไปประท้วงซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลย” ผบก.ปศท.กล่าว