มีคนมาปรารภกับผมว่า เกิดมาเป็นคนไทยทุกวันนี้วันๆ มีแต่เรื่องรำคาญหัวใจไปหมดแทบจะหาที่อยู่ไม่ได้ เฉพาะอย่างยิ่ง อีกไม่กี่วันข้างหน้าที่จะมาถึงเราไม่รู้จะอยู่จะกินกันยังไง ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันเป็นกาลกิณีชีวิตไปหมด เมื่อการเลือกตั้งหลอกลวงประชาชนที่ส่วนมากยังไม่รู้ว่าความวิปริตเลวร้ายในบ้านตัวเองทุกวันนี้มันเกิดขึ้นมาจากอะไร เขาบอกว่ามีทางเดียวเท่านั้นที่พอรู้ชะตากรรมของตัวเองและคนไทยหลายสิบล้านคนในขณะนี้ได้ก็คือ การรู้ล่วงหน้าหรือคาดหมายว่ามันจะมีอะไรเจ็บปวดทารุณเพียงใดเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมาปกครองประเทศ
ปัญหานานาชนิดที่คนไทยทุกคนรู้สึกว่ามันทารุณต่อชีวิตและความเป็นอยู่นั้น ทุกคนรู้แต่เพียงว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเมืองภายในประเทศที่เต็มไปด้วยการปล้นสะดม การเอารัดเอาเปรียบและโกหกหลอกลวงประชาชนโดยการเมืองและนักการเมืองของเราที่มีมากยิ่งกว่าดอกเห็ดในบ้านเมือง แม้ว่านักการเมืองเหล่านี้จะโอ้อวดความรักชาติบ้านเมืองอย่างสุดหัวใจ ก็ไม่ยากที่คนไทยจะมองเห็น
มาถึงวันนี้ก็เป็นวันและฤดูกาลที่การเมืองปล้นชาติจะเริ่มต้นต่อไปอีก
ผมก็บอกว่าไม่มีใครรู้เหมือนกัน ผมเองมองไม่เห็น ก็ไม่รู้ รู้แต่เพียงว่าเป็นยุคที่เป็นเสนียดจัญไรที่จะเกิดขึ้นในบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่ง เพราะเพียงแต่คาดหมายว่าผู้คนที่จะขึ้นมาปกครองบ้านเมืองในวันข้างหน้านั้น คนไทยบางคนอาจจะบอกได้ว่าไปเสพเมถุนกับใครที่ไหนตามที่ตนถนัด นิยมเปิดเผย คอร์รัปชันหรือขายชาติที่ไหนมาอย่างไร และอาจจะยังทำนายอนาคตของตัวเองไม่ได้แม้ว่าจะรับเงินมาใช้เล่นเป็นฟ่อนแล้วก็ตาม แต่อดีตของตัวเองก็จะไม่มีใคร เพราะทุกอย่างที่เคยพูดที่คิดหรือที่ทำมาทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ส่วนมากก็มีแต่เรื่องที่หลับหูหลับตาทำกันมาทั้งนั้น หรือบางเรื่องที่ทำไปแล้วอาจจะเฉียดคุกเข้าไปแล้วก็ได้ ทั้งๆ ที่ประตูคุกที่ว่านั้นมันเปิดรออยู่แล้ว
พรรคพวกพยายามเค้นให้ผมแสดงความคิดเห็นออกมาในนามของนักโหราศาสตร์บางทีอาจจะช่วยผู้คนและบ้านเมืองได้ และเขาก็ขอให้ผมเป็นคนเขียน
เขาเชื่อว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าชาวโหราศาสตร์อาจจะพอช่วยได้บ้างหรืออาจจะช่วยได้มากก็จริง แต่ก็เป็นเรื่องน่าหัวเราะสำหรับคนไทยซึ่งมีความรู้และเฉลียวฉลาดอยู่มากในแต่ละคน เฉพาะนักการเมืองซึ่งมีความเชื่อมั่นในดวงชะตาของตนเอง อย่างพรรคพวกที่มาปรารภยืนยันว่านักการเมืองส่วนมากที่เข้ามาวุ่นวายในวงการเมืองขณะนี้ ส่วนมากเป็นคนมากไปด้วยอัจฉริยวุฒิและความสามารถเป็นเอกอุทั้งสิ้น
