ผู้จัดการรายวัน – ลอยกระทงปีนี้คึกไม่ทั่ว ต่างชาติหวั่นปัญหาปริมาณน้ำมาก แหยงจองล่องเรือลอยกระทง “ริเวอร์คิงส์ครูสท์” ยอดวูบ 30% ส่วนตลาดคนไทยกลับคึกคัก เพราะตรงกับวันหยุด ขณะที่ผลการโปรโมทท่องเที่ยวทางน้ำอย่างต่อเนื่องเริ่มเห็นผล คาดคืนเดียวเงินสะพัด 22 ล้านบาท “เรือริเวอร์ไซด์” ปลื้มยอดจองทะลัก พร้อมปรับราคาอ้างน้ำมันพุ่ง
นายประสิทธิ์ วิชัยสุชาติ เลขาสมาคมเรือไทย และผู้บริหารเรือภัตตาคารริเวอร์ไซด์ เปิดเผยว่า เทศกาลลอยกระทงปีนี้ สำหรับตลาดคนไทยค่อนข้างคึกคัก ซึ่งอาจมาจากหลายปัจจัย เช่น ปีนี้ตรงกับวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุด ประกอบกับการจัดเทศกาลลอยกระทง ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้จัดกิจกรรมยิ่งใหญ่ต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 3 ในคอนเซปต์ “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ซึ่งมีการจัดตกแต่งเรือไฟ ประกวดในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนไทยเริ่มคุ้นเคยและคอยที่จะใช้คืนลอยกระทงเป็นการท่องเที่ยวทางน้ำอีกหนึ่งวัน ซึ่งปีนี้เฉพาะคืนวันลอยกระทง คาดว่าจะมีเงินสะพัดในธุรกิจเรือภัตตาคารประมาณ 20-22 ล้านบาท จากเรือภัตตาคารประมาณ 45 ลำ ไม่รวมเรือนำเที่ยวขนาดเล็กที่จะมีให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในคืนลอยกระทงอีกกว่า 300 ลำ
สำหรับเรือริเวอร์ไซด์ ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจองนั่งเรือภัตตาคารเต็มทั้ง 2 ลำแล้ว รวมประมาณ 600 ที่นั่ง ประมาณ 80% เป็นคนไทย กลุ่มครอบครัว และ คนทำงาน โดยปีนี้ยอมรับว่า ลูกค้าจองนั่งเรือริเวอร์ไซด์ในคืนวันลอยกระทงเร็วกว่าปีก่อนมาก ซึ่งปีนี้ เรือริเวอร์ไซด์ ขายบัตรในราคา 2,000 บาทต่อที่นั่ง เป็นราคาที่สูงกว่าปีก่อนที่จำหน่ายอยู่ 1,800 บาท เพราะต้นทุนค่าน้ำมันที่ค่าวัตถุดิบในการปรุงอาหารที่เพิ่มขึ้น
“ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ทั้ง กทม. กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท. ที่มีการโปรโมทการท่องเที่ยวทางน้ำอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา รวมถึงมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีการจัดกิจกรรม และ ทำการประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันนี้ การท่องเที่ยวทางน้ำในภาพรวมค่อนข้างฟื้นตัวเกือบเข้าสู่ภาวะปกติก่อนปีที่เกิดสึนามิแล้ว”
อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญของผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวและเรือภัตตาคารขณะนี้ คือต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงคิดเป็น 70% ของการประกอบธุรกิจนี้ ล่าสุด ทางกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี รับปากที่จะไปเจรจากับ ปตท.เพื่อขอให้มีการติดตั้งปั๊มแก๊ส NGV ลอยน้ำ อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการเรือ
