ผู้จัดการรายวัน - แบงก์คาดตลาดบัตรเครดิตปีหน้ายังขยายตัวได้ 15% "กสิกรไทย"ลุยขยายฐานบัตรเครดิตปีหน้าตั้งเป้าเพิ่ม 1.3-1.5 แสนใบ หรือ 18% พร้อมคุมเอ็นพีแอลไว้ที่ 2.3-2.5% ระบุการแข่งขันยังรุนแรงต่อเนื่องจากปีนี้ โดยเฉพาะในส่วนของบัตรแพลทินัม เผยกลยุทธเน้นออกแคมเปญเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบตรงตัว ด้าน"เคทีซี" เตรียมเดินหน้าตลาดท่องเที่ยวและสันทนาการเต็มสูบ ระบุเดินถูกทางทุ่มงบการตลาด 50 ล้านบาท จากปีนี้ใช้แค่ 14 ล้านบาท
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ในปีหน้าธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจบัตรเครดิตในส่วนของจำนวนบัตรไว้ที่ 18% หรือประมาณ 130,000-150,000 บัตร จากฐานบัตรในสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.1 ล้านบัตร ซึ่งเป็นระดับการเติบโตที่ใกล้เคียงกับในปีนี้ โดยเป็นบัตรที่มีการใช้จ่าย(แอคทีฟ)อยู่ที่ 55% ส่วนการขยายตัวของตลาดโดยรวมจะอยู่ที่ 14-15% และธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดสินเชื่อคงค้างไว้ที่ 18% จากปัจจุบันอยู่ที่ 19,000-20,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตตามสัดส่วนของจำนวนบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้น
โดยการแข่งขันในปีหน้านั้นจะยังคงมีความรุนแรงต่อเนื่องจากปีนี้ โดยส่วนหนึ่งจะมุ่งไปยังบัตรแพลทินัม ขณะที่ในส่วนของธนาคารจะเน้นในบัตรโกลด์ ไทเทเนี่ยม และแพลทินัม ซึ่งกลยุทธ์ที่จะใช้กับบัตรแพลทินัมจะยังคงเป็นการรักษาภาพที่เป็นแพลทินัม คือ กลุ่มเป้าหมายจะต้องมีรายได้ต่อเดือนที่ 100,000 บาทขึ้นไป โดยรูปแบบที่จะเข้าถึงลูกค้าดังกล่าวจะใช้วิธีการออกแคมเปญที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับบนโดยตรง เช่น มุ่งไปยังกลุ่มที่เป็นแพทย์หรือนักบิน เป็นต้น
ส่วนยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ปัจจุบันอยู่ที่ 2.3% ซึ่งในสิ้นปีคาดว่าจะปรับลดลงมาต่ำกว่าระดับปัจจุบัน ส่วนปีหน้าแนวโน้มเอ็นพีแอลจะขึ้นๆ ลงๆ ตามฤดูกาล โดยในช่วงต้นปีเอ็นพีแอลจะลดลง และจะสูงขึ้นในช่วงเดือน พ.ค.–มิ.ย. อย่างไรก็ตาม คาดว่าเอ็นพีแอลในปีหน้าจะอยู่ที่ 2.3-2.5% ซึ่งยังเป็นระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยระดับที่แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงและอาจทำให้ผู้ประกอบการบางรายเริ่มมีปัญหาคือระดับที่ 4% ส่วนการติดชิปการ์ดนั้นเหลืออีก 10%
นายสถาพร สิริสิงห รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายงานการตลาดเพื่อการสันทนาการ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทจะให้ความสำคัญกับการทำการตลาดบัตรเครดิตกลุ่มของการท่องเที่ยวและสันทนาการมากขึ้น โดยได้วงเงินงบการตลาดไว้ที่ 50 ล้านบาท จากปีนี้อยู่ที่ 14 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในกลุ่มการท่องเที่ยวในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2548 ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการมีสัดส่วน 5.2% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด และปี 2549 เพิ่มขึ้นมาเป็น 5.7-5.8% และใน 9 เดือนของปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.5% หรือคิดเป็นยอดใช้จ่ายประมาณ 3,300 ล้านบาท จากยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตรวมทั้งหมด 52,000 ล้านบาท ซึ่งชี้ให้เห็นว่าอัตราการเติบโตของยอดจ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างก้าวกระโดด โดยในปีหน้าคาดว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 9-10% ของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งหมด หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 5,000-6,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 50-100%จากปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทจะมีการจับมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพิ่มอีกประมาณ 50 บริษัท จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 20 บริษัท