แต่สำหรับผมหรืออาจจะมีอีกหลายคนที่เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่ชั่วร้ายมาก และคนทุกคนที่บังเอิญต้องมารับผิดชอบเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งครั้งนี้จะพากันฉิบหายไปทีละเล็กละน้อยแบบมองไม่เห็น และความฉิบหายต่างๆ ก็จะเริ่มประชิดเข้ามาเกาะตัวตั้งแต่วันที่เข้ามาเกี่ยวข้องในระยะแรก ทุกคนอาจจะเป็นคนมีดวงชะตาดีจะได้เป็นใหญ่เป็นโต ได้เสวยสุขด้วยการคอร์รัปชัน แสดงความมีอำนาจหรือออกกฎหมายสร้างเวรสร้างกรรมให้แก่ตัวเองอย่างเร่งรีบ แต่ความชั่วในการเร่งทำเร่งสร้างนี้ ถ้ามันเป็นการทุจริตคิดมิชอบเอารัดเอาเปรียบคนอื่นหรือไม่มีศีลธรรมแล้ว
ผมรับรองว่าผลที่มันจะกลับมาเอาคืนก็คือ ความฉิบหายไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งที่ว่านั้น
ผมกล้ารับรองได้
อาจจะช้าบ้างเร็วบ้าง แต่ทุกคนจะต้องได้รับผลตอบแทนอย่างเป็นธรรม
ความจริงเสนียดจัญไรที่เกิดในบ้านเมือง นักการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบบ้านเมืองที่ก่อให้เกิดปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วในบ้านเมืองที่เรียกว่า “อภิไทยโพธิบาทว์” หรืออุบาทว์ 8 ประการจะต้องเกิดขึ้นในยุคใดยุคหนึ่งในบ้านเมือง ซึ่งเกิดขึ้นเพราะคนในสมัยนั้นมีคนชั่วเกิดขึ้นมากเกินไป มีอำนาจในบ้านเมืองมากเกินไป คนชั่วพวกนี้จะทำลายชาติทุกอย่าง ในปัจจุบันนี้เมืองไทยเคยถูกปล้นมาจนแทบไม่มีอะไรเหลืออยู่เป็นสิทธิของคนไทยนอกจากความเป็นทาส สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะการเมืองเพียงอย่างเดียว เมื่อนักการเมืองของชาติปล้นบ้านปล้นเมืองมาเป็นเวลานานปี ความผิดตามกฎหมายของคนพวกนี้ ถ้าจะว่ากันไปแล้วเราจะใช้แผ่นดินสร้างคุกขึ้นเพื่อเอาสัตว์ร้ายพวกนี้เข้าคุกให้หมด ว่ากันว่าแผ่นดินไทยไม่พอสำหรับจัดการกับพวกสัตว์ร้ายทางการเมืองพวกนี้เด็ดขาด
ผมก็ขอบอกกล่าวไปยังเพื่อนฝูงและท่านที่เคารพนับถือทุกท่านด้วยว่า คำบอกกล่าวของผมทั้งหมดนี้มิได้อาศัยความเท็จหรือความอิจฉาตาร้อนใดๆ การที่คนทุกคนตั้งเป้าหมายในชีวิตเอาไว้อย่างบรรเจิดเพริศพริ้ง แต่ทั้งหมดเป็นความเชื่อถือของคนโบราณที่ยืนยันว่าอภิไทยโพธิบาทว์ที่ว่านี้มีจริงและนับถือกันอย่างเคร่งครัดมาแต่โบราณจนกระทั่งปัจจุบันนี้ มันจะจริงเท็จมากน้อยแค่ไหนก็ขอให้สังวรเอาไว้
