ผู้จัดการรายวัน – ไทยแอทลาสฯ ทุ่ม 140 ล้านบาท โดดสมรภูมิเครื่องดื่มสปอร์ตดริงก์ ชูกำลัง กาแฟกระป๋อง มูลค่าร่วม 2.5 หมื่นล้านบาท ปีหน้าจ่อคิวปั้นสปอร์ตดริงก์ระเบิดศึกไตรมาสสอง อัดฉีด 80 ล้านบาท คลอดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มดี เซเว่น ตั้งเป้า 5 ปี รั้งอันดับ 3 ครองแชร์ 10-20% ปีแรกกวาดยอด 300 ล้านบาท
นายพิชญ ส่งศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยแอทลาส โกลบอลฟูด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม “ดี เซเว่น” เปิดเผยว่า นายสมบัติ อรรถสกุลชัย หนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัท ไทยแอดวานซ์ ฟูด (TAF) ผู้ผลิตและจำหน่ายนมเปรี้ยวยี่ห้อ บีทาเก้น ได้ก่อตั้งบริษัทไทยแอทลาส โกลบอลฟูด จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 15 ล้านบาท โดยได้ทุ่มงบ 130-140 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์ดีเซเว่น 100 ล้านบาท ส่วนเครื่องดื่มชูกำลัง และสปอร์ตดริงก์ ใช้งบ 30-40 ล้านบาท
สำหรับนโยบายการทำเครื่องดื่มทั้ง 3 ตลาด บริษัทมุ่งเน้นเซกเมนต์กลุ่มเป้าหมายแตกต่างจากผู้นำที่อยู่ในตลาด เนื่องจากทั้ง 3 ตลาดมีผู้นำที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น ตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มมูลค่า 9,000 ล้านบาท เติบโต 5-7% โดยเบอร์ดี้เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 60% เนสกาแฟ 30% ที่เหลือเป็นอื่นๆ 10% ส่วนตลาดสปอร์ตดริงก์มูลค่า 2,000 ล้านบาท เติบโต 5% สปอนเซอร์เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 69% และเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 14,000 ล้าน บาท เติบโตไม่มากแต่เป็นตลาดใหญ่ ซึ่งมีเอ็ม 150 เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 50%
ทั้งนี้ในปีหน้านี้บริษัทฯจะเปิดตัวสปอร์ตดริงก์ในช่วงไตรมาสสอง ส่วนเครื่องดื่มชูกำลังจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสสองหรือสาม ล่าสุดได้เปิดตัวกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มดี เซเว่น 2 รสชาติ ได้แก่ โรบัสต้า และเอ็กซ์ตร้า ริช เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ที่เดินทาง ซึ่งบริษัทฯจะเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าเองภายใต้การมีหน่วยรถ 25 คัน จำหน่ายผ่านช่องทางเทรดดิชันนัลเทรดสัดส่วน 60% และโมเดิร์นเทรด 40% โดยใช้งบการตลาด 80 ล้านบาท นำร่องทำโฆษณา 4 เรื่อง เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกที่ดีของคนไทย พร้อมแจกสินค้าตัวอย่าง 5 แสนกระป๋อง
นายพิชญ กล่าวว่า การทำตลาดบริษัทฯจะเน้นกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มดี เซเว่นเป็นหลัก ส่วนการเลือกลงตลาดเครื่องดื่มชูกำลังและสปอร์ตดริงก์ เนื่องจากมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มเดียวกัน ดังนั้นปีหน้านี้บริษัทฯเตรียมทุ่มงบ 100 ล้านบาทในการทำตลาดกาแฟดี เซเว่น พร้อมทั้งเตรียมเปิดตัวกาแฟทรีอินวันลงตลาดเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นตลาดเติบโตถึง 20% จากมูลค่า 4,500 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มดี เซเว่นขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของตลาดครองส่วนแบ่ง 10-20% ส่วนปีแรกตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 3% หรือมีรายได้ 240-300 ล้านบาท
นายพิชญ ส่งศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยแอทลาส โกลบอลฟูด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม “ดี เซเว่น” เปิดเผยว่า นายสมบัติ อรรถสกุลชัย หนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัท ไทยแอดวานซ์ ฟูด (TAF) ผู้ผลิตและจำหน่ายนมเปรี้ยวยี่ห้อ บีทาเก้น ได้ก่อตั้งบริษัทไทยแอทลาส โกลบอลฟูด จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 15 ล้านบาท โดยได้ทุ่มงบ 130-140 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์ดีเซเว่น 100 ล้านบาท ส่วนเครื่องดื่มชูกำลัง และสปอร์ตดริงก์ ใช้งบ 30-40 ล้านบาท
สำหรับนโยบายการทำเครื่องดื่มทั้ง 3 ตลาด บริษัทมุ่งเน้นเซกเมนต์กลุ่มเป้าหมายแตกต่างจากผู้นำที่อยู่ในตลาด เนื่องจากทั้ง 3 ตลาดมีผู้นำที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น ตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มมูลค่า 9,000 ล้านบาท เติบโต 5-7% โดยเบอร์ดี้เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 60% เนสกาแฟ 30% ที่เหลือเป็นอื่นๆ 10% ส่วนตลาดสปอร์ตดริงก์มูลค่า 2,000 ล้านบาท เติบโต 5% สปอนเซอร์เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 69% และเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 14,000 ล้าน บาท เติบโตไม่มากแต่เป็นตลาดใหญ่ ซึ่งมีเอ็ม 150 เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 50%
ทั้งนี้ในปีหน้านี้บริษัทฯจะเปิดตัวสปอร์ตดริงก์ในช่วงไตรมาสสอง ส่วนเครื่องดื่มชูกำลังจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสสองหรือสาม ล่าสุดได้เปิดตัวกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มดี เซเว่น 2 รสชาติ ได้แก่ โรบัสต้า และเอ็กซ์ตร้า ริช เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ที่เดินทาง ซึ่งบริษัทฯจะเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าเองภายใต้การมีหน่วยรถ 25 คัน จำหน่ายผ่านช่องทางเทรดดิชันนัลเทรดสัดส่วน 60% และโมเดิร์นเทรด 40% โดยใช้งบการตลาด 80 ล้านบาท นำร่องทำโฆษณา 4 เรื่อง เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกที่ดีของคนไทย พร้อมแจกสินค้าตัวอย่าง 5 แสนกระป๋อง
นายพิชญ กล่าวว่า การทำตลาดบริษัทฯจะเน้นกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มดี เซเว่นเป็นหลัก ส่วนการเลือกลงตลาดเครื่องดื่มชูกำลังและสปอร์ตดริงก์ เนื่องจากมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มเดียวกัน ดังนั้นปีหน้านี้บริษัทฯเตรียมทุ่มงบ 100 ล้านบาทในการทำตลาดกาแฟดี เซเว่น พร้อมทั้งเตรียมเปิดตัวกาแฟทรีอินวันลงตลาดเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นตลาดเติบโตถึง 20% จากมูลค่า 4,500 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มดี เซเว่นขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของตลาดครองส่วนแบ่ง 10-20% ส่วนปีแรกตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 3% หรือมีรายได้ 240-300 ล้านบาท