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ในปีหน้าธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจบัตรเครดิตในส่วนของจำนวนบัตรไว้ที่ 18% หรือประมาณ 130,000-150,000 บัตร จากฐานบัตรในสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.1 ล้านบัตร ซึ่งเป็นระดับการเติบโตที่ใกล้เคียงกับในปีนี้ โดยเป็นบัตรที่มีการใช้จ่าย(แอคทีฟ)อยู่ที่ 55% ส่วนการขยายตัวของตลาดโดยรวมจะอยู่ที่ 14-15% และธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดสินเชื่อคงค้างไว้ที่ 18% จากปัจจุบันอยู่ที่ 19,000-20,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตตามสัดส่วนของจำนวนบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้น
โดยการแข่งขันในปีหน้านั้นจะยังคงมีความรุนแรงต่อเนื่องจากปีนี้ โดยส่วนหนึ่งจะมุ่งไปยังบัตรแพลทินัม ขณะที่ในส่วนของธนาคารจะเน้นในบัตรโกลด์ ไทเทเนี่ยม และแพลทินัม ซึ่งกลยุทธ์ที่จะใช้กับบัตรแพลทินัมจะยังคงเป็นการรักษาภาพที่เป็นแพลทินัม คือ กลุ่มเป้าหมายจะต้องมีรายได้ต่อเดือนที่ 100,000 บาทขึ้นไป โดยรูปแบบที่จะเข้าถึงลูกค้าดังกล่าวจะใช้วิธีการออกแคมเปญที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับบนโดยตรง เช่น มุ่งไปยังกลุ่มที่เป็นแพทย์หรือนักบิน เป็นต้น
ส่วนยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ปัจจุบันอยู่ที่ 2.3% ซึ่งในสิ้นปีคาดว่าจะปรับลดลงมาต่ำกว่าระดับปัจจุบัน ส่วนปีหน้าแนวโน้มเอ็นพีแอลจะขึ้นๆ ลงๆ ตามฤดูกาล โดยในช่วงต้นปีเอ็นพีแอลจะลดลง และจะสูงขึ้นในช่วงเดือน พ.ค.–มิ.ย. อย่างไรก็ตาม คาดว่าเอ็นพีแอลในปีหน้าจะอยู่ที่ 2.3-2.5% ซึ่งยังเป็นระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยระดับที่แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงและอาจทำให้ผู้ประกอบการบางรายเริ่มมีปัญหาคือระดับที่ 4% ส่วนการติดชิปการ์ดนั้นเหลืออีก 10%
นายสถาพร สิริสิงห รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายงานการตลาดเพื่อการสันทนาการ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทจะให้ความสำคัญกับการทำการตลาดบัตรเครดิตกลุ่มของการท่องเที่ยวและสันทนาการมากขึ้น โดยได้วงเงินงบการตลาดไว้ที่ 50 ล้านบาท จากปีนี้อยู่ที่ 14 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในกลุ่มการท่องเที่ยวในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2548 ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการมีสัดส่วน 5.2% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด และปี 2549 เพิ่มขึ้นมาเป็น 5.7-5.8% และใน 9 เดือนของปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.5% หรือคิดเป็นยอดใช้จ่ายประมาณ 3,300 ล้านบาท จากยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตรวมทั้งหมด 52,000 ล้านบาท ซึ่งชี้ให้เห็นว่าอัตราการเติบโตของยอดจ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างก้าวกระโดด โดยในปีหน้าคาดว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 9-10% ของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งหมด หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 5,000-6,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 50-100%จากปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทจะมีการจับมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพิ่มอีกประมาณ 50 บริษัท จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 20 บริษัท