อุบาทว์ที่ผมนำมากล่าวถึงนี้เรียกว่าอุบาทว์พระอินทร์ มีคำบอกกล่าวเป็นเกร็ดไว้ชัดเจนพอสมควรว่า มันมีสิ่งบอกเหตุหลายประการว่าอุบาทว์นี้คือการให้โทษแก่บ้านเมือง และเสนียดจัญไรที่ท่านเรียกว่า อุบาทว์พระอินทร์ หมายถึงเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับเจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์ 8 ประการ เหตุการณ์ร้ายที่จะบอกกล่าวว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะมีบ้างเป็นลำดับไป เช่นบางตอนท่านว่า
“หนึ่งโสดท้าวไทยยินดีอยู่ในป่าพนาลี
และละพระราชวัง
หนึ่งมุขมนตรีชิงชิง ชิงกันดีหวัง
วิวาทะว้าวุ่นวาย
หนึ่งปราชญ์และญาติทั้งหลาย ผิดกันเองหมาย
บ่ควรคิดแค้นโกรธา”
อุบาทว์จัญไรหรือสิ่งบอกเหตุว่าจะเกิดความเลวร้ายในบ้านเมืองที่เรียกว่าอุบาทว์พระอินทร์นี้ จะมีสิ่งบอกเหตุมากมายหลายประการ ก็คือ (1) พระมหากษัตริย์ไม่ประทับในพระราชวังอย่างที่พระเวสสันดรเคยทำมาแล้วเมื่อหลายชาติก่อน พอพระทัยที่จะประทับตามป่าเขาหรือตามชนบททั่วไปเป็นประจำ (2) บ้านเมืองหรือในกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ที่มี ฯพณฯ ทำหน้าที่ปกครองอยู่จะขัดแย้งกันไม่หยุด บรรดานักปราชญ์ราชบัณฑิตก็ไปคิดว่าตนเก่งกว่าคนอื่น อวดวิเศษให้เป็นที่หมั่นไส้กันไม่หยุด
ตัวอย่างที่บอกถึงยุคที่เกิดเสนียดจัญไรในแผ่นดินจะเกิดสถานการณ์ทำนองนี้ขึ้นจนกว่าบ้านเมืองจะสามารถแก้ไขได้ มีคนยืนยันว่าขอให้ย้อนกลับไปดูพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ปัจจุบันในบางระยะ พระองค์ท่านจะไปประทับวังไกลกังวน หัวหิน เป็นประจำ พระองค์ท่านจะทรงทราบหรือไม่ว่าเป็นเรื่องของอภิไทยโพธิบาทว์ที่บันดาลให้พระองค์ท่านมีเหตุผลที่จะไปประทับเช่นนั้น แต่เมื่อสัตว์ร้ายถูกขับไล่ออกไปหาที่ซุกหัวนอนได้แล้ว คนไทยเริ่มมองเห็นปัญหาและตัวเสนียดจัญไรนี้จะสิ้นสุดลง เมื่อไม่กี่วันนี้พระองค์ท่านก็เสด็จฯ กลับวังหลวงตามปกติท่ามกลางการแสดงความห่วงใยของประชาชนทั้งประเทศ
นั่นแสดงให้คนโบราณทราบกันว่า อภิไทยโพธิบาทว์ในบ้านเมืองเรานั้นจะสิ้นบุญวาสนาของมันอย่างย่อยยับลงไปด้วย มันอยู่ไม่ได้เพราะมันคือความชั่ว!!
ตามตำราโบราณมีความว่า ต่อแต่นี้ไปเสนียดจัญไรที่เกิดขึ้นแก่บ้านเมืองจะหมดไปจากเมืองไทย ทุกอย่างในบ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง นักการเมืองที่ขายชาติอย่างที่เคยมีมาแล้วจะไม่มีวันหวนกลับมามีชีวิตก่อกวนพระบรมโพธิสมภารต่อไปอีก
ผมขอยืนยันว่าในดวงชะตาของคนมีบาปเหล่านี้ ถ้าคนมีดวงและรู้เรื่องดวงมันจะบอกชัดเจนว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไร?
