เฟสต้าประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมลงสมัครรับเลือกเป็นกรรมการบอร์ดททท. อ้างทุกตำแหน่งล็อกสเปกไว้หมดแล้ว เปิดประกาศรับสมัครแค่บังหน้า ด้าน สทท.ไม่สนเดินหน้า เฟ้นหาผู้สมัคร ล่าสุดเลื่อนเปิดรับสมัครถึง 16 พ.ย.50 ขณะที่มีข่าวลือดัน “โอภาส” เข้าชิง
นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) ในฐานะสมาชิกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) เปิดเผยว่า เฟสต้าไม่สนใจที่จะส่งคนเข้าไปร่วมสมัครเพื่อรับเลือกเป็นตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการบริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ด) ตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.การท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ.2550 ขณะที่โดยส่วนตัวก็ไม่สนใจเป็นผู้สมัครอิสระเช่นกัน เพราะ อายุมากกว่าที่กำหนด คือ เกิน 65 ปี นอกจากนั้นยังเชื่อว่า การคัดครั้งนี้ มีการล็อกสเปคไว้หมดแล้ว คือ มีวางคนที่จะเข้ามารับตำแหน่งไว้หมดแล้ว แต่ ต้องเปิดรับสมัครให้ดูเป็นพิธีการตามระเบียบเท่านั้น
ดังนั้นจากการประเมินสถานการณ์ กันในกลุ่มเฟสต้า เราจึงไม่สนใจที่จะส่งคนเข้าสมัคร เพราะเสียเวลาเปล่า โดยจะขอเป็นภาคเอกชน ที่พร้อมให้คำปรึกษา ข้อเสนอแนะถึงปัญหาอุปสรรคและการแก้ไขอยู่รอบนอก แต่ทั้งนี้ เฟสต้าก็ไม่ได้ปิดกั้น หากสมาชิก ของทั้ง 5 สมาคมในกลุ่มเฟสต้าคนใด ต้องการเข้าไปสมัครแข่งขัน
ทางด้านนายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) ในฐานะโฆษก เฟสต้า กล่าวว่า ที่เฟสต้าไม่สนใจส่งตัวแทนไปสมัครรับคัดเลือกเป็นกรรมการในบอร์ด ททท. เพราะเกรงว่า เมื่อได้ตำแหน่งไปแล้ว จะถูกครหาได้ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะตามกฎหมาย ผู้ที่เป็นกรรมการ จะต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจท่องเที่ยว ไม่มีหุ้นอยู่ในบริษัท โดยเฉพาะบริษัทที่ได้งานจาก ททท. ซึ่งแม้ว่าผู้สมัครจะเคลียร์ตัวเองหมดแล้วก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าทุกคนอาจต้องโดนพาดพิง และบางรายข้อมูลอาจเป็นจริงก็ได้
ยืดเวลาเฟ้นหาผู้สมัคร
ในส่วนของ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ในฐานะ รองประธาน กล่าวว่า ล่าสุด สทท.ได้ขยายเวลาการเปิดรับสมัครผู้สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้แทน สทท. เพื่อไปนั่งในตำแหน่งกรรมการในบอร์ดททท. ออกไปถึงวันที่ 16 พ.ย.50 จากกำหนดเดิมที่ปิดรับสมัครในวันที่ 6 พ.ย.50 เพราะต้องการให้มีผู้สมัครเข้ามามากๆ ให้ครอบคลุมทุกวิชาชีพด้านท่องเที่ยว อีกทั้งยังต้องการชี้แจงว่า ผู้ที่สนใจไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกของ สทท.ก็สามารถมาสมัครได้ เพียงแต่เป็นผู้ที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการด้านท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้มีผู้สมัครประมาณ 10 ราย แต่ สทท.ยังต้องการเพิ่มอีกจึงตัดสินใจขยายเวลา
“เมื่อปิดรับสมัคร เราจะทำการคัดสรรในรอบแรก 6 คน เพื่อ ส่งรายชื่อเข้าไปในการประชุมบอร์ดสทท.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 พ.ย.50 คัดให้เหลือ 2 ราย แล้วนำเสนอต่อบอร์ดททท.เป็นลำดับต่อไป “ นางปิยะมาน กล่าว
“โอภาส”หยั่งเชิงขอศึกษาก่อนสมัคร
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า หนึ่งในผู้ที่จะสมัครเข้ารับตำแหน่งกรรมการบอร์ดททท. คือ นายโอภาส เนตรอำไพ ที่ปรึกษาสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ ทิก้า จากข้อมูลดังกล่าว นายโอภาส กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา โครงสร้างของคณะกรรมการบริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ด) ที่จะมีขึ้นตามพ.ร.บ.การท่องเที่ยวฉบับใหม่นี้ ว่าจะมีวิธีการดำเนินงานอย่างไรบ้าง เพราะขณะนี้ยอมรับว่า มีเพื่อนๆที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสนับสนุนให้ตนลงสมัครเข้ารับเลือกเป็นกรรมการในบอร์ดททท. ตามที่ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.)กำลังประกาศรับสมัครอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นจึงต้องขอศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่า หากได้รับเลือกเข้าไปเป็นกรรมการแล้ว จะสามารถทำประโยชน์ให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้จริง
“ในส่วนตัวยอมรับว่าเคยทำงานเป็นพนักงาน ททท.มาก่อนที่จะออกมาทำธุรกิจของตัวเอง จึงค่อนข้างรู้ดีว่า หน่วยงานนี้ทำงานกันอย่างไร หาก เข้าไปเป็นกรรมการในบอร์ด ก็คงทำงานร่วมกับ ททท.ได้อย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะสมัครหรือไม่ ขอเวลาศึกษาให้ละเอียดก่อนจะดีกว่า”
นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) ในฐานะสมาชิกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) เปิดเผยว่า เฟสต้าไม่สนใจที่จะส่งคนเข้าไปร่วมสมัครเพื่อรับเลือกเป็นตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการบริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ด) ตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.การท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ.2550 ขณะที่โดยส่วนตัวก็ไม่สนใจเป็นผู้สมัครอิสระเช่นกัน เพราะ อายุมากกว่าที่กำหนด คือ เกิน 65 ปี นอกจากนั้นยังเชื่อว่า การคัดครั้งนี้ มีการล็อกสเปคไว้หมดแล้ว คือ มีวางคนที่จะเข้ามารับตำแหน่งไว้หมดแล้ว แต่ ต้องเปิดรับสมัครให้ดูเป็นพิธีการตามระเบียบเท่านั้น
ดังนั้นจากการประเมินสถานการณ์ กันในกลุ่มเฟสต้า เราจึงไม่สนใจที่จะส่งคนเข้าสมัคร เพราะเสียเวลาเปล่า โดยจะขอเป็นภาคเอกชน ที่พร้อมให้คำปรึกษา ข้อเสนอแนะถึงปัญหาอุปสรรคและการแก้ไขอยู่รอบนอก แต่ทั้งนี้ เฟสต้าก็ไม่ได้ปิดกั้น หากสมาชิก ของทั้ง 5 สมาคมในกลุ่มเฟสต้าคนใด ต้องการเข้าไปสมัครแข่งขัน
ทางด้านนายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) ในฐานะโฆษก เฟสต้า กล่าวว่า ที่เฟสต้าไม่สนใจส่งตัวแทนไปสมัครรับคัดเลือกเป็นกรรมการในบอร์ด ททท. เพราะเกรงว่า เมื่อได้ตำแหน่งไปแล้ว จะถูกครหาได้ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะตามกฎหมาย ผู้ที่เป็นกรรมการ จะต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจท่องเที่ยว ไม่มีหุ้นอยู่ในบริษัท โดยเฉพาะบริษัทที่ได้งานจาก ททท. ซึ่งแม้ว่าผู้สมัครจะเคลียร์ตัวเองหมดแล้วก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าทุกคนอาจต้องโดนพาดพิง และบางรายข้อมูลอาจเป็นจริงก็ได้
ยืดเวลาเฟ้นหาผู้สมัคร
ในส่วนของ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ในฐานะ รองประธาน กล่าวว่า ล่าสุด สทท.ได้ขยายเวลาการเปิดรับสมัครผู้สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้แทน สทท. เพื่อไปนั่งในตำแหน่งกรรมการในบอร์ดททท. ออกไปถึงวันที่ 16 พ.ย.50 จากกำหนดเดิมที่ปิดรับสมัครในวันที่ 6 พ.ย.50 เพราะต้องการให้มีผู้สมัครเข้ามามากๆ ให้ครอบคลุมทุกวิชาชีพด้านท่องเที่ยว อีกทั้งยังต้องการชี้แจงว่า ผู้ที่สนใจไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกของ สทท.ก็สามารถมาสมัครได้ เพียงแต่เป็นผู้ที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการด้านท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้มีผู้สมัครประมาณ 10 ราย แต่ สทท.ยังต้องการเพิ่มอีกจึงตัดสินใจขยายเวลา
“เมื่อปิดรับสมัคร เราจะทำการคัดสรรในรอบแรก 6 คน เพื่อ ส่งรายชื่อเข้าไปในการประชุมบอร์ดสทท.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 พ.ย.50 คัดให้เหลือ 2 ราย แล้วนำเสนอต่อบอร์ดททท.เป็นลำดับต่อไป “ นางปิยะมาน กล่าว
“โอภาส”หยั่งเชิงขอศึกษาก่อนสมัคร
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า หนึ่งในผู้ที่จะสมัครเข้ารับตำแหน่งกรรมการบอร์ดททท. คือ นายโอภาส เนตรอำไพ ที่ปรึกษาสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ ทิก้า จากข้อมูลดังกล่าว นายโอภาส กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา โครงสร้างของคณะกรรมการบริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ด) ที่จะมีขึ้นตามพ.ร.บ.การท่องเที่ยวฉบับใหม่นี้ ว่าจะมีวิธีการดำเนินงานอย่างไรบ้าง เพราะขณะนี้ยอมรับว่า มีเพื่อนๆที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสนับสนุนให้ตนลงสมัครเข้ารับเลือกเป็นกรรมการในบอร์ดททท. ตามที่ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.)กำลังประกาศรับสมัครอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นจึงต้องขอศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่า หากได้รับเลือกเข้าไปเป็นกรรมการแล้ว จะสามารถทำประโยชน์ให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้จริง
“ในส่วนตัวยอมรับว่าเคยทำงานเป็นพนักงาน ททท.มาก่อนที่จะออกมาทำธุรกิจของตัวเอง จึงค่อนข้างรู้ดีว่า หน่วยงานนี้ทำงานกันอย่างไร หาก เข้าไปเป็นกรรมการในบอร์ด ก็คงทำงานร่วมกับ ททท.ได้อย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะสมัครหรือไม่ ขอเวลาศึกษาให้ละเอียดก่อนจะดีกว่า”