ในส่วนของสมาคมเรือไทย ต้องการขอความช่วยเหลือจากภาครัฐในเรื่องของเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือ ให้แก่เจ้าของเรือที่ต้องติดตั้งแก๊ส NGV ให้แก่เครื่องยนต์เรือ เพื่อลดต้นทุน ยอมรับว่าปัญหาใหญ่คือแหล่งเงินทุน เพราะสถาบันการเงินไม่ยอมว่าเรือเป็นทรัพย์สินที่จะนำไปค้ำประกันเงินกู้ได้ ซึ่งผู้ประกอบการบางรายมีเรือนำเที่ยว 7-8 ลำ จึงไม่มีทุนที่จะไปติดตั้งแก๊สNGV
***น้ำมากกระทบต่างชาติซบ****
ทางด้านนายสกนต์ สุวัฒนกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เรือริเวอร์คิงส์ครูสท์ เปิดเผยว่า สำหรับปีนี้ จากเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ กทม. เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯลดลง จึงกระทบกับธุรกิจท่องเที่ยวทางน้ำโดยเฉพาะในส่วนของเรือภัตตาคาร ในส่วนของเรือริเวอร์คิงส์ครูสท์คาดว่าผลประกอบการน่าจะลดจากปีก่อนราว 20-30% สาเหตุหลักอีกอย่างหนึ่งคือปัญหาปริมาณน้ำมากในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำอื่นๆ นำให้นักท่องเที่ยววิตกเรื่องความปลอดภัย ซึ่งททท.และรัฐบาลควรเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความมั่นใจ
อย่างไรก็ตามเทศกาลลอยกระทงปีนี้ โดยเฉพาะในคืนวันที่ 24 พ.ย.50 ซึ่งเป็นคืนลอยกระทง ล่าสุดยังมีนักท่องเที่ยวจองนั่งเรือจำนวนไม่มากนัก ประมาณ70-80% ของที่นั่งเท่านั้น แต่ในสัปดาห์สุดท้ายก่อนคืนลอยกระทงน่าจะมียอดจองเพิ่มขึ้นอีก
“ปีนี้การจองเงียบเหงา และช้ากว่าปีก่อน ซึ่งจะจองที่นั่งกันแต่เนิ่นๆ มีเพียงลูกค้าที่โทรศัพท์มาสอบถามเท่านั้น”
สำหรับลูกค้าเรือริเวอร์คิงส์ครูสท์ 90% เป็นต่างชาติ ตลาดยุโรป อเมริกา และอังกฤษ ซึ่งปีนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะปกติไฮซีซั่นสำหรับเรือภัตตาคาจะเริ่มตั้งแต่เดือน กันยายนไปถึงสิ้นปี แต่ปีนี้ เพิ่มเริ่มมีนักท่องเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้เท่านั้น ซึ่งช้าไปถึง 2 เดือน
นายประสิทธิ์ วิชัยสุชาติ เลขาสมาคมเรือไทย และผู้บริหารเรือภัตตาคารริเวอร์ไซด์ เปิดเผยว่า เทศกาลลอยกระทงปีนี้ สำหรับตลาดคนไทยค่อนข้างคึกคัก ซึ่งอาจมาจากหลายปัจจัย เช่น ปีนี้ตรงกับวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุด ประกอบกับการจัดเทศกาลลอยกระทง ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้จัดกิจกรรมยิ่งใหญ่ต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 3 ในคอนเซปต์ “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ซึ่งมีการจัดตกแต่งเรือไฟ ประกวดในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนไทยเริ่มคุ้นเคยและคอยที่จะใช้คืนลอยกระทงเป็นการท่องเที่ยวทางน้ำอีกหนึ่งวัน ซึ่งปีนี้เฉพาะคืนวันลอยกระทง คาดว่าจะมีเงินสะพัดในธุรกิจเรือภัตตาคารประมาณ 20-22 ล้านบาท จากเรือภัตตาคารประมาณ 45 ลำ ไม่รวมเรือนำเที่ยวขนาดเล็กที่จะมีให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในคืนลอยกระทงอีกกว่า 300 ลำ
สำหรับเรือริเวอร์ไซด์ ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจองนั่งเรือภัตตาคารเต็มทั้ง 2 ลำแล้ว รวมประมาณ 600 ที่นั่ง ประมาณ 80% เป็นคนไทย กลุ่มครอบครัว และ คนทำงาน โดยปีนี้ยอมรับว่า ลูกค้าจองนั่งเรือริเวอร์ไซด์ในคืนวันลอยกระทงเร็วกว่าปีก่อนมาก ซึ่งปีนี้ เรือริเวอร์ไซด์ ขายบัตรในราคา 2,000 บาทต่อที่นั่ง เป็นราคาที่สูงกว่าปีก่อนที่จำหน่ายอยู่ 1,800 บาท เพราะต้นทุนค่าน้ำมันที่ค่าวัตถุดิบในการปรุงอาหารที่เพิ่มขึ้น
“ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ทั้ง กทม. กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท. ที่มีการโปรโมทการท่องเที่ยวทางน้ำอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา รวมถึงมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีการจัดกิจกรรม และ ทำการประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันนี้ การท่องเที่ยวทางน้ำในภาพรวมค่อนข้างฟื้นตัวเกือบเข้าสู่ภาวะปกติก่อนปีที่เกิดสึนามิแล้ว”
อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญของผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวและเรือภัตตาคารขณะนี้ คือต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงคิดเป็น 70% ของการประกอบธุรกิจนี้ ล่าสุด ทางกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี รับปากที่จะไปเจรจากับ ปตท.เพื่อขอให้มีการติดตั้งปั๊มแก๊ส NGV ลอยน้ำ อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการเรือ
ในส่วนของสมาคมเรือไทย ต้องการขอความช่วยเหลือจากภาครัฐในเรื่องของเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือ ให้แก่เจ้าของเรือที่ต้องติดตั้งแก๊ส NGV ให้แก่เครื่องยนต์เรือ เพื่อลดต้นทุน ยอมรับว่าปัญหาใหญ่คือแหล่งเงินทุน เพราะสถาบันการเงินไม่ยอมว่าเรือเป็นทรัพย์สินที่จะนำไปค้ำประกันเงินกู้ได้ ซึ่งผู้ประกอบการบางรายมีเรือนำเที่ยว 7-8 ลำ จึงไม่มีทุนที่จะไปติดตั้งแก๊สNGV
***น้ำมากกระทบต่างชาติซบ****
ทางด้านนายสกนต์ สุวัฒนกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เรือริเวอร์คิงส์ครูสท์ เปิดเผยว่า สำหรับปีนี้ จากเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ กทม. เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯลดลง จึงกระทบกับธุรกิจท่องเที่ยวทางน้ำโดยเฉพาะในส่วนของเรือภัตตาคาร ในส่วนของเรือริเวอร์คิงส์ครูสท์คาดว่าผลประกอบการน่าจะลดจากปีก่อนราว 20-30% สาเหตุหลักอีกอย่างหนึ่งคือปัญหาปริมาณน้ำมากในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำอื่นๆ นำให้นักท่องเที่ยววิตกเรื่องความปลอดภัย ซึ่งททท.และรัฐบาลควรเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความมั่นใจ
อย่างไรก็ตามเทศกาลลอยกระทงปีนี้ โดยเฉพาะในคืนวันที่ 24 พ.ย.50 ซึ่งเป็นคืนลอยกระทง ล่าสุดยังมีนักท่องเที่ยวจองนั่งเรือจำนวนไม่มากนัก ประมาณ70-80% ของที่นั่งเท่านั้น แต่ในสัปดาห์สุดท้ายก่อนคืนลอยกระทงน่าจะมียอดจองเพิ่มขึ้นอีก
“ปีนี้การจองเงียบเหงา และช้ากว่าปีก่อน ซึ่งจะจองที่นั่งกันแต่เนิ่นๆ มีเพียงลูกค้าที่โทรศัพท์มาสอบถามเท่านั้น”
สำหรับลูกค้าเรือริเวอร์คิงส์ครูสท์ 90% เป็นต่างชาติ ตลาดยุโรป อเมริกา และอังกฤษ ซึ่งปีนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะปกติไฮซีซั่นสำหรับเรือภัตตาคาจะเริ่มตั้งแต่เดือน กันยายนไปถึงสิ้นปี แต่ปีนี้ เพิ่มเริ่มมีนักท่องเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้เท่านั้น ซึ่งช้าไปถึง 2 เดือน