เหตุผลที่ผมกล่าวมานี้ ผมขอตอบว่าเป็นเพราะดวงชะตาเมืองกำลังมีเคราะห์ที่จะใช้เวลาอยู่กับเคราะห์เป็นเวลานานแรมปี และในดวงนั้นบอกว่าดวงประเภทนี้จะต้องใช้หนี้ในนามของประเทศไทยฐานะที่คนในประเทศไทยได้ก่อกรรมทำไว้อย่างใดอย่างหนึ่ง การกระทำบาปกรรมหรือสร้างเวรขึ้นมาเป็นส่วนตัว คนไทยก็ต้องช่วยกันใช้กรรมนั้นร่วมกัน อย่างเวลานี้มีประเทศต่างๆ หลายประเทศที่เคยกดหัวประชาชนหากิน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายทุกคนจะต้องถูกขับไล่และต่อต้านออกนอกประเทศ จะมีความสุขความสงบหรืออาจจะต้องไปนอนฝันอยู่ในตะราง แต่เป็นระยะที่ทุกคนจะต้องใช้กรรมของคนไทยในฐานะที่เลือกและยอมรับคนชั่วขึ้นมาปกครองประเทศที่บรรพบุรุษของทุกคนร่วมกันสร้างมาไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
ในปากีสถานขณะนี้ทั้งการก่อการร้ายคนมุสลิมด้วยกันเอง และการตะเพิดนักการเมืองคอร์รัปชัน เช่นเดียวกับประเทศด้อยพัฒนาอื่นๆ ทั่วโลกในขณะนี้ นักโหราศาสตร์จะมองเห็นไปว่ามันเป็นกฎของกรรมที่ระบาดไปทั่ว หรือพูดง่ายๆ ก็คือกรรมจะเริ่มทำงานหรือสะสางหนี้สินของประชาชนในโลกต่างๆ
คนที่เข้ามาสู่วงการเมืองไม่ว่าจะระดับไหนเป็นใครเป็นตัวเคราะห์ร้าย และความฉิบหายต่างๆ ที่จะเข้ามาทำลายบ้านเมืองทั้งสิ้น นี่เป็นกฎเกณฑ์ทางโหราศาสตร์
เรื่องนี้ผมไม่ได้ยกเมฆขึ้นมาพูดเอง แต่นักโหราศาสตร์ทั่วโลกทั้งนักโหราศาสตร์สากลที่ศึกษาทายแบบสากล และโหราศาสตร์แบบนิรายนะหรือโหราศาสตร์อินเดีย และไทยที่เรากำลังใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ได้ทำนายและเขียนเรื่องราวเหล่านี้ไว้แล้ว
โหราศาสตร์ทั้งสองระบบนี้ใช้ราศี ดาวเคราะห์ และคำทำนายต่างๆ เหมือนกันทั้งสิ้น แต่รายละเอียดแตกต่างกันไปซึ่งไม่มากนัก เพียงแต่นำดาว 3 ดวงเข้ามาใช้ในโหราศาสตร์ของเขาอย่างสมบูรณ์เท่านั้น
โหราศาสตร์ 3 ดวงที่ว่านั้น คือ มฤตยู เนปจูน พลูโต
ดาวทั้ง 3 ดวงนี้เป็นดาวที่มีความรุนแรงสูง อย่างในปีนี้แผ่นดินไหว น้ำท่วม อุบัติเหตุ การโค่นล้มผู้นำชั่วในประเทศต่างๆ จะผิดปกติมากขึ้น
และดาว 3 ดวงนี้จะบอกทุกอย่างถึงการทำลายสิ่งชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างไม่ปรานี ถ้าถึงจังหวะที่ดาวเหล่านี้จะยอมไม่ได้ ซึ่งก็เห็นชัดเจนในดวงชะตาเมืองไทยในระยะเวลาหลายปีมานี้หรือตั้งแต่ระยะที่ราหูโคจรขึ้นมาทับอาทิตย์ในดวงชะตาเมืองไทยเมื่อ 3-4 ปีก่อน ซึ่งเป็นเวลาที่เมืองไทยเริ่มมีนักการเมืองชั่วขึ้นมาปกครองบ้านเมือง
ยิ่งกว่านั้น ในตอนนี้เป็นระยะเวลาที่ดาวเสาร์กำลังโคจรอยู่ที่ราศีสิงห์ตรงบริเวณ 14 องศา 35 ลิปดาในสภาพวิกลคติหรือถอยหลังในวันเลือกตั้ง และตรงจุดนั้นบอกชัดเจนว่าความฉิบหายและเสนียดจัญไรจะเกิดในบ้านเมือง เพราะเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา เป็นวันที่สุริยคราสจะให้โทษต่อดวงเมืองไทย
ผู้ที่สนใจ อ่านรายละเอียดจากหนังสือของผมชื่อ “มฤตยู เนปจูน พลูโต เทพเจ้าแห่งความวิบัติและการทำลายล้าง!”
ปัญหานานาชนิดที่คนไทยทุกคนรู้สึกว่ามันทารุณต่อชีวิตและความเป็นอยู่นั้น ทุกคนรู้แต่เพียงว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเมืองภายในประเทศที่เต็มไปด้วยการปล้นสะดม การเอารัดเอาเปรียบและโกหกหลอกลวงประชาชนโดยการเมืองและนักการเมืองของเราที่มีมากยิ่งกว่าดอกเห็ดในบ้านเมือง แม้ว่านักการเมืองเหล่านี้จะโอ้อวดความรักชาติบ้านเมืองอย่างสุดหัวใจ ก็ไม่ยากที่คนไทยจะมองเห็น
มาถึงวันนี้ก็เป็นวันและฤดูกาลที่การเมืองปล้นชาติจะเริ่มต้นต่อไปอีก
ผมก็บอกว่าไม่มีใครรู้เหมือนกัน ผมเองมองไม่เห็น ก็ไม่รู้ รู้แต่เพียงว่าเป็นยุคที่เป็นเสนียดจัญไรที่จะเกิดขึ้นในบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่ง เพราะเพียงแต่คาดหมายว่าผู้คนที่จะขึ้นมาปกครองบ้านเมืองในวันข้างหน้านั้น คนไทยบางคนอาจจะบอกได้ว่าไปเสพเมถุนกับใครที่ไหนตามที่ตนถนัด นิยมเปิดเผย คอร์รัปชันหรือขายชาติที่ไหนมาอย่างไร และอาจจะยังทำนายอนาคตของตัวเองไม่ได้แม้ว่าจะรับเงินมาใช้เล่นเป็นฟ่อนแล้วก็ตาม แต่อดีตของตัวเองก็จะไม่มีใคร เพราะทุกอย่างที่เคยพูดที่คิดหรือที่ทำมาทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ส่วนมากก็มีแต่เรื่องที่หลับหูหลับตาทำกันมาทั้งนั้น หรือบางเรื่องที่ทำไปแล้วอาจจะเฉียดคุกเข้าไปแล้วก็ได้ ทั้งๆ ที่ประตูคุกที่ว่านั้นมันเปิดรออยู่แล้ว
พรรคพวกพยายามเค้นให้ผมแสดงความคิดเห็นออกมาในนามของนักโหราศาสตร์บางทีอาจจะช่วยผู้คนและบ้านเมืองได้ และเขาก็ขอให้ผมเป็นคนเขียน
เขาเชื่อว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าชาวโหราศาสตร์อาจจะพอช่วยได้บ้างหรืออาจจะช่วยได้มากก็จริง แต่ก็เป็นเรื่องน่าหัวเราะสำหรับคนไทยซึ่งมีความรู้และเฉลียวฉลาดอยู่มากในแต่ละคน เฉพาะนักการเมืองซึ่งมีความเชื่อมั่นในดวงชะตาของตนเอง อย่างพรรคพวกที่มาปรารภยืนยันว่านักการเมืองส่วนมากที่เข้ามาวุ่นวายในวงการเมืองขณะนี้ ส่วนมากเป็นคนมากไปด้วยอัจฉริยวุฒิและความสามารถเป็นเอกอุทั้งสิ้น
แต่สำหรับผมหรืออาจจะมีอีกหลายคนที่เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่ชั่วร้ายมาก และคนทุกคนที่บังเอิญต้องมารับผิดชอบเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งครั้งนี้จะพากันฉิบหายไปทีละเล็กละน้อยแบบมองไม่เห็น และความฉิบหายต่างๆ ก็จะเริ่มประชิดเข้ามาเกาะตัวตั้งแต่วันที่เข้ามาเกี่ยวข้องในระยะแรก ทุกคนอาจจะเป็นคนมีดวงชะตาดีจะได้เป็นใหญ่เป็นโต ได้เสวยสุขด้วยการคอร์รัปชัน แสดงความมีอำนาจหรือออกกฎหมายสร้างเวรสร้างกรรมให้แก่ตัวเองอย่างเร่งรีบ แต่ความชั่วในการเร่งทำเร่งสร้างนี้ ถ้ามันเป็นการทุจริตคิดมิชอบเอารัดเอาเปรียบคนอื่นหรือไม่มีศีลธรรมแล้ว
ผมรับรองว่าผลที่มันจะกลับมาเอาคืนก็คือ ความฉิบหายไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งที่ว่านั้น
ผมกล้ารับรองได้
อาจจะช้าบ้างเร็วบ้าง แต่ทุกคนจะต้องได้รับผลตอบแทนอย่างเป็นธรรม
ความจริงเสนียดจัญไรที่เกิดในบ้านเมือง นักการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบบ้านเมืองที่ก่อให้เกิดปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วในบ้านเมืองที่เรียกว่า “อภิไทยโพธิบาทว์” หรืออุบาทว์ 8 ประการจะต้องเกิดขึ้นในยุคใดยุคหนึ่งในบ้านเมือง ซึ่งเกิดขึ้นเพราะคนในสมัยนั้นมีคนชั่วเกิดขึ้นมากเกินไป มีอำนาจในบ้านเมืองมากเกินไป คนชั่วพวกนี้จะทำลายชาติทุกอย่าง ในปัจจุบันนี้เมืองไทยเคยถูกปล้นมาจนแทบไม่มีอะไรเหลืออยู่เป็นสิทธิของคนไทยนอกจากความเป็นทาส สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะการเมืองเพียงอย่างเดียว เมื่อนักการเมืองของชาติปล้นบ้านปล้นเมืองมาเป็นเวลานานปี ความผิดตามกฎหมายของคนพวกนี้ ถ้าจะว่ากันไปแล้วเราจะใช้แผ่นดินสร้างคุกขึ้นเพื่อเอาสัตว์ร้ายพวกนี้เข้าคุกให้หมด ว่ากันว่าแผ่นดินไทยไม่พอสำหรับจัดการกับพวกสัตว์ร้ายทางการเมืองพวกนี้เด็ดขาด
ผมก็ขอบอกกล่าวไปยังเพื่อนฝูงและท่านที่เคารพนับถือทุกท่านด้วยว่า คำบอกกล่าวของผมทั้งหมดนี้มิได้อาศัยความเท็จหรือความอิจฉาตาร้อนใดๆ การที่คนทุกคนตั้งเป้าหมายในชีวิตเอาไว้อย่างบรรเจิดเพริศพริ้ง แต่ทั้งหมดเป็นความเชื่อถือของคนโบราณที่ยืนยันว่าอภิไทยโพธิบาทว์ที่ว่านี้มีจริงและนับถือกันอย่างเคร่งครัดมาแต่โบราณจนกระทั่งปัจจุบันนี้ มันจะจริงเท็จมากน้อยแค่ไหนก็ขอให้สังวรเอาไว้
อุบาทว์ที่ผมนำมากล่าวถึงนี้เรียกว่าอุบาทว์พระอินทร์ มีคำบอกกล่าวเป็นเกร็ดไว้ชัดเจนพอสมควรว่า มันมีสิ่งบอกเหตุหลายประการว่าอุบาทว์นี้คือการให้โทษแก่บ้านเมือง และเสนียดจัญไรที่ท่านเรียกว่า อุบาทว์พระอินทร์ หมายถึงเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับเจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์ 8 ประการ เหตุการณ์ร้ายที่จะบอกกล่าวว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะมีบ้างเป็นลำดับไป เช่นบางตอนท่านว่า
“หนึ่งโสดท้าวไทยยินดีอยู่ในป่าพนาลี
และละพระราชวัง
หนึ่งมุขมนตรีชิงชิง ชิงกันดีหวัง
วิวาทะว้าวุ่นวาย
หนึ่งปราชญ์และญาติทั้งหลาย ผิดกันเองหมาย
บ่ควรคิดแค้นโกรธา”
อุบาทว์จัญไรหรือสิ่งบอกเหตุว่าจะเกิดความเลวร้ายในบ้านเมืองที่เรียกว่าอุบาทว์พระอินทร์นี้ จะมีสิ่งบอกเหตุมากมายหลายประการ ก็คือ (1) พระมหากษัตริย์ไม่ประทับในพระราชวังอย่างที่พระเวสสันดรเคยทำมาแล้วเมื่อหลายชาติก่อน พอพระทัยที่จะประทับตามป่าเขาหรือตามชนบททั่วไปเป็นประจำ (2) บ้านเมืองหรือในกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ที่มี ฯพณฯ ทำหน้าที่ปกครองอยู่จะขัดแย้งกันไม่หยุด บรรดานักปราชญ์ราชบัณฑิตก็ไปคิดว่าตนเก่งกว่าคนอื่น อวดวิเศษให้เป็นที่หมั่นไส้กันไม่หยุด
ตัวอย่างที่บอกถึงยุคที่เกิดเสนียดจัญไรในแผ่นดินจะเกิดสถานการณ์ทำนองนี้ขึ้นจนกว่าบ้านเมืองจะสามารถแก้ไขได้ มีคนยืนยันว่าขอให้ย้อนกลับไปดูพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ปัจจุบันในบางระยะ พระองค์ท่านจะไปประทับวังไกลกังวน หัวหิน เป็นประจำ พระองค์ท่านจะทรงทราบหรือไม่ว่าเป็นเรื่องของอภิไทยโพธิบาทว์ที่บันดาลให้พระองค์ท่านมีเหตุผลที่จะไปประทับเช่นนั้น แต่เมื่อสัตว์ร้ายถูกขับไล่ออกไปหาที่ซุกหัวนอนได้แล้ว คนไทยเริ่มมองเห็นปัญหาและตัวเสนียดจัญไรนี้จะสิ้นสุดลง เมื่อไม่กี่วันนี้พระองค์ท่านก็เสด็จฯ กลับวังหลวงตามปกติท่ามกลางการแสดงความห่วงใยของประชาชนทั้งประเทศ
นั่นแสดงให้คนโบราณทราบกันว่า อภิไทยโพธิบาทว์ในบ้านเมืองเรานั้นจะสิ้นบุญวาสนาของมันอย่างย่อยยับลงไปด้วย มันอยู่ไม่ได้เพราะมันคือความชั่ว!!
ตามตำราโบราณมีความว่า ต่อแต่นี้ไปเสนียดจัญไรที่เกิดขึ้นแก่บ้านเมืองจะหมดไปจากเมืองไทย ทุกอย่างในบ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง นักการเมืองที่ขายชาติอย่างที่เคยมีมาแล้วจะไม่มีวันหวนกลับมามีชีวิตก่อกวนพระบรมโพธิสมภารต่อไปอีก
ผมขอยืนยันว่าในดวงชะตาของคนมีบาปเหล่านี้ ถ้าคนมีดวงและรู้เรื่องดวงมันจะบอกชัดเจนว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไร?
เหตุผลที่ผมกล่าวมานี้ ผมขอตอบว่าเป็นเพราะดวงชะตาเมืองกำลังมีเคราะห์ที่จะใช้เวลาอยู่กับเคราะห์เป็นเวลานานแรมปี และในดวงนั้นบอกว่าดวงประเภทนี้จะต้องใช้หนี้ในนามของประเทศไทยฐานะที่คนในประเทศไทยได้ก่อกรรมทำไว้อย่างใดอย่างหนึ่ง การกระทำบาปกรรมหรือสร้างเวรขึ้นมาเป็นส่วนตัว คนไทยก็ต้องช่วยกันใช้กรรมนั้นร่วมกัน อย่างเวลานี้มีประเทศต่างๆ หลายประเทศที่เคยกดหัวประชาชนหากิน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายทุกคนจะต้องถูกขับไล่และต่อต้านออกนอกประเทศ จะมีความสุขความสงบหรืออาจจะต้องไปนอนฝันอยู่ในตะราง แต่เป็นระยะที่ทุกคนจะต้องใช้กรรมของคนไทยในฐานะที่เลือกและยอมรับคนชั่วขึ้นมาปกครองประเทศที่บรรพบุรุษของทุกคนร่วมกันสร้างมาไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
ในปากีสถานขณะนี้ทั้งการก่อการร้ายคนมุสลิมด้วยกันเอง และการตะเพิดนักการเมืองคอร์รัปชัน เช่นเดียวกับประเทศด้อยพัฒนาอื่นๆ ทั่วโลกในขณะนี้ นักโหราศาสตร์จะมองเห็นไปว่ามันเป็นกฎของกรรมที่ระบาดไปทั่ว หรือพูดง่ายๆ ก็คือกรรมจะเริ่มทำงานหรือสะสางหนี้สินของประชาชนในโลกต่างๆ
คนที่เข้ามาสู่วงการเมืองไม่ว่าจะระดับไหนเป็นใครเป็นตัวเคราะห์ร้าย และความฉิบหายต่างๆ ที่จะเข้ามาทำลายบ้านเมืองทั้งสิ้น นี่เป็นกฎเกณฑ์ทางโหราศาสตร์
เรื่องนี้ผมไม่ได้ยกเมฆขึ้นมาพูดเอง แต่นักโหราศาสตร์ทั่วโลกทั้งนักโหราศาสตร์สากลที่ศึกษาทายแบบสากล และโหราศาสตร์แบบนิรายนะหรือโหราศาสตร์อินเดีย และไทยที่เรากำลังใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ได้ทำนายและเขียนเรื่องราวเหล่านี้ไว้แล้ว
โหราศาสตร์ทั้งสองระบบนี้ใช้ราศี ดาวเคราะห์ และคำทำนายต่างๆ เหมือนกันทั้งสิ้น แต่รายละเอียดแตกต่างกันไปซึ่งไม่มากนัก เพียงแต่นำดาว 3 ดวงเข้ามาใช้ในโหราศาสตร์ของเขาอย่างสมบูรณ์เท่านั้น
โหราศาสตร์ 3 ดวงที่ว่านั้น คือ มฤตยู เนปจูน พลูโต
ดาวทั้ง 3 ดวงนี้เป็นดาวที่มีความรุนแรงสูง อย่างในปีนี้แผ่นดินไหว น้ำท่วม อุบัติเหตุ การโค่นล้มผู้นำชั่วในประเทศต่างๆ จะผิดปกติมากขึ้น
และดาว 3 ดวงนี้จะบอกทุกอย่างถึงการทำลายสิ่งชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างไม่ปรานี ถ้าถึงจังหวะที่ดาวเหล่านี้จะยอมไม่ได้ ซึ่งก็เห็นชัดเจนในดวงชะตาเมืองไทยในระยะเวลาหลายปีมานี้หรือตั้งแต่ระยะที่ราหูโคจรขึ้นมาทับอาทิตย์ในดวงชะตาเมืองไทยเมื่อ 3-4 ปีก่อน ซึ่งเป็นเวลาที่เมืองไทยเริ่มมีนักการเมืองชั่วขึ้นมาปกครองบ้านเมือง
ยิ่งกว่านั้น ในตอนนี้เป็นระยะเวลาที่ดาวเสาร์กำลังโคจรอยู่ที่ราศีสิงห์ตรงบริเวณ 14 องศา 35 ลิปดาในสภาพวิกลคติหรือถอยหลังในวันเลือกตั้ง และตรงจุดนั้นบอกชัดเจนว่าความฉิบหายและเสนียดจัญไรจะเกิดในบ้านเมือง เพราะเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา เป็นวันที่สุริยคราสจะให้โทษต่อดวงเมืองไทย
ผู้ที่สนใจ อ่านรายละเอียดจากหนังสือของผมชื่อ “มฤตยู เนปจูน พลูโต เทพเจ้าแห่งความวิบัติและการทำลายล้